เกาหลีเหนือพบผู้ป่วย “เป็นไข้” เพิ่มขึ้นกว่า 200,000 คนต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 หลังรัฐบาลได้ประกาศยืนยันพบการระบาดของโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนความเสี่ยงที่เชื้อจะเกิดการกลายพันธุ์รุนแรงยิ่งกว่าเดิม หากปล่อยให้ระบาดอย่างไร้การควบคุม
การระบาดที่เกิดขึ้น “ครั้งแรก” ในรัฐโสมแดงกระพือความวิตกกังวลจากหลายฝ่าย เนื่องจากเกาหลีเหนือซึ่งมีประชากรราว 25 ล้านคน ปฏิเสธที่รับวัคซีนจากต่างชาติมาโดยตลอด
สำนักข่าว KCNA อ้างข้อมูลจากศูนย์บัญชาการป้องกันโรคระบาดฉุกเฉินซึ่งระบุว่า จำนวนผู้ป่วยที่มีอาการไข้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 219,030 รายในช่วงค่ำวันศุกร์ (20 พ.ค.) ซึ่งทำให้ยอดสะสมทั่วประเทศในขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 2,460,640 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 รวมเป็น 66 ราย
อย่างไรก็ดี สื่อโสมแดงไม่ได้ระบุชัดเจนว่าในจำนวนคนป่วยเหล่านี้มีผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดกี่ราย
คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการกรมการเมือง (politburo) ของพรรคแรงงานเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (21) เพื่อติดตามสถานการณ์ตลอดช่วง 9 วัน หลังจากที่รัฐบาลออกมายืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มแรกในประเทศ
KCNA ระบุว่า ผู้นำ คิม ได้กล่าว “ชื่นชม” โครงการณรงค์ต่อต้านโควิด-19 แต่ก็เรียกร้องให้มีการปรับยุทธศาสตร์ตลอดเวลา “เพื่อคว้าโอกาสในการเอาชนะสงครามกับโรคระบาดครั้งนี้”
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่า เนื่องจากเกาหลีเหนือไม่มีโครงการฉีดวัคซีน และมีศักยภาพในการตรวจหาเชื้อที่จำกัด ตัวเลขผู้ป่วยรายวันที่รัฐบาลประกาศจึงน่าจะต่ำกว่าความเป็นจริง และเวลานี้ยังยากที่จะประเมินระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาด
สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ได้ออกมาเตือนถึงผลลัพธ์ขั้น “หายนะ” ที่อาจเกิดขึ้นกับชาวโสมแดง 25 ล้านคน ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงความกังวลว่า หากปล่อยให้เชื้อแพร่ระบาดอย่างไร้การควบคุมอาจจะทำให้ไวรัส “กลายพันธุ์” จนเกิดเป็นเชื้อสายพันธุ์ย่อยที่รุนแรงขึ้น
ที่มา : รอยเตอร์