หวง ซีเหลียน (Huang Xilian) เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมะนิลา กล่าวแสดงความเชื่อมั่นวันนี้ (12 พ.ค.) ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม ภายใต้การบริหารของผู้นำรัฐบาลใหม่ที่มีชื่อว่า “เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์”
มาร์กอส จูเนียร์ หรือ “บองบอง” ซึ่งเป็นบุตรชายของอดีตผู้นำเผด็จการ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส คว้าชัยชนะแบบ “แลนด์สไลด์” ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ซึ่งจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ และเป็นชัยชนะที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะทำให้รูปแบบความสัมพันธ์ของมะนิลากับจีน และสหรัฐฯ แปลงเปลี่ยนไปไม่น้อย
หวง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า รัฐบาลจีนรอคอยที่จะได้ทำงานร่วมกับคณะบริหารฟิลิปปินส์ชุดใหม่ เพื่อยกระดับความร่วมมือในด้านต่างๆ
มาร์กอส จูเนียร์ มีสายสัมพันธ์ที่อบอุ่นใกล้ชิดกับจีนมาช้านาน และเจ้าตัวก็คาดหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงใหม่กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เกี่ยวกับประเด็นน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้
ฟิลิปปินส์ถือเป็นเป้าหมายสำคัญในการแข่งขันด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และมีอาณาเขตทางทะเลครอบคลุมบางส่วนของทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญของโลก และเต็มไปด้วยทรัพยากรทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
แม้ฟิลิปปินส์จะทำสนธิสัญญาเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ แต่การก้าวขึ้นสู่อำนาจของทายาทเผด็จการ มาร์กอส ในวันนี้ก็ถือเป็น “ข่าวร้าย” สำหรับความพยายามของวอชิงตันที่จะสกัดกั้นอิทธิพลจีน
มาร์กอส จูเนียร์ มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะราบรื่นกับสหรัฐฯ เนื่องจากเขาและนาง “อิเมลดา” ผู้เป็นมารดา เคยถูกศาลแขวงรัฐฮาวายสั่งให้จ่ายคืนเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ที่ปล้นไปจากคลังเพื่อเยียวยาเหยื่อผู้ถูกล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยระบอบเผด็จการมาร์กอส ทว่าครอบครัวเขาปฏิเสธที่จะทำตาม และโดนสั่งปรับอีกหลายร้อยล้านดอลลาร์โทษฐาน “หมิ่นศาล”
เคิร์ต แคมป์เบลล์ ผู้ประสานงานของทำเนียบขาวฝ่ายกิจการอินโด-แปซิฟิก ยืนยันวานนี้ (11) ว่า สหรัฐฯ ต้องการที่จะสานความร่วมมือกับรัฐบาล มาร์กอส ตั้งแต่เนิ่นๆ แม้ว่าปมขัดแย้งในอดีตอาจจะเป็น “อุปสรรคท้าทาย” อยู่บ้างก็ตาม
ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับ มาร์กอส จูเนียร์ ในโอกาสที่ชนะศึกเลือกตั้ง พร้อมยืนยันว่าสหรัฐฯ พร้อมจะยกระดับความเป็นพันธมิตรกับฟิลิปปินส์ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ที่มา : รอยเตอร์