เอเจนซีส์ - เพนตากอนป้อนข่าวกรองให้ยูเครนเกี่ยวกับกองกำลังรัสเซีย จนทำให้ประสบความสำเร็จสามารถสังหารนายพลรัสเซียในสนามรบไปแล้วไม่ต่ำกว่า 12 คน เป็นข่าวกรองแบบเรียลไทม์ รวมถึงการประเมินความเคลื่อนไหวหน่วยรบรัสเซีย พิกัดเอชคิว กองบัญชาการเคลื่อนที่ของหน่วยรบ แต่สภาความมั่นคงสหรัฐฯ ปฏิเสธอ้างไม่ใช่เจตนา
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานเมื่อวานนี้ (4 พ.ค.) ว่า แหล่งข่าวระดับสูงสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ช่วยให้ข่าวกรองสำคัญแก่ยูเครนเกี่ยวกับหน่วยรบรัสเซียที่เปิดโอกาสให้เคียฟสามารถชี้เป้าและสังหารนายพลรัสเซียเป็นจำนวนมากในสมรภูมิรบในยูเครน
ที่ผ่านมา เคียฟเปิดเผยว่ามีนายพลรัสเซียเสียชีวิตในการรบไปแล้วถึง 12 คน เป็นตัวเลขที่สร้างความแปลกใจแก่บรรดานักวิเคราะห์การทหาร
การช่วยชี้เป้าเป็นผลมาจากความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่มอบการข่าวกรองสมรภูมิรบแบบเรียลไทม์ ให้ 'ยูเครน' ซึ่งรวมไปถึงการคาดการณ์ถึงการเคลื่อนกำลังพลที่ได้มาจากการวิเคราะห์ล่าสุดของฝ่ายสหรัฐฯ ในแผนการต่อสู้ลับของรัสเซียในสมรภูมิดอนบาส อ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวไม่ยอมเปิดเผยว่าผลการป้อนข่าวกรองแบบเรียลไทม์ให้ยูเครนทำให้นายพลกองกำลังรัสเซียต้องจบชีวิตไปแล้วมากเพียงใด
ทั้งนี้ บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (1) ว่ายูเครนแถลงว่า พล.ต.อันเดร ซิโมนอฟ (Maj. Gen.Andrei Simonov) ของกองกำลังรัสเซียถูกสังหารในการโจมตีที่ที่ตั้งกองบัญชาการของหน่วย Russian 2nd Army เมื่อวันเสาร์ (30 เม.ย.) ในอิซยุม (Izyum) ประสบความสำเร็จทำลายยานยนต์หุ้มเกราะ รวมรถถังไป 30 คัน
เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า ซิโมนอฟเป็นผู้บัญชาการคุมหน่วยอิเล็กทริก-วอร์แฟร์ (electric-warfare) และการเสียชีวิตของเขาเป็นการเสียชีวิตของนายพลรัสเซียคนที่ 10 อ้างอิงจากเคียฟโพสต์ ซึ่งการโจมตีครั้งนี้ทำให้มีทหารเสียชีวิตไปราว 100 นาย รวมซิโมนอฟ
นิวยอร์กไทม์สชี้ว่า ในการส่งข่าวกรองให้ยูเครนนั้นสหรัฐฯ มีเป้าหมายในการมอบพิกัดและรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับเอชคิวกองบัญชาการเคลื่อนที่ของรัสเซียที่มักชอบเปลี่ยนที่ตั้งเสมอและฝ่ายยูเครนจะทำการรวบรวมข้อมูลภูมิศาสตร์รวมเข้ากับข่าวกรองของตัวเองที่รวมถึงข่าวที่ได้มาจากการดักฟังการสื่อสารฝ่ายตรงข้าม และทำให้กองกำลังยูเครนรู้ถึงการปรากฏตัวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงรัสเซียเพื่อทำการโจมตีด้วยปืนใหญ่ หรือวิธีอื่นๆ เพื่อสังหารคนเหล่านี้
หนังสือพิมพ์สหรัฐฯ รายงานว่า ข่าวกรองลับที่เพนตากอนส่งให้ยูเครนมีผลกระทบอย่างแม่นยำต่อสมรภูมิรบ ยืนยันเป้าหมายที่ถูกชี้ตัวโดยกองทัพยูเครนและชี้ไปที่เป้าหมายใหม่
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการให้ข่าวกรองสมรภูมิการรบนี้ถูกเก็บเป็นความลับเพราะวิตกว่าอาจถูกมองว่าเป็นการยกระดับและอีกทั้งยังเสี่ยงต่อการยั่วยุประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ที่จะทำให้สงครามมีขอบเขตกว้างขึ้น พบว่าตลอดทั้งสงครามหน่วยข่าวกรองลับสหรัฐฯ หลายหน่วยใช้หลายแหล่งที่มา รวมไปถึงดาวเทียมเชิงพาณิชย์และดาวเทียมสอดแนมทางการทหารเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวกองกำลังรัสเซีย
ซึ่งหลังจากที่รายงานเพนตากอนป้อนข่าวกรองลับให้ยูเครนเพื่อสังหารนายพลรัสเซียถูกเผยแพร่ออกไป โฆษกประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เอเดรียน วัตสัน (Adrienne Watson) ออกมาแถลงว่า “ข่าวกรองสนามรบของสหรัฐฯ ที่มอบให้ยูเครนไม่มีเจตนาเพื่อจะสังหารนายพลรัสเซีย”
โดยชี้ไปว่าไม่ใช่การโจมตีทุกครั้งที่ออกไปจะเกิดมาจากข่าวกรองสหรัฐฯ
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า การโจมตีช่วงสุดสัปดาห์ทางตะวันออกของยูเครน ที่นายพลวาเลอรี การาซิมอฟ (Valery Gerasimov) เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงสุดของกองกำลังรัสเซียได้ไปเยือนในพิกัดนั้นไม่ได้เป็นผลที่เกิดมาจากข่าวกรองสหรัฐฯ อ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคน ทั้งนี้ สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ข่าวกรองเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย แต่ทว่าแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่า ข่าวกรองสหรัฐฯ ที่ให้นั้นมีบทบาทสำคัญต่อการเสียชีวิตของนายพลรัสเซียรายอื่นๆ ซึ่งนอกเหนือจากสหรัฐฯ แล้ว ชาติพันธมิตรนาโต้อื่นได้มอบข่าวกรองแบบเรียลไทม์ให้ยูเครนเช่นกัน