xs
xsm
sm
md
lg

ลงมือเอง! CIA ล้วงตับ "ปูติน" เปิดดาร์กเน็ตหาสายข่าวในเครมลิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/เอพี - เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) CIA หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียให้ประชาชนรัสเซียในประเทศที่มีความเห็นคัดค้านสงครามยูเครนสามารถติดต่อหน่วยงานโดยตรงผ่านช่องทางความปลอดภัยสูงเว็บไซต์ดาร์กเน็ต หรือผ่านทาง VPN หวังได้สายข่าวภายในเครมลินป้อนข้อมูลสำคัญ ท่ามกลางวิตกในความปลอดภัยคนเหล่านี้หลังเครมลินยังคงกวาดล้างข้อมูลนอกประเทศ และพวกฝ่ายต่อต้านไม่หยุดหย่อน

CBS News รายงานเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ CIA เปิดเผยถึงที่มาของการเปิดช่องทางดาร์กเน็ตเพื่อให้พลเมืองรัสเซียสามารถติดต่อกับสำนักงาน CIA ของสหรัฐฯ ได้โดยตรงว่า “พวกเรากำลังออกคำแนะนำในภาษารัสเซียหรือการติดต่อ CIA อย่างปลอดภัยผ่านทางดาร์กเน็ต หรือเครือข่าย VPN สำหรับคนที่ต้องการติดต่อกับเราเพราะสงครามที่ไม่ชอบธรรมของรัฐบาลรัสเซีย”

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ CIA ยืนยันว่า “เป้าหมายของเราในระดับโลกคือต้องทำให้ทุกคนที่ต้องการติดต่อเราสามารถกระทำได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน”

ทั้งนี้ ในวันจันทร์ (2) CIA ได้เริ่มต้นเผยแพร่คำแนะนำทั้งในภาษารัสเซียและภาษาอังกฤษผ่านทางโซเชียลมีเดีย รวมถึงยูทูบ เฟซบุ๊ก หรืออินสตราแกรม สำหรับการเข้าสู่ดาร์กเน็ตของ CIA ซึ่งเป็นช่องทางการติดต่อสำคัญจากคนทั่วไปที่ต้องการเข้าถึง CIA นับตั้งแต่เปิดใช้ตั้งแต่ปี 2019

โดยการเข้าสู่ดาร์กเน็ตของ CIA ต้องทำการผ่านเว็บเบราเซอร์ความปลอดภัยสูง TOR (The Onion Router) ที่สร้างขึ้นโดยสถาบันวิจัยห้องแล็บทางวิทยาศาสตร์กองทัพเรือสหรัฐฯ (United States Naval Research Laboratory) และควบคุมโดยองค์กรไม่หวังผลกำไรมาตั้งแต่ปี 2006

เอพีรายงานว่า CIA คาดหวังว่าจะมีพลเมืองรัสเซียนอกประเทศสามารถแชร์ข้อมูลช่องทางการติดต่อลับนี้ให้คนรู้จักในประเทศรัสเซีย ซึ่งแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ CIA ที่ให้ข้อมูลกับเอพีปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่ามีจำนวนมากเพียงใดที่ติดต่อ CIA ตั้งแต่สงครามยูเครนเริ่มเปิดฉาก

“มันไม่ปลอดภัยที่จะติดต่อโดยตรงกับชาวอเมริกันอย่างเปิดเผยหรือทางอ้อมในรัสเซีย” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ CIA กล่าวกับเอพี และเสริมต่อว่า “สำหรับกลุ่มคนที่ต้องการติดต่อเราอย่างปลอดภัยนี่เป็นแค่วิธีเดียวเท่านั้น”

เขากล่าวว่า สำนักงาน CIA รู้ว่ามีพลเรือนรัสเซียจำนวนหนึ่งที่มีความพยายามอย่างมากต้องการที่จะติดต่อกับทางสำนักงาน โดยบรรดานักวิเคราะห์ต่างคิดว่าถึงแม้ประชาชนส่วนใหญ่จะให้การสนับสนุนปฏิบัติการพิเศษทางการทหารในยูเครนตามชื่อเรียกที่เครมลินใช้ในประเทศ แต่ทว่า การจัดการสงครามของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน อาจผลักดันคนที่มีอิทธิพลส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับปูตินให้ออกห่าง

เอพีชี้ว่ายังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับข่าวกรองโลกตะวันตกที่ต้องการได้แหล่งข่าวซึ่งสามารถให้ข้อมูลสำคัญภายในรัฐบาลเครมลิน หรือสถานการณ์ภายในรัสเซียออกมาสู่ภายนอก

ซึ่งปรากฏการณ์สำคัญของโลกเป็นต้นว่า เหตุการณ์กำแพงเบอร์ลินถูกทำลายเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ปี 1989 มักแสดงให้เห็นถึงทั้งฝ่ายสหรัฐฯ และรัสเซียต่างพยายามที่จะหาสายข่าวให้กัฝ่ายตัวเอง สงครามยูเครนที่ปูตินเป็นผู้ก่อและผลที่ตามมาของสงครามเกิดขึ้นกับรัสเซียหลังจากนั้นที่มีทหารรัสเซียจำนวนมากต้องจบชีวิต การคว่ำบาตรที่ส่งผลอย่างร้ายกาจต่อเศรษฐกิจรัสเซีย และล้มเหลวที่จะบรรลุเป้าหมายทางการทหาร แต่กลับกลายเป็นว่าภาพอาชญากรรมสงครามกลับถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกอาจจะเป็นอีกสิ่งที่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยน บรรดานักสังเกตการณ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น