เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี วันนี้ (1 พ.ค.) เดินทางลับเข้ากรุงเคียฟพร้อมกับคณะรัฐสภาสหรัฐฯ รวมประธานข่าวกรอง อดัม ชีฟ และประธานการต่างประเทศ เกร็กกอรี มีคส์ ถ่ายภาพจับมือประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ถึงที่ ประกาศสหรัฐฯ สนับสนุนยูเครนจนกว่าการต่อสู้จะสิ้นสุด เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันที่รัสเซียส่งมิสไซล์ออนิกซ์ (Onyx) จากไครเมียโจมตีอาวุธอเมริกันและยุโรปช่วยยูเครนในสนามบินกองทัพยูเครนใกล้เมืองโอเดสซา
RT สื่อรัสเซียรายงานวันนี้ (1 พ.ค.) ว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ที่รั้งตำแหน่งอันดับ 3 ขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐฯ หากประธานาธิบดี โจ ไบเดน เกิดปัญหา เดินทางเข้ากรุงเคียฟและมีภาพเปิดเผยในวันอาทิตย์ (1) อย่างไม่คาดหมาย พร้อมกับพบกับผู้นำยูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี โดยภาพการจับมือร่วมกันถูกทวีตออกมาจากทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีเซเลนสกี ที่ด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดียูเครน
เพโลซีถือเป็นเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ สูงสุดที่ได้มาเยือนยูเครน และมาพร้อมกับคณะสภาสหรัฐฯ รวมถึงประธานคณะกรรมาธิการด้านต่างประเทศ เกร็กกอรี มีคส์ (Gregory Meeks) ประธานคณะกรรมาธิการด้านข่าวกรองสหรัฐฯ อดัม ชีฟ (Adam Schiff) เป็นต้น
ทั้งนี้ พบว่าทั้งสองฝ่ายเริ่มต้นหารือประชุมสั้นๆ หลังจากนั้น โดยทางผู้นำยูเครนยังคงยืนกรานความต้องการสนับสนุนทางการทหารอย่างต่อเนื่องจากสหรัฐฯ
เพโลซี ตอบเซเลนสกีกลับว่า การเยือนของเธอครั้งนี้เพื่อแสดงความขอบคุณต่อการต่อสู้ของเขาเพื่อเสรีภาพ “การต่อสู้ของคุณเป็นการต่อสู้ของทุกคน พันธะผูกพันของเราคือการอยู่ที่นี่เพื่อคุณจนกว่าการต่อสู้จะสิ้นสุด”
ประธานาธิบดีเซเลนสกี ได้มอบเหรียญ Order of Princess Olga ชั้น 3 ที่เป็นเกียรติแก่สตรีที่สร้างสรรค์ทางการเมือง วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และสาขามนุษยธรรม
สำนักงานเพโลซีออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการเยือนว่า การสามารถอยู่ร่วมกับผู้นำยูเครนถือเป็นเกียรติอย่างหายากยิ่ง และการเดินทางครั้งนี้ยังเป็นการส่งสารไปทั่วทั้งโลกว่า “อเมริกายืนอย่างหนักแน่นเคียงข้างยูเครน”
รอยเตอร์รายงานว่า การเดินทางเข้ากรุงเคียฟของประธานรัฐสภาสหรัฐฯ เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่รัสเซียส่งขีปนาวุธความแม่นยำสูงโจมตีอาวุธยุทโธปกรณ์สหรัฐฯ และยุโรปที่ส่งเข้ามาเพื่อช่วยยูเครน
โดยในแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมที่ออกมาในวันอาทิตย์ (1) ระบุว่า การโจมตีด้วยมิสไซล์ความแม่นยำสูง ออนิกซ์ (Onyx) จากไครเมียทำลายอาวุธของสหรัฐฯ และยุโรป รวมไปถึงรันเวย์ที่สนามบินกองทัพยูเครนใกล้กับเมืองโอเดสซา
สปุตนิก นิวส์ สื่อรัสเซียรายงานเพิ่มเติมว่า มิสไซล์ตรงเข้าทำลายคลังแสงอาวุธอเมริกันและยุโรปเหล่านี้ซึ่งเป็นที่เก็บทั้งอาวุธและกระสุนมากมาย พล.ต.อีกอร์ โคนาเชนคอฟ (Igor Konashenkov) โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลง
อ้างอิงจาก RT รัสเซียส่งกำลังทหารเข้ายูเครนในปฏิบัติการพิเศษหลังจากที่เครมลินชี้ว่า เคียฟทำผิดสัญญามินสค์ที่ได้ลงนามครั้งแรกในปี 2014 และนับตั้งแต่นั้นฝ่ายรัสเซียเรียกร้องให้ยูเครนประกาศวางตัวเป็นกลางและจะไม่เข้าร่วมนาโต้ของฝ่ายตะวันตกเป็นอันขาด RT ยังชี้ว่าการที่เคียฟขัดขืนต่อการใช้กำลังทางทหารของรัสเซียเท่ากับเป็นการยั่วยุ และฝ่ายรัสเซียปฎิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ากำลังวางแผนจะยึด 2 แคว้นของยูเครนด้วยกำลังทหาร