อินโดนีเซียยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟ ‘อะนัก กรากะตัว’

ทางการอินโดนีเซียยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟอะนัก กรากะตัว (Anak Krakatoa) ขึ้นสู่ระดับที่ 3 ซึ่งเป็นระดับเกือบสูงสุดจากทั้งหมด 4 ระดับเมื่อวันจันทร์ (25 เม.ย.) หลังจากภูเขาไฟซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันตกของเกาะชวา เกิดการปะทุ และพ่นเถ้าถ่านลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าถึง 3,000 เมตร

เจ้าหน้าที่ยังได้ประกาศขยายเขตห้ามเข้า (exclusion zone) รอบๆ ภูเขาไฟ และขอให้ประชาชนในพื้นที่สวมหน้ากากเมื่ออยู่นอกบ้านเพื่อป้องกันอันตรายจากฝุ่นเถ้าถ่านที่ลอยข้ามช่องแคบระหว่างเกาะชวากับเกาะสุมาตรา

เฮนดรา กูนาวัน หัวหน้าศูนย์แผ่นดินไหววิทยาและการบรรเทาความเสี่ยงทางธรณีวิทยาแห่งอินโดนีเซีย ระบุในงานแถลงข่าวออนไลน์ว่า “เราได้ยกระดับคำเตือนภูเขาไฟอะนัก กรากะตัว จากระดับ 2 ขึ้นสู่ระดับ 3 และขอย้ำเตือนประชาชนว่าห้ามเข้าไปใกล้ภูเขาไฟในรัศมี 5 กิโลเมตร”

ผู้เชี่ยวชาญยังตรวจพบระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มสูงขึ้นบริเวณปากปล่องภูเขาไฟ โดยอะนัก กรากะตัวได้พ่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาประมาณ 68 ตันในวันที่ 15 เม.ย. ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 9,000 ตันในวันที่ 23 เม.ย.

ทางการอิเหนายังไม่มีคำสั่งอพยพประชาชนบนเกาะใกล้เคียง ขณะที่การสัญจรทางน้ำระหว่างท่าเรือเมรัก (Merak) บนเกาะชวากับท่าเรือบาเกาเฮนี (Bakauheni) บนเกาะสุมาตรา ยังไม่ได้รับผลกระทบ

ภูเขาไฟลูกนี้เกิดการปะทุอยู่เนืองๆ นับตั้งแต่ผุดขึ้นจากท้องทะเลเมื่อต้นศตวรรษที่แล้ว โดยกำเนิดขึ้นจากแอ่งภูเขาไฟกรากะตัวเดิมที่เคยเกิดการระเบิดครั้งรุนแรงเมื่อปี 1883

การระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้วถือเป็นหายนะครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 35,000 คน

สำหรับอะนัก กรากะตัวเคยปะทุรุนแรงครั้งล่าสุดในปี 2018 โดยทำให้เกิดคลื่นสึนามิคร่าชีวิตชาวอินโดนีเซียไป 429 คน และทำให้ชาวบ้านต้องไร้ที่อยู่อาศัยอีกหลายพันคน

ที่มา : เอเอฟพี