xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้ง ปธน.ฝรั่งเศสรอบ 2 “มาครง vs เลอแปน” เดิมพันศักดิ์ศรี EU ในสงครามยูเครน ผู้ใช้สิทธิ 48.7 ล้านเริ่มต้นเข้าคูหาลงคะแนน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ประชาชนฝรั่งเศสตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้าวันนี้ (24 เม.ย.) เข้าคูหาเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบ 2 ระหว่างประธานาธิบดีเอ็มมานุแอล มาครง ที่มีจุดยืนทำให้อียูแข็งแกร่งกว่าเดิม ทะเยอทะยานต้องการให้ฝรั่งเศสที่มีความโลกาภิวัตน์ก้าวหน้า เป็นหัวหอกของสหภาพยุโรป ต่างจาก มารีน เลอแปน หาเสียงหนักแก้ปัญหาค่าครองชีพ ต่อต้านผู้อพยพ ปกป้องความเป็นชาวคริสต์และผิวขาวและใกล้ชิดกับผู้นำรัสเซียเคยประกาศพร้อมนำปารีสออกจากนาโต้หลังได้รับเลือกตั้ง โพลล่าสุดก่อนเข้าคูหาชี้ มาครงชนะ 55% ต่อเลอแปน 45%

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (24 เม.ย.) ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบ 2 ได้เปิดฉากขึ้นแล้วในวันอาทิตย์ (24) โดยคูหาเลือกตั้งเปิดในเวลา 08.00 น. และจะปิดลงในเวลา 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ทั้งนี้ พบว่าในผลโพลสำรวจความนิยมก่อนวันเลือกตั้งพบว่าประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง มีคะแนนนำเล็กน้อยเหนือคู่แข่ง มารีน เลอแปน

เอเอฟพีรายงานว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงฝรั่งเศสคนแรกเป็นชายวัย 90 ปี ที่หมู่เกาะแซงปีแยร์และมีเกอลง (island territory of Saint Pierre and Miquelon) ดินแดนอาณานิคมฝรั่งเศส นอกชายฝั่งแคนาดาในเวลาเที่ยงวันของวันเสาร์ (23) ตามเวลากรุงปารีส

การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเที่ยวนี้มีเดิมพันที่สูงมากสำหรับทั้งฝรั่งเศสเอง และกับสหภาพยุโรปที่มาครง ประกาศต้องการให้มีการปฏิรูปและเพิ่มการร่วมตัวกับสหภาพยุโรปให้มากขึ้น โดย CNN ชี้ว่า มาครงหาเสียงว่าเขาจะทำให้ฝรั่งเศสที่มีความโลกาภิวัตน์ ก้าวหน้า เป็นหัวหอกของสหภาพยุโรป แต่ทว่าในความสนใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลับให้ความสนใจไปที่ปัญหาปากท้องมากกว่า

สปุตนิวส์ชี้ว่า ท่ามกลางวิกฤตสงครามยูเครนที่ส่งผลกระทบเพิ่มต่อสภาพเศรษฐกิจฝรั่งเศส รวมไปถึงปัญหาเงินเฟ้อและราคาน้ำมันสูงอาจส่งผลทำให้บรรดาฝรั่งเศสชั้นแรงงานหันไปเทคะแนนให้เลอแปน

CNBC สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า โพลสำรวจความนิยมในวันพฤหัสบดี (21) ชี้ว่ามาครงจะเป็นผู้มีชัยในการเลือกตั้งในรอบ 2 ด้วยคะแนน 55% เหนือคู่แข่ง มารีน เลอแปน 45% เป็นคะแนนที่เลอแปน คู่แข่งทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมเมื่อเทียบกับผลการเลือกตั้งรอบ 2 ของประธานาธิบดีฝรั่งเศสเมื่อปี 2017 ที่มาครงชนะ 66.1% ต่อเลอแปน 33.9% ขณะที่ผลสำรวจความนิยมในวันศุกร์ (22) ของอิปโซส (Ipsos) อ้างอิงจากสปุตนิก นิวส์ของรัสเซียพบว่า มาครงได้ไป 57.5% ในกลุ่มของผู้มีสิทธิที่มีความตั้งใจจะลงคะแนนให้เขา และเลอแปน ได้ไป 57.5% ในกลุ่มของผู้มีสิทธิที่ตั้งใจจะลงคะแนนให้เธอ ซึ่งในการสำรวจของอิปโซส พบว่า มีผู้เข้าร่วมการสำรวจเกินกว่า 1,500 คน

มาครงวัย 44 ปีได้ออกมาเตือนว่าฝรั่งเศสจะลุกเป็นไฟ จะมีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นหากว่าคู่แข่งมารีน เลอแปนได้รับการเลือกตั้งให้เป็นผู้นำฝรั่งเศสจากการที่เธอมีนโยบายหาเสียงสุดโต่ง รวมไปถึงการห้ามหญิงมุสลิมสวมผ้าคลุมศีรษะในที่สาธารณะ พร้อมกันนี้เรียกร้องให้เดโมแครตจากทุกปีกทั่วประเทศให้การสนับสนุนต่อตัวเขา

รอยเตอร์วิเคราะห์ว่า หากว่าเลอแปน สามารถพลิกมาเอาชนะมาครงในการเลือกตั้งวันนี้ (24) ได้จะกลายเป็นเอิร์ทเคว็กทางการเมืองไม่แตกต่างจากเมื่อครั้งที่ประชาชนอังกฤษออกไปโหวต BREXIT ให้ลอนดอนลาออกจากการเป็นสมาชิกภาพสหภาพยุโรป หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ เอาชนะเหนือฮิลลารี คลินตัน ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016 สำเร็จ

สปุตนิกนิวส์ สื่อรัสเซียรายงานว่า ในการดีเบตทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 20 เม.ย. มาครงได้แสดงให้ชาวฝรั่งเศสในประเทศที่ถือว่ายิ่งใหญ่ทั้งในยุโรปและในโลกเห็นว่าคู่แข่งของเขามีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียคู่อริ และต้นตอวิกฤตสงครามยูเครนมากเพียงใด โดยกล่าวว่า 

“คุณพูดถึงนายธนาคารของคุณเมื่อคุณพูดถึงรัสเซีย นั่นเป็นปัญหา” และตอกย้ำว่า “คุณต้องพึ่งพาอำนาจรัสเซีย คุณพึ่งพาคุณปูติน (ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน)”

โดยเขาได้แสดงให้ประชาชนรับรู้ว่าในปี 2014 พรรคการเมืองของเลอแปนได้กู้เงิน 9 ล้านยูโร (13 ล้านดอลลาร์) จากธนาคารเฟิร์ส เช็ก รัสเซียน แบงก์ (First Czech Russian Bank) ซึ่งธนาคารแห่งนี้เชื่อมโยงกับเครมลิน 

สปุตนิกนิวส์รายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 13 เม.ย. เลอแปนยังประกาศในการหาเสียงอีกด้วยว่า หากว่าเธอได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้นำฝรั่งเศสคนใหม่เธอจะนำปารีสลาออกจากนาโต้ ซึ่งเธอเป็นนักการเมืองปีกขวาฝรั่งเศสและเป็นพวกต่อต้านสหภาพยุโรป ต่อต้านการอพยพเข้าเมือง โดยผลจากการทำงานหาเสียงอย่างหนักในเรื่องปัญหาปากท้องคนฝรั่งเศสเกี่ยวกับค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงลิ่ว ต่างจาก 'มาครง' คู่แข่งที่วุ่นอยู่กับการแก้ปัญหาวิกฤตยูเครนและเป็นตัวกลางต้องคอยต่อสายเกลี้ยกล่อมปูตินบ่อยครั้ง จนทำให้เขาไม่สามารถออกมาหาเสียงเลือกตั้งตามท้องถนนได้ตามปกติ ส่งผลทำให้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก เลอแปน วัย 53 ปี ชนะไป 23.3% และมาครงได้ไป 27.8%

สื่อรัสเซียชี้ว่า เลอแปน ออกมายืนยันกับผู้มีสิทธิจำนวน 48.7 ล้านคน ว่าการเลือกตั้งวันอาทิตย์ (24)  มันเสมือนเป็นการเลือกตั้งฝรั่งเศสที่วัดด้วยหลักการที่ว่า “มันอยู่ในมือประชาชนฝรั่งเศสแล้วว่าต้องเลือก “มาครง” หรือ “ฝรั่งเศส” ” โดยเธอยังกล่าวต่อว่า ในความเห็นของเธอ เธอเชื่อว่ามาครงไม่ชอบประชาชนฝรั่งเศส








กำลังโหลดความคิดเห็น