เอเจนซีส์ - กระทรวงกลาโหมอังกฤษประเมินสถานการณ์รบในเขตดอนบาสหนักหน่วง แต่ยังคงมีการโจมตีแม่นยำปูพรมทั่วยูเครน ท่ามกลางข่าวเครมลินส่งกองกำลังทหารรับจ้างต่างชาติเข้าสู่สมรภูมิสู้รบทางตะวันออกของยูเครนถึง 20,000 คนแต่ไม่มีอาวุธหนัก และยานยนต์หุ้มเกราะสนับสนุน ด้านเฮลซิงกิเปิดประชุมอภิปรายในรัฐสภาเปิดทางให้ฟินแลนด์เข้าร่วมนาโต้วันนี้ (20 เม.ย.)
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (20 เม.ย.) ว่า กระทรวงกลาโหมอังกฤษเปิดเผยข่าวกรองล่าสุดถึงสถานการณ์รบในยูเครนว่า เชื่อว่าการโจมตีทางอากาศในภูมิภาคทางเหนือของยูเครนยังคงต่ำต่อไปนับตั้งแต่รัสเซียได้มีการถอนกำลังออกไปจากทางเหนือของกรุงเคียฟ
อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์เตือนว่ายังคงมีความเสี่ยงทั่วทั้งยูเครนต่อการโจมตีปูพรมอย่างแม่นยำต่อเป้าหมายของรัสเซีย
การโจมตีตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศนี้ กระทรวงกลาโหมอังกฤษวิเคราะห์ว่า ฝ่ายเครมลินมีความตั้งใจเพื่อขัดขวางการสมทบกำลังของยูเครน และรวมไปถึงด้านอาวุธไปยังภูมิภาคตะวันออกของยูเครน
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ก่อนหน้ากระทรวงกลาโหมอังกฤษออกรายงานอ้างว่า รัสเซียเพิ่มการโจมตีอย่างหนักหน่วงในเขตดอนบาสแต่การรุกคืบนั้นถูกขัดขวางทางสิ่งแวดล้อม โลจิสติกส์ และเทคนิค ประกอบกับการต้านทานจากกองกำลังยูเครน โดยในข่าวกรองของกลาโหมอังกฤษระบุด้วยว่า ฝ่ายรัสเซียยังไม่สามารถขจัดการต้านทานในเมืองมาริอูโปล และอีกทั้งการโจมตีของกองกำลังรัสเซียอย่างไม่เลือกหน้าส่งผลร้ายต่อพลเรือนในพื้นที่นั้น “ล้วนเป็นปัจจัย” แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายอย่างรวดเร็วตามฝ่ายรัสเซียเคยคาดไว้
ด้านแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ยุโรปได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า พบว่าเครมลินส่งกำลังหน่วยทหารรับจ้างต่างชาติที่มาจากทั้งซีเรีย ลิเบีย และจากที่อื่นๆ เพื่อเข้าสู่การสู้รบในสมรภูมิดอนบาสทางตะวันออกของยูเครนโดยปราศจากอาวุธหนัก หรือยานยนต์หุ้มเกราะสมทบ
โดยในการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ยุโรปพบว่าเชื่อว่าตัวเลขทหารรับจ้างต่างชาติของฝ่ายรัสเซียในพื้นที่น่าจะอยู่ระหว่าง 10,000 -20,000 คน โดยทหารรับจ้างเหล่านี้ถูกจัดหามาโดยกลุ่มว๊ากเนอร์ กรุ๊ป (WAGNER GROUP) กองกำลังทหารรับจ้างรัสเซียชื่อดัง
เจ้าหน้าที่ยุโรประบุว่า “สิ่งที่ผมสามารถบอกกับคุณได้คือพวกเราได้เห็นการเคลื่อนย้ายกำลังจากพื้นที่เหล่านี้ทั้งในซีเรียและลิเบียมายังภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออก และกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านี้ถูกใช้เป็นกำลังพลจำนวนมากต่อกองกำลังต่อต้านยูเครน” และเสริมต่อว่า “นี่เป็นแค่กลุ่มกองกำลังไม่มีการสนับสนุนมาจากอาวุธหนัก หรือยานยนต์หุ้มเกราะแต่อย่างใด”
อดีตทหารกองทัพซีเรียมีรายงานว่า ได้รับข้อเสนอตกเดือนละ 600 ดอลลาร์ ไปจนถึง 3,000 ดอลลาร์ขึ้นอยู่กับชั้นยศและประสบการณ์ที่มีมาในสงคราม ซึ่งกลุ่มว๊ากเนอร์ได้ย้ายกำลังรบของตัวเองส่วนใหญ่จากการสู้รบในลิเบียไปยังยูเครน ซึ่งในเดือนที่แล้วฝ่ายข่าวกรองกองทัพยูเครนอ้างว่า ฝ่ายรัสเซียได้ข้อตกลงร่วมกับกองกำลังคอลิฟะ ฮัฟตาร์ (Khalifa Haftar) ให้ส่งนักรบลิเบียมาให้
เจ้าหน้าที่ยุโรปเปิดเผยว่า ในสงครามเฟสใหม่ของรัสเซียมี 4 เป้าหมายด้วยกันคือ (1) ยึดเขตดอนบาส (2) ปกป้องแลนด์บริดจ์ของแหลมไครเมีย (3) ยึดเมืองเคอร์ซอน โอบลาส (Kherson Oblast) เพื่อทำให้ยังคงลำเลียงยุทธปัจจัยเข้าไปยังไครเมีย (4) ยึดพื้นที่เพิ่มเติมให้สำเร็จเพื่อที่จะใช้เป็นแนวกันชนหรือใช้เพื่อเป็นชิปต่อรองในการเจรจา
เดอะการ์เดียนรายงานว่า เชื่อว่าฝ่ายรัสเซียยังคงมี 3 ใน 4 ของกองกำลังรบที่เริ่มต้นทำสงครามยูเครนมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ซึ่งมีกองกำลังปะทะยุทธวิธี 76 หน่วย และกำลังพล 60,000 นายอยู่ในสมรภูมิรบทั้งหมด
ขณะเดียวกัน วันนี้ (20) รัฐสภาฟินแลนด์กำลังจะเริ่มเปิดฉากการอภิปรายประเด็น เฮลซิงกิเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ารัฐสภาฟินแลนด์ที่มีสมาชิกจำนวน 200 คนได้รับสมุดปกขาวจากรัฐบาลเฮลซิงกิให้ประเมินความน่าจะเป็นในการสมัครร่วมเป็นสมาชิกกับนาโต้ และพร้อมไปกับการประเมินทางเลือกอื่นๆ ด้านความมั่นคงเป็นต้นว่า เพิ่มข้อตกลงทางการป้องกันประเทศในระดับทวิภาคี
ซึ่งภายในหนังสือปกขาวไม่พบว่ามีการให้ข้อเสนอแนะ แต่ย้ำเพียงว่า หากปราศจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต้แล้ว เฮลซิง
กิจะไม่มีหลักประกันทางด้านความมั่นคงถึงแม้ว่าในปัจจุบันฟินแลนด์จะเป็นพันธมิตรร่วมกับนาโต้ก็ตาม
โดยในหนังสือสมุดปกขาวยังชี้ต่อว่า ผลกระทบจากความสามารถในการป้องกันประเทศของฟินแลนด์ภายใต้นาโต้จะมีสูง แต่ชี้ให้เห็นอีกถึงภาระหน้าที่ของฟินแลนด์ในชาติสมาชิกต้องผูกพันในการให้ความช่วยเหลือกับประเทศสมาชิกนาโต้อื่นยามเดือดร้อน
ผลโพลสำรวจสาธารณชนในฟินแลนด์ในการเข้าร่วมนาโต้แต่เดิมในรอบ 20 ปีที่ยังมีประชาชนสนับสนุนในระดับต่ำแค่ 20-30% แต่ทว่าผลจากสงครามยูเครนทำให้พบว่าประชาชนฟินแลนด์หันมาให้การสนับสนุนกว่า 60% ล่าสุด เดอะการ์เดียนรายงานโดยอ้างผลโพลจากเอเอฟพี