รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - รัสเซียเมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) แสดงความวิตกถึงการเคลื่อนไหวทางทหารของนาโต้ และสหรัฐฯ ที่เพิ่มมากขึ้นในเขตอาร์กติก ที่ถือเป็นบ้านของรัสเซีย ชี้อาจเสี่ยงต่อการเกิดปะทะแบบไม่ได้ตั้งใจ หลังกองกำลังนาโต้ รวมสหรัฐฯ แอบฝึกCOLD RESPONSE ที่นอร์เวย์ ขณะเดียวกัน ภาพใหม่คมชัดที่สื่อตะวันตกชี้ว่าเป็นเรือธงรบหลักรัสเซียในทะเลดำ เรือตรวจการณ์มอสกวา กำลังลุกไหม้กลางทะเลก่อนจม อดีตผู้อำนวยการปฏิบัติการพิเศษประจำศูนย์ข่าวกรองร่วมในกองบัญชาการกองเรือรบแปซิฟิกของสหรัฐฯ ฟันธงจมเพราะโดนมิสไซล์ยูเครนแน่นอน
รอยเตอร์รายงานวันอาทิตย์ (17 เม.ย.) ว่า เอกอัครราชทูตรัสเซียด้านความร่วมมือทางมหาสมุทรอาร์กติก และเจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำสภาอาร์กติก นิโคไล คอร์ชูนอฟ (Nikolai Korchunov) ในการรายงานของสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย ออกมาแสดงความวิตกถึงการเคลื่อนไหวทางการทหารของนาโต้ และสหรัฐฯ ในแถบขั้วโลกเหนือ และเตือนว่าอาจมีความเสี่ยงที่จะมีการปะทะแบบไม่เจตนาเกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ที่ร่วมกับนาโต้ขึ้นได้
หนังสือพิมพ์เยรูซาเลมโพสต์ของอิสราเอลรายงานว่า สภาอาร์กติก (Arctic Council) นั้นเป็นฟอรัมระดับนานาประเทศที่มีความสำคัญและมีสมาชิกประเทศที่มีดินแดนติดกับมหาสมุทรอาร์กติก จะใช้ฟอรัมนี้เพื่อแลกเปลี่ยนหารือในประเด็นระดับภูมิภาค สมาชิกประกอบไปด้วย 8 ชาติ ได้แก่ สหรัฐฯ แคนาดา ไอซ์แลนด์ ฟินแลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก และสวีเดน แต่ปัจจุบันนี้รัสเซียดำรงตำแหน่งนั่งเป็นประธานอยู่ แต่ทว่าชาติสมาชิกอื่นอีก 7 ชาติออกมาประกาศว่าจะไม่ยอมเข้าร่วมการประชุมด้วยเนื่องมาจากเครมลินใช้กำลังทหารบุกยึดยูเครน
เยรูซาเลมโพสต์ชี้ว่า ในบรรดา 8 ชาติทั้งหมดพบว่ามีแค่ 5 ชาติเท่านั้นที่เป็นสมาชิกนาโต้ ขณะที่ไอซ์แลนด์นั้นมีปัญหาที่ในทางเทคนิคไม่มีกองทัพทางการของตัวเอง และนาโต้ใช้อาร์กติกเป็นพื้นที่การซ้อมรบทางการทหาร ในขณะเดียวกัน รัสเซียขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีพรมแดนติดมหาสมุทรอาร์กติกมากที่สุดในโลก
ซึ่งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ระหว่างรัสเซียกำลังอยู่ระหว่างการบุกยึดยูเครน พบว่า ฝ่ายสหรัฐฯ และนาโต้ได้ทำการฝึกซ้อมทางการทหารชื่อปฏิบัติการ COLD RESPONSE ที่นอร์เวย์ที่เกิดขึ้นปีละ 2 ครั้ง แต่ทว่าในการฝึกซ้อมล่าสุดนี้กลับเป็นหนึ่งในการฝึกซ้อมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาตั้งแต่ยุค 80 ของนาโต้ และเกิดขึ้นใกล้กับพรมแดนรัสเซียมากที่สุด
โดยในการแถลงของคอร์ชูนอฟ วันอาทิตย์ (17) เขากล่าวว่า “ความเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้นของนาโต้ที่เขตอาร์กติกนั้นสร้างความวิตก การซ้อมรบทางการทหารขนาดใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ทางเหนือของนอร์เวย์ ในสายตาของเราสิ่งนี้มันไม่เป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงของภูมิภาค”
และเขายังเตือนว่า อาจนำมาสู่ความเสี่ยงของการปะทะแบบไม่ตั้งใจระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ รวมนาโต้ในภูมิภาคก็เป็นได้ แต่ทว่าคอร์ชูนอฟไม่ได้ระบุไปถึงลักษณะของการปะทะที่อาจะเกิดขึ้น แต่หากว่ามีจะสร้างผลร้ายต่อระบบนิเวศวิทยาของเขตอาร์กติก
รอยเตอร์รายงานว่า ทั้งนี้ก่อนหน้าในการออกมาเตือนของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ต่อการเข้าร่วมนาโต้ของสวีเดนและฟินแลนด์ ซึ่งหากเกิดขึ้น ปูตินชี้ว่า รัสเซียจะเคลื่อนอาวุธนิวเคลียร์และมิสไซล์ไฮเปอร์โซนิกเข้าไปในคาลินินกราดโอบลาสต์ (Kaliningrad Oblast) ทันที ซึ่งแคว้นนี้เป็นดินแดนนอกรัสเซียตั้งอยู่บนคาบสมุทรยบอลติกมีพรมแดนติดลิทัวเนีย และโปแลนด์
ขณะเดียวกัน สื่อตะวันตก เช่น CNN เดลีเมล และบีบีซี รายงานภาพใหม่ล่าสุดของเรือตรวจการณ์มอสกวา (Moskva cruiser) ที่เกิดล่มลงในทะเลดำเมื่อวันพฤหัสบดี (14)
โดย CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ภาพนิ่งและวิดีโอคลิปของเรือธงรบรัสเซียนี้ถูกเผยแพร่ออกมาบนโลกโซเชียลมีเดียในช่วงต้นวันจันทร์ (18) ซึ่งเป็นภาพที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ตัวเรือกำลังเกิดเพลิงลุกไหม้และได้รับความเสียหายอย่างหนักก่อนที่จะจมลงใต้ทะเลในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น
โดยในภาพแสดงว่าเรือมอสกวากำลังตะแคงข้าง และปรากฏรูโบ๋สีดำขนาดที่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการถูกโจมตีด้วยจรวดมิสไซล์ และร่องรองความเสียหายสำคัญอื่นๆ รวมไปถึงควันดำขโมงออกมาจากตัวเรือ
การจมลงของเรือตรวจการณ์มอสกวาเที่ยวนี้กลายเป็นความอัปยศครั้งร้ายแรงในรอบ 40 ปีของรัสเซียทีเดียว ซึ่งเครมลินยืนกรานว่า เรือตรวจการณ์เกิดจมลงเนื่องมาจากไฟไหม้แต่ทว่าสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (15) ได้ยืนยันคำแถลงของยูเครนที่ระบุว่า มิสไซล์ต่อต้านเรือรบเนปจูน 2 ลูก เข้าจัดการเรือตรวจการณ์มอสกวาไว้ได้สำเร็จ
ซึ่งคาร์ล ชูสเตอร์ (Carl Schuster) กัปตันกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ปลดเกษียณและอดีตผู้อำนวยการปฏิบัติการพิเศษประจำศูนย์ข่าวกรองร่วมในกองบัญชาการกองเรือรบแปซิฟิกของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่าเรือจมลงเพราะโดนมิสไซล์ยูเครนแน่นอน
โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์กับ CNN เมื่อวานนี้ (18) ว่า มีความน่าจะเป็นไปได้ว่ามิสไซล์ได้เจาะต่ำกว่าสะพานเดินเรือ (bridge : พื้นที่ยกสูงขึ้นจากดาดฟ้าเรือ หรือห้องหรือสถานีบนเรือสำหรับควบคุมและสั่ง) และเกิดการระเบิดขึ้น
ซึ่งการออกมาแสดงความเห็นของชูสเตอร์สอดคล้องกับนักวิเคราะห์อีกคนคือ เอช ไอ ซัตตัน (H I Sutton) ที่ระบุว่า ตามภาพถ่ายปรากฏความเสียหายไม่สามารถปฏิเสธไปได้อย่างสิ้นเชิงว่าไม่ใช่ฝีมือของมิสไซล์ แต่อย่างไรก็ตาม ซัตตัน ชี้ว่า จำเป็นต้องทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความถูกต้องว่าเป็นฝีมือมิสไซล์จริงหรือไม่ หรือเป็นความเสียหายที่มาจากเหตุไฟไหม้บนเรือ
ทั้งนี้ เดอะการ์เดียนรายงานว่า ครอบครัวทหารลูกเรือตรวจการฯ์มอสกวาออกมาตั้งคำถามถึงชะตากรรมของลูกเรือที่ยังคงสูญหาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ยูเลีย ทไซโววา (Yulia Tsyvova) ที่เฝ้าออกตามหาข้อมูลของ อันเดร (Andrei) บุตรชายวัย 19 ปี ที่ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารรัสเซีย และเหมือนกับหลายร้อยครอบครัวของลูกเรือตรวงจการณ์มอสกวา ที่ต้องการทราบว่าบุคคลอันเป็นที่รักนั้นยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่หลังเรือได้จมลงในวันพฤหัสบดี (14) แต่กระทรวงกลาโหมรัสเซียเพิ่งติดต่อทไซโววา เมื่อวานนี้ (18) เพื่อแจ้งว่า อันเดร บุตรชายเสียชีวิตแล้ว
"เขาเพิ่ง 19 ปี เขาถูกเกณฑ์ทหาร" และเสริมต่อว่า "คนพวกนี้ไม่บอกอะไรดิฉันทั้งนั้น ไม่มีข้อมูลว่าพิธีศพจะถฦูกจัดขึ้นเมื่อใด" และเธอย้ำว่า "ดิฉันแน่ใจว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่เสียชีวิตอย่างแน่นอน"
เดอะการ์เดียนกล่าวว่า ในเวลานี้ครอบครัวของบรรดาลูกเรือมอสกวาต่างเรียกร้องต้องการคำตอบจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า น่าจะมีลูกเรือประจำอยู่ราว 510 นาย ระหว่างเกิดเหตุ ซึ่งทางรัสเซียยังไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดจำนวนผู้บาดเจ็บ ผู้่เสียชีวิต หรือความเสียหายอื่นใดออกมาสู่สาธารณะ และพบว่ามีอีก 3 ครอบครัวที่มีลูกหลานประจำการบนเรือตรวจการณ์มอสกวาออกมาสู่สาธารณะ โดยชี้ว่าไม่พบตัวนายทหารเหล่านี้