xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มใจเด็ดเอาตัวบังกระสุนให้หญิงท้อง โดนยิงทะลุหัวเข่า ณ เหตุกราดยิงสนั่นในรถไฟใต้ดิน NYC

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วีรบุรุษฮูรารี เบนกาดา ซึ่งฟื้นจากการผ่าตัดรักษาบาดแผล อาการปลอดภัยแล้ว และนอนพักรักษาตัวบนเตียงโรงพยาบาล ให้สัมภาษณ์รายการแอนเดอร์สัน คูเปอร์ 360 ช่องซีเอ็นเอ็น เขาถูกยิงเข้าที่ด้านหลังของขา ตรงหัวเข่าขวา คมกระสุนเจาะทะลุออกกระดูกสะบ้า ณ เหตุกราดยิงในตู้ขบวนรถไฟใต้ดินสาย N Train เขตบรูกลิน มหานครนิวยอรก์ NYC เมื่อ 12 เมษายน 2022 เวลาประมาณ 8.30 น.
หลายชีวิตที่รอดตายจากวิกฤตกราดยิงสนั่นในตู้ขบวนรถไฟใต้ดินเขตบรูกลินของมหานครนิวยอร์ก (NYC) เมื่อ 12 เมษายน 2022 ณ เวลาประมาณ 8.30 น. ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ที่เผชิญมาโดยตรงว่า ในตู้ขบวนนรกที่โดยสารมาด้วยกัน มือปืนซึ่งมีอาการเหมือนยังไม่สร่างจากฤทธิ์ยาเสพติด แสดงท่าทางไม่น่าไว้วางใจ ก่อนจะเริ่มภารกิจปีศาจด้วยการหยิบระเบิดควันออกจากกระเป๋า

ตั้งแต่แรกๆ ที่มือปืนร่างสูงใหญ่วัยประมาณ 60 ปีก้าวขึ้นมาบนขบวนรถและลงนั่ง เขาก็จะพูดพึมพำกับตัวเอง

“ผมมองเขาแล้วผมพูดว่า หมอนี่ต้องเมายามาแน่เลย” หนุ่มฟิติม จีโลชี ผู้โดยสารซึ่งนั่งตรงข้ามกับมือปืน เล่าแก่นิวยอร์กโพสต์ถึงสภาพการณ์ก่อนที่วิกฤตจะเกิดขึ้น พร้อมกับให้รายละเอียดทั้งหมดว่า

“ตอนที่รถไฟใกล้จะถึงสถานีถนนสาย 36 เขาหยิบหน้ากากกันแก๊สและหยิบระเบิดควันออกจากกระเป๋าผ้า แล้วถอดสลัก พลางพูดว่า อ้าว ผมพลั้งมือ ต่อจากนั้น จึงหยิบขวานออกมา ทิ้งไปบนพื้น ต่อด้วยหยิบปืนพก และก็เริ่มลั่นกระสุนครับ” หนุ่มจีโลชี เล่าทุกอย่างที่ได้เห็นกับตาตนเอง

“ผู้ชายที่นั่งข้างผมโดนยิง แล้วร้องลั่น ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!” จีโลชี วีรบุรุษคนแรกซึ่งกระโดดขึ้นยืนเรียบร้อยแล้ว ในท่ามกลางควันดำคละคลุ้งและเสียงเปรี้ยงปร้างของระเบิดควันกับเสียงปืน เขาพุ่งไปที่ประตูกั้นระหว่างตู้ขบวนรถไฟ และพยายามจะเปิด แต่ระบบของรถไฟจะล็อกประตูไว้จนกว่ารถไฟจะพร้อมให้ผู้โดยสารเข้าออกรถได้

“ผมเปิดประตูไม่ออก พยายามทั้งทุบทั้งเตะประตู” จีโลชีเล่า

ภายในตู้ขบวนเต็มไปด้วยความแตกตื่นโกลาหลท่ามกลางความมืดเพราะควันจากระเบิด หนำซ้ำยังถูกซ้ำเติมด้วยเสียงเปรี้ยงๆ จากอาวุธของมือปืน ผู้โดยสารทั้งหมดพยายามหนีตายและกรูกันไปออที่ประตู โดยที่หนุ่มฮูรารี เบนกาดา เป็นคนหนึ่งในนั้น

เมื่อผู้โดยสารที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแห่กันวิ่งออกจากตู้ขบวนรถไฟใต้ดินแล้ว ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บส่วนหนึ่งมาพักรอที่พื้นชานชาลาซึ่งยังคลุ้งไปด้วยควันจางๆ ที่แผ่ออกมาจากข้างในตู้ขบวนรถไฟ พวกเขารอรับความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย แต่ก็มีหลายรายที่ได้รับการปฐมพยาบาลจากผู้โดยสารด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเสื้อสเวตเตอร์มาช่วยพันรอบขาบริเวณเหนือบาดแผลเพื่อห้ามเลือด  ในภาพนี้ของเอพี สตรีในเสื้อสเวตเตอร์สีอ่อนเป็นหนึ่งในเหยื่อกระสุนของมือปืน เลือดแดงฉานไหลลงนองขากางเกงและรองเท้าสีดำ  ขณะที่ใกล้ๆ กัน มีเหยื่อกระสุนอีกรายหนึ่งเป็นชาย นอนบนพื้น เลือดนองออกจากขาเช่นกัน ก่อนหน้านี้ เขาขโยกขเยกออกมาจากตู้ขบวนรถไฟ แล้วล้มลงบนพื้นในอาการเจ็บปวดรุนแรงจากบาดแผล

ภาพนี้ของรอยเตอร์ถูกบันทึกในห้วงเวลาเดียวกับภาพข้างบน แต่จับภาพจากอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเผยให้เห็นผู้โดยสารหลายรายที่บาดเจ็บจากกระสุนของมือปืน เช่น ผู้ที่สวมสเวตเตอร์สีน้ำเงินนั่งพิงเสา เป็นเหยื่ออีกรายหนึ่งที่ถูกกระสุนของมือปืนเจาะเข้าที่ขาซ้าย  ในภาพนี้ที่ซีเอ็นเอ็นนำไปใช้เสนอข่าวออกอากาศนั้น ซีเอ็นเอ็นได้ทำการเบลอใบหน้าของผู้บาดเจ็บ

เหยื่อกระสุนของมือปืนในภาพนี้ของเอเอฟพี ไม่สามารถขยับกายออกจากตู้ขบวนรถไฟ ได้แต่นอนราบบนพื้นรถ มีผู้โดยสารชายคนหนึ่งช่วยห้ามเลือด ขณะรอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย
เอาตัวกั้นหญิงท้องให้ปลอดภัยจากวิถีการยิง และรับกระสุนแทน

“ผมไม่ได้สนใจอะไรใครทั้งนั้นครับ ผมนั่งข้างมือปืน แต่ไม่ได้สังเกตอะไรเกี่ยวกับเขาเลย” ฮูรารี เบนกาดา ตอบคำสัมภาษณ์ของนักข่าวซีเอ็นเอ็นไปอย่างนั้น โดยบอกว่าเขาใส่หูฟัง

เมื่อเสียงเปรี้ยงปร้างต่างๆ ดังขึ้น หนุ่มเบนกาดาเป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่แตกตื่นและกรูกันไปอออยู่หน้าประตูตู้ขบวนรถไฟใต้ดินเพื่อหาทางหนีให้พ้นกระสุนของมือปืน

เขาได้ยินผู้หญิงใกล้ๆ ร้องบอกว่า “พระเจ้าช่วยลูกด้วย คุณคะดิฉันตั้งครรภ์ค่ะ”

เบนกาดา วีรบุรุษหนุ่มวัย 27 ปี จึงกอดเธอไว้และใช้ร่างกายของตนกำบังแนวกระสุน
ในจังหวะนั้นเอง กระสุนพุ่งเจาะเข้าด้านหลังของขาขวาบริเวณหัวเข่าของหนุ่มเบนกาดาและทะลุกระดูกสะบ้าออกไป

“เสียงกระสุนดังมาก เป็นอะไรที่ดังเปรี้ยงที่สุดที่เคยได้ยินมาในชีวิตครับ” วีรบุรุษนิวยอร์กซิตี้บอกซีเอ็นเอ็น “และมันก็เจ็บปวดสาหัสที่สุดที่เคยประสบ” แต่ตอนแรกที่คมกระสุนฉีกกระดูกนั้น เบนกาดายังตกใจ และยังไม่เริ่มปวดรุนแรง

“ผมตกใจและสั่นไปหมดกระทั่งว่ายังไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร จนกระทั่งเวลาผ่านไประยะหนึ่งครับ” หนุ่มผู้จัดการแผนกทำความสะอาดของโรงแรมนิวยอร์กเกอร์โฮเทล เล่าแก่ซีเอ็นเอ็น พร้อมอธิบายว่า

“มันเป็นตู้ขบวนแบบเก่าน่ะครับ เราจะไม่สามารถเดินจากตู้หนึ่งไปอีกตู้หนึ่ง พวกผู้โดยสารพยายามจะพังประตูให้เปิดให้ได้ ประตูแรกถูกพังจนเปิดออกมา แต่ประตูที่สองนั้นยากเกินกว่าจะพังสำเร็จ ทันทีที่รถไฟหยุดและประตูเข้าออกของตู้รถไฟเปิดอัตโนมัติที่สถานีถนน 36 ผมถึงรู้สึกว่าปวดรุนแรงอย่างที่สุด” หนุ่มเบนกาดา กล่าวอย่างนั้นในอีกสัมภาษณ์หนึ่งที่ให้แก่นิวยอร์กเดลีนิวส์

สตรีผู้โชคดีและปลอดภัยเพราะได้รับการปกป้องคุ้มครอง วิ่งหนีออกจากตู้ขบวนรถไฟฟ้าใต้ดินตามไปกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ขณะที่มือปืนก็วิ่งหนีออกไปด้วยโดยไม่มีใครสังเกต นอกจากนั้น ผู้โดยสารที่เป็นเหยื่อคมกระสุนของมือปืนทยอยกันออกมานอนฟุบบริเวณชานชาลา เลือดนองพื้น รอรับความช่วยเหลือ

ส่วนเบนกาดา ซึ่งช็อกด้วยความตกใจ ก้าวออกจากรถทั้งที่เลือดทะลักออกจากหัวเข่ามากมายตลอดเวลา และแทนที่จะนั่งพักบนชานชาลารอรับความช่วยเหลือเหมือนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรายอื่นๆ เขาดั้นด้นเดินลากขา ไต่ขั้นบันไดมุ่งขึ้นไปยังประตูทางออกโดยลำพัง

“พวกตำรวจเดินสวนทางกับผม มุ่งหน้าจะเข้าไปยังตู้ขบวนรถไฟ ทุกคนไม่สนใจผมเลย พวกเขาคงคิดอยู่แต่กับเรื่องตัวมือปืนน่ะครับ” วีรบุรุษเบนกาดา เล่าอย่างนั้น

เบนกาดาไปขอความช่วยเหลือจากบูทเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟใต้ดิน บอกไปประมาณว่าขอผ้าเช็ดเลือดให้ผมด้วย ขอเยอะๆ เลยครับ ผมถูกยิง

“หลังจากนั้นสัก 5-10 นาที เจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิง 2 นายเข้ามาช่วยพยุงพาผมส่งโรงพยาบาล ตอนนั้นผมช็อกมากน่ะครับ ผมคิดแต่จะรีบออกจากที่นั่นหลังจากเสียขวัญกับเสียงยิงเปรี้ยงๆ พวกนั้น” เบนกาดากล่าวในสัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น

“ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามือผมกุมโทรศัพท์มือถือไว้แน่นหนาตลอดเวลาได้ไง” เบนกาดากล่าวในอาการที่เห็นได้ชัดว่าบาดแผลร่างกายโอเคแล้ว แต่บาดแผลทางจิตใจน่าจะต้องได้รับการเยียวยาอีกไม่น้อย

แพทย์ผู้ดูแลรักษาวีรบุรุษเบนกาดา บอกว่า ได้ทำการขูดกระดูกสะบ้าและดูแลแผลให้เป็นอย่างดีแล้ว และเบนกาดาจะกลับมาเดินได้เป็นปกติภายในหลายสัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งในช่วงนั้นต้องใช้ไม้ยันประคองเดิน

ภาพทั้ง 4 ที่จับออกมาจากคลิปข่าวของซีเอ็นเอ็น แสดงให้เห็นสภาพย่ำแย่ของเหยื่อกระสุน โดยภาพมุมบนซ้ายเป็นห้วง 4-5 วินาทีแรกที่ประตูรถไฟเปิด และผู้โดยสารมากมายกระเจิงกันหนีภัยอันตรายออกมาจากตู้ขบวนรถไฟใต้ดิน  ทั้งนี้ ชายที่ยืนติดเสาสวมเสื้อสเวตเตอร์คอปกสีแดง คือวีรบุรุษฮูรารี เบนกาดา ซึ่งขโยกเขยกออกมายังชานชาลาก่อนที่จะเดินลากขาออกไปไต่บันไดสู่ประตูทางออกชั้นบน  ส่วนภาพมุมบนขวาเป็นผู้โดยสารชาย-หญิงรุ่นแรกที่กระเจิงออกมาจากตู้ขบวน โดยหนึ่งในสตรีในภาพนี้ คือหญิงท้องที่ได้รับความช่วยเหลือจากวีรบุรุษเบนกาดา ภาพนี้ทำให้โล่งใจกันได้ว่าเธอปลอดภัยดีทุกอย่าง  สำหรับภาพมุมล่างซ้าย เป็นคุณแม่ชาวจีนของน้องวัย 15 ปี ที่ถูกยิงนิ้วหัวแม่โป้ง  ในภาพนี้ คุณแม่เดินว้าวุ่นไปมาหลายรอบอย่างทุกข์ใจ เพื่อจะตามหาลูกชายให้พบ นอกจากนั้น ภาพมุมล่างขวาเป็นชายสูงอายุที่ถูกยิงขา และมีคนช่วยประคองออกมายังพื้นชานชาลา ซึ่งในเวลาต่อมา ก็จะเดินไปนั่งลงกับพื้น แล้วมีผู้โดยสารรายหนึ่งนำสเวตเตอร์มาช่วยพันขาเหนือบาดแผล เพื่อห้ามเลือด
ผลงานโหดของมือปืนปีศาจ : บาดเจ็บ 11 ราย โดยหนึ่งรายเป็นเด็กชายวัย 15 ปี และบาดเจ็บอื่นๆ รวม 29 ราย

ตำรวจแถลงข่าวว่ามือปืนทำการยิงทั้งสิ้น 33 ครั้ง โดนผู้โดยสาร 11 ราย เป็นสตรี 4 ราย อายุ 41-49 ปี และเป็นผู้ชายกับเด็กชาย 7 ราย อายุ 15-41 ปี โดยเป็นเด็กชายหนึ่งรายซึ่งถูกลูกหลงบริเวณนิ้วหัวแม่โป้งของมือข้างซ้าย

นอกจากนั้น ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากควันระเบิดและการกระทบกระแทกระหว่างช่วงแตกตื่นโกลาหลอีกมากมาย รวมจำนวนผู้ที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล 29 ราย

ทั้งนี้ ไม่มีเหยื่อรายใดเสียชีวิต และน่าสังเกตว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นกับผู้ได้รับบาดเจ็บเพราะกระสุนปืนนั้น ส่วนใหญ่เป็นบาดแผลบริเวณขา

สำหรับเด็กชายวัย 15 ปี ที่ถูกยิงเข้าที่นิ้วโป้ง ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ไมมอนนิดีส และผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แคธีย์ โฮคูล ซึ่งเข้าเยี่ยมให้กำลังใจในค่ำวันเกิดเหตุ แถลงข่าวว่า น้องได้รับการผ่าตัดช่วยเหลือเป็นอย่างดีมาก ไม่ถูกตัดนิ้ว แต่ชีวิตส่วนตัวน่าสงสาร น้องเป็นเด็กเชื้อสายจีน อยู่ด้วยกันกับคุณแม่ชาวจีนเพียงลำพัง 2 คนแม่ลูก โดยคุณแม่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย

“คุณแม่ของน้องเป็นชาวจีนค่ะ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย คุณแม่มาเฝ้าไข้เพียงลำพังคนเดียวล่ามบอกว่าเธอทุกข์ใจมาก เธอมีลูกชายคนนี้อยู่ในชีวิตเพียงคนเดียว

อาวุธปืนที่ตำรวจพบในที่เกิดเหตุ พร้อมสัมภาระต่างๆ เช่น รถเข็น กระเป๋าผ้า

รถตู้ที่มือปืนเช่ามาจากเมืองฟิลาเดลเฟีย และนำไปจอดห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินเพียง 6.5 กิโลเมตร  ในภาพนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำการตรวจค้นก่อนจะยึดเป็นของกลาง ทำการโยนหมอนออกมาจากด้านในรถตู้
ตามจับกุมมือปืนได้ไม่ยาก เพราะมีเทคโนโลยีเจ๋งๆ ใช้เก็บหลักฐาน และคนร้ายทิ้งหลักฐานไว้เพียบ

แม้มือปืนสูงอายุจะหนีออกจากที่เกิดเหตุได้สำเร็จ แต่ทางการของนิวยอร์กซิตี้สามารถระบุตัวตนของจอมโหดรายนี้ที่เป็นผู้ต้องสงสัยได้ว่า เป็นชายวัย 62 ปี นามว่า แฟรงก์ เจมส์

เพราะมือปืนทิ้งหลักฐานไว้มากมาย ได้แก่ ปืนพกยี่ห้อกล็อก 9 มม. จำนวน 1 กระบอก กระสุน 3 แมกกาซีน บัตรเครดิตระบุชื่อว่าแฟรงก์ เจมส์ และกุญแจรถตู้ ซึ่งเป็นรถเช่ามาจากบริษัทยูฮาลในเมืองฟิลาเดลเฟีย โดยเช่าภายใต้ชื่อแฟรงก์ เจมส์ นิวยอร์กไทมส์รายงานข้อมูลข่าวไว้อย่างละเอียด

ตำรวจพบรถตู้คันดังกล่าวได้ไม่ยาก โดยรถถูกจอดทิ้งไว้ห่างจากสถานีถนนสาย 36 ของรถไฟใต้ดินเพียงประมาณ 6.5 กิโลเมตร

นอกจากนั้น ตำรวจไล่ดูภาพมือปืนจากกล้องตรวจจับในบริเวณเกิดเหตุร้าย ตลอดจนบริเวณแนวถนนติดสถานีรถไฟฟ้าระยะทาง 17 บล็อกได้ทั้งหมด ยิ่งกว่านั้น ยังออกตระเวนขอความร่วมมือจากร้านค้าบนแนวถนนให้ช่วยตรวจดูภาพจากกล้องตรวจจับของร้านที่อาจชี้บ่งตัวตนของมือปืน

และแน่นอนว่าตำรวจทำการเปรียบเทียบเลขทะเบียนปืนของกลางเพื่อหาข้อมูลเจ้าของปืน

ในการนี้ ตำรวจตามพบแหล่งกบดานของแฟรงก์ เจมส์ อย่างรวดเร็ว และติดตามไปจับกุมตัวได้โดยละม่อมในวันถัดมาจากวันเกิดเหตุ ได้แก่ วันพุธที่ 13 เมษายน 2022

โฉมหน้าของแฟรงก์ เจมส์ ผู้ต้องหาคดีกราดยิงสนั่นในตู้รถไฟใต้ดิน เขาถูกจับกุมในวันถัดมาจากวันเกิดเหตุ ได้แก่ วันพุธที่ 13 เมษายน 2022
น้องสาวมือปืนมั่นใจ พี่ชายไม่ได้ป่วยทางจิต

ขอบเขตการสืบสวนสอบสวนของตำรวจครอบคลุมถึงการพบเพจยูทูปของแฟรงก์ เจมส์ด้วย ซึ่งตำรวจจะใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์สภาพจิตใจของมือปืนเจมส์ก่อนจะออกมากระทำเรื่องร้ายกาจครั้งนี้

เอ็นบีซีนิวส์รายงานว่า ในคลิปจากเพจยูทูปของมือปืนเจมส์ พบว่า เขาใช้ยูเซอร์เนมว่า โพรเฟต ออฟ ทรูธ 88 ซึ่งก็คือศาสดาพยากรณ์แห่งสัจจะ 88 นั่นเอง และมีการประณามมากมายในประเด็นปัญหาทางสังคม ทั้งเรื่องเชื้อชาติและความรุนแรง อีกทั้งยังแสดงมุมมองอันเผ็ดร้อนเกี่ยวกับคนผิวดำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สตรีผิวดำ ตลอดจนวิพากษ์นโยบายของนายกเทศมนตรีเอริก อาดัมส์ แห่งมหานครนิวยอร์กซิตี้ ที่เพิ่งประกาศในเรื่องคนไร้บ้านและระบบรถไฟใต้ดิน

น้องสาวของมือปืนเจมส์ นาม แคเทอรีน เจมส์ โรบินสัน ให้สัมภาษณ์นิวยอร์กไทมส์ว่า พี่ชายมิได้ป่วยด้วยโรคทางจิต แต่บอกว่าเขาแยกไปอยู่ตามลำพังตลอดทั้งชีวิต โดยแทบจะไม่มีการติดต่อกลับมาบ้านเลย

“ดิฉันไม่คิดว่าพี่จะทำอะไรอย่างนี้ค่ะ” แคเทอรีนกล่าวกับสื่อค่ายเดอะไทมส์ “นี่ไม่ใช่ธรรมชาติของเขาเลย”

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา : Cafemom.com Wikisoon.com ซีเอ็นเอ็น นิวยอร์กโพสต์ นิวยอร์กเดลีนิวส์ นิวยอร์กไทมส์ เอ็นบีซีนิวส์)

กำลังโหลดความคิดเห็น