เอพี - วันนี้ (11 เม.ย.) ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ปรากฏตัวผ่านทางวิดีโอลิงก์ต่อหน้าสมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ เรียกร้องให้โซลสนับสนุนยุทโธปกรณ์ทางทหารให้ยูเครนทำสงครามรบรัสเซีย ไมี่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าเคียฟถูกกลาโหมเกาหลีใต้แถลงยืนยันปฏิเสธไม่ส่งระบบต่อต้านอากาศยานให้ตามการร้องขอ
เอพีรายงานวันนี้ (11 เม.ย.) ว่า ในการแถลงต่อหน้ารัฐสภาเกาหลีใต้ในวันจันทร์ (11) ทางวิดีโอลิงก์ ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวมีใจความดังนี้ “สาธารณรัฐเกาหลีมีรถถัง เรือต่างๆ และเครื่องมือมากมายที่สามารถปิดกั้นจรวดมิสไซล์รัสเซียและทางเราจะรู้สึกยินดีหากว่าทางสาธารณรัฐเกาหลีสามารถช่วยเหลือเราสู้รบผลักดันรัสเซีย”
ผู้นำยูเครนกล่าวโดยเรียกชื่อทางการของเกาหลีใต้ว่า "สาธารณรัฐเกาหลี" ในแถลงการณ์ครั้งแรกของเขา
และเขายังกล่าวต่อว่า “หากว่ายูเครนสามารถได้รับอาวุธประเภทเช่นนั้นได้มันไม่เพียงที่จะสามารถช่วยเราในการช่วยชีวิตประชาชนคนธรรมดาทั่วไปของเราไว้ได้ แต่ยังเป็นการให้โอกาสแก่ยูเครนสามารถยังคงอยู่ในฐานะความเป็นชาติได้ต่อไป และยังสามารถป้องกันชาติอื่นจากการถูกโจมตีจากรัสเซีย”
เอพีชี้ว่า การแถลงของเขาเป็นการแถลงแบบผ่านล่ามแปลภาษาในการประชุมรัฐสภาเกาหลีใต้ที่มีการถ่ายทอดสดผ่านทางทีวีทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ก่อนหน้าผู้นำยูเครนจะขึ้นกล่าวต่อหน้ารัฐสภาโซลในวันนี้ (11) เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกมายืนยันว่า "ได้ปฏิเสธคำร้องขอ" จากเคียฟในเรื่องการขอให้โซลช่วยเหลือจัดส่งอาวุธต่อต้านอากาศยานให้เคียฟระหว่างการสนทนาระหว่างรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ และรัฐมนตรีกลาโหมยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ให้เหตุผลการปฏิเสธโดยอ้างหลักการของรัฐบาลโซลในการจำกัดการให้ความช่วยเหลือยูเครนเฉพาะประเภทยุทธปัจจัยที่ไม่ใช่อาวุธเท่านั้น
ซึ่งในระหว่างการกล่าวแถลงของเซเลนสกี พบว่าเขาได้กล่าวไปถึงเมืองมาริอูโปลที่ถูกรัสเซียยึดครองและเชื่อว่ามีประชาชนไม่ต่ำกว่านับหมื่นคนน่าจะเสียชีวิต ซึ่งในการแถลงผู้นำยูเครนยังแสดงภาพวิดีโอคลิปที่แสดงให้เห็นอาคารบ้านเรือนในยูเครนถูกมิสไซล์รัสเซียโจมตี รถถังรัสเซียเปิดฉากยิงระหว่างกำลังวิ่งอยู่บนถนนสายต่างๆ ที่พังพินาศ ผู้คนกำลังร้องไห้อย่างเศร้าโศกต่อความตายของญาติมิตรในโรงพยาบาลที่แออัด
เขากล่าวว่า กองกำลังยูเครนยังไม่สามารถเข้าไปในเมืองมาริอูโปลนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม และกองกำลังรัสเซียได้ตัดการขนส่งทางด้านมนุษยธรรมแล้ว
ประธานาธิบดีเซเลนสกี ย้ำว่า “สงครามนี้อีกยาวนานกว่าที่จะสิ้นสุด” และเขาชี้ว่า “รัสเซียมีเป้าหมายต้องการยุติความเป็นเอกราชของยูเครนและต้องการแบ่งแยกประเทศ มันต้องการที่จะลบล้างวัฒนธรรมและภาษาของประเทศยูเครน”
อ้างอิงจากจากเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ ยืนยันอย่างหนักแน่นในการให้สัมภาษณ์ในวันจันทร์ (11) ว่า จะไม่มีการหยุดปฏิบัติการทางทหารรัสเซียชั่วคราวก่อนหน้าการเจรจาสันติภาพรอบต่อไปจะเปิดฉากขึ้น
"หลังจากที่ทางเราเชื่อว่าฝ่ายยูเครนไม่มีแผนที่จะตอบสนอง การตัดสินใจเกิดขึ้นที่ว่าในระหว่างการเจรจาครั้งต่อไปจะไม่มีการยุติลงชั่วคราวตราบเท่าที่ข้อตกลงสุดท้ายยังไม่สามารถบรรลุ"