กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุวันนี้ (11 เม.ย.) ว่าระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-300 ที่ยูเครนได้รับบริจาคมาจาก “ชาติยุโรป” รายหนึ่ง ถูกกองกำลังขีปนาวุธรัสเซีย “ยิงทำลาย” แล้ว
กระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่า ขีปนาวุธ “คาลิบร์” (Kalibr) ของกองทัพหมีขาวซึ่งยิงจากกลางทะเล สามารถทำลายแท่นยิงขีปนาวุธ S-300 จำนวน 4 แท่น ซึ่งถูกซุกซ่อนเอาไว้ในโกดังแห่งหนึ่งที่ชานเมืองดนิโปร (Dnipro) ของยูเครน และยังมีทหารยูเครนถูกสังหารไปอีก 25 นาย
รัสเซียไม่ได้เอ่ยชื่อประเทศยุโรปที่มอบขีปนาวุธ S-300 ให้แก่กองกำลังเคียฟ แต่รัฐบาลสโลวะเกียซึ่งมีข่าวว่าได้บริจาคระบบขีปนาวุธให้แก่ยูเครนไปก่อนหน้านี้ ออกมาปฏิเสธตั้งแต่วันอาทิตย์ (10) ว่าสิ่งที่โดนโจมตี “ไม่ใช่” ขีปนาวุธ S-300 ที่ส่งไปจากสโลวะเกียอย่างแน่นอน พร้อมทั้งวิจารณ์รัสเซียว่าเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
กองทัพรัสเซียยังยิงสอยเครื่องบินขับไล่ Su-25 ของยูเครนได้ 2 ลำที่เมืองอิเซียม (Izium) และทำลายคลังอาวุธไปได้อีก 2 แห่ง โดยหนึ่งในนั้นอยู่ใกล้ๆ กับเมืองมีโคไลฟ์ (Mykolaiv) ตามข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
ยูเครนเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ชาติตะวันตกส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศและอาวุธหนักต่างๆ ไปช่วยทหารยูเครนต้านทานการบุกของรัสเซีย ซึ่งกินเวลายืดเยื้อมานานถึง 6 สัปดาห์แล้ว
สโลวะเกียซึ่งเป็นรัฐสมาชิกนาโตมีหมู่ขีปนาวุธ S-300 ใช้งานอยู่จำนวน 1 หมู่ (battery) ซึ่งได้รับตกทอดมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่เชโกสโลวะเกียแตกออกเป็น 2 ประเทศในปี 1993
นายกรัฐมนตรี เอดูอาร์ด เฮเกอร์ แห่งสโลวะเกีย ออกมายืนยันเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (8) ว่า รัฐบาลสโลวะเกียได้บริจาคระบบ S-300 ของตนให้ยูเครนเพียง 1 วันหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศว่ามีกว่า 30 ประเทศที่กำลังจัดส่งความช่วยเหลือด้านการทหารไปเพิ่มเติมให้แก่เคียฟ
ที่มา : รอยเตอร์