เอพี/เอเจนซีส์ - มีรายงานเครมลินแต่งตั้ง พล.อ.อเล็กซานเดอร์ ดวอร์นิคอฟ (Gen.Alexander Dvornikov) ขึ้นเป็นผู้บัญชาการปฏิบัติการทหารในยูเครน เป็นนายพลรัสเซียที่อื้อฉาวจากการสังหารพลเรือนในซีเรีย ด้านกระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลงเตือนวันนี้ (11 เม.ย.) อ้างอิงข่าวกรองล่าสุดว่า มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีฟอสฟอรัสในการโจมตีมาริอูโปล หลังในอดีตเคยใช้โจมตีที่โดเนตสค์
เอพีรายงานเมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ว่า มีรายงานว่ารัสเซียแต่งตั้งแม่ทัพคนใหม่เข้าคุมปฏิบัติการทหารในการบุกยูเครนที่มีฉายานักฆ่าซีเรีย พล อ.อเล็กซานเดอร์ ดวอร์นิคอฟ (Gen.Alexander Dvornikov) หลังที่ผ่านมาผลงานการบุกยูเครนของรัสเซียประสบปัญหาสูญเสียหนัก
ข่าวการแต่งตั้งดวอร์นิคอฟ นี้ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยชื่อ เอพีชี้ และเสริมว่า ดวอร์นิคอฟอยู่ในวัย 60 ปี มีประสบการณ์สูงในสงครามซีเรียของปฏิบัติการเข้าแทรกแซงจากเครมลินเมื่อปี 2015 และขึ้นชื่อว่าเขาเป็นผู้ที่สังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่นั่นและในสนามรบแห่งอื่นๆ ของรัสเซีย ซึ่งมาถึงเวลานี้รัสเซียยังไม่มีผู้บัญชาการรบกลางในสมรภูมิยูเครน
ข่าวการแต่งตั้งครั้งนี้ยังได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ชาติตะวันตกต่อบีบีซี สื่ออังกฤษ โดยชี้ว่าประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เป็นผู้เลือกให้เขาเข้ามาทำหน้าที่ อ้างอิงจากบิสซิเนสอินไซเดอร์
ซึ่งนายพลที่มากประสบการณ์นายนี้มีรายงานว่าได้รับมอบหมายให้ปรับปรุงการประสานงานภายในหน่วยกองกำลังรัสเซีย ซึ่งในเวลานี้รัสเซียหันมาเปลี่ยนยุทธศาสตร์ในการโจมตีภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครนแทน หลังถอนกำลังออกไปจากภูมิภาคกรุงเคียฟจนหมด
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนม้าศึกของปูตินครั้งนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ ยังตั้งข้อสงสัยว่าจะช่วยทำให้สถานการณ์การรบของรัสเซียดีขึ้นจริงหรือ ซึ่งนอกเหนือจากที่โฆษกทำเนียบขาวจะกล่าวถึงในเรื่องนี้แล้ว เอพีรายงานว่า ที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐฯ ประจำทำเนียบขาว เจค ซัลลิแวน (Jake Sullivan) ได้แสดงความเห็นถึงข่าวรัสเซียเปลี่ยนตัวนายพลคุมปฏิบัติการคนใหม่ว่า “ไม่มีการแต่งตัวนายพลคนใดที่จะสามารถลบล้างข้อเท็จจริงที่ว่ารัสเซียนั้นล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ในยูเครน”
และชี้ต่อว่า “นายพลคนใหม่นี้เป็นเพียงเจ้าของผลงานอีกคนของอาชญากรรมและความป่าเถื่อนต่อประชาชนยูเครน” ซัลลิแวนกล่าวอีกว่า “และสหรัฐฯ เหมือนที่ผมเคยพูดมาแล้วว่า กำลังมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่พวกเราสามารถกระทำได้เพื่อสนับสนุนชาวยูเครนขณะที่พวกเขาต่อต้านเขาและคนเหล่านั้นยังต่อต้านกองกำลังที่เขาบัญชาการ”
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมอังกฤษออกแถลงการณ์เตือนล่าสุดวันจันทร์ (11) โดยชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีฟอสฟอรัสในการโจมตีเมืองมาริอูโปล
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานว่า กระทรวงกลาโหมอังกฤษอ้างอิงการรายงานข่าวกรองล่าสุดของตัวเองประจำวันที่ 11 เม.ย.ผ่านทางทวิตเตอร์ ชี้ว่า เนื่องมาจากกองกำลังรัสเซียเคยใช้อาวุธเคมีฟอสฟอรัสในโดเนตสค์ โอบลาสต์ (Donetsh Oblast) ทำให้มีความวิตกว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ที่ทางกองกำลังจะใช้ในมาริอูโปลในอนาคตจากการที่สถานการณ์การสู้รบตึงเครียด
ซึ่งเจ้าหน้าที่การแพทย์ในโรงพยาบาลผดุงครรภ์มาริอูโปล ออกมาเปิดเผยวันอาทิตย์ (10) ถึงสถานการณ์หลังโรงพยาบาลถูกกองกำลังรัสเซียโจมตี และที่ทำงานของเธอถูกกองกำลังทหารรัสเซียบุกยึดพร้อมออกคำสั่งว่า “นอนราบลงกับพื้นหรือพวกเราจะเริ่มต้นโยนระเบิดขว้างใส่พวกคุณ” ซึ่งนั่นเป็นคำสั่งที่เกิดขึ้นหลังทหารรัสเซียบุกเข้ามา
เจ้าหน้าที่รายนี้ชี้ต่อว่า ทหารรัสเซียพูดคุยกับฝ่ายบริหารโรงพยาบาลที่ได้ร้องขอไม่ให้กองกำลังเข้ามาขัดขวางการทำงานของโรงพยาบาล แหล่งข่าวชี้ว่า ประการสำคัญที่กำลังทหารรัสเซียสั่งตัวประกันที่ติดอยู่ด้านในคือ "ห้ามทุกคนออกนอกโรงพยาบาลเด็ดขาดหากขัดขืนพวกคนเหล่านี้จะถูกยิงทิ้ง"
