xs
xsm
sm
md
lg

คูหาเลือกตั้ง ปธน.ฝรั่งเศสเปิดวันนี้ ดูผลสงครามยูเครน “มาครง” ชน “เลอ แปน-เมลองชอง” ส่งกลับเข้าทำเนียบปาแลเดอเลลีเซต่อสมัยที่ 2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์/เอเอฟพี - ผู้มีสิทธิเลือกตั้งฝรั่งเศสเริ่มเดินเข้าคูหาหย่อนบัตรเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกวันอาทิตย์ (10 เม.ย) ตัดสินชะตาประเทศต้องเลือกระหว่างการเมืองสายกลาง เอ็มมานุเอล มาครง การเมืองปีกขวา มารีน เลอแปน และการเมืองปีกซ้าย ฌอง-ลุค เมลองชอง ท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามยูเครน คาดว่าผลการเลือกตั้งจะสูสี

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (10 เม.ย.) ว่า คูหาเลือกตั้งในฝรั่งเศสเริ่มเปิดขึ้นแล้วในเวลา 08.00 น.ของเช้าวันอาทิตย์ (10) และจะปิดลงในเวลา 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันเดียวกัน ซึ่งเป็นเวลาที่สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ของฝรั่งเศสจะรายงานการคาดการณ์ผลการเลือกตั้ง ซึ่งผลเอ็กซิทโพลจะเผยแพร่ออกมาซึ่งโพลประเภทนี้ในฝรั่งเศสมักจะเชื่อถือได้

การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกวันอาทิตย์ (10) มีประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง วัย 44 ปี จากพรรคการเมืองการเมืองสายกลาง ลา รีพุบลิก ออง มาร์ช (LREM) ต้องการกลายเป็นผู้นำฝรั่งเศสคนแรกในรอบ 20 ปี ชนะการเลือกตั้งต่อในสมัยที่ 2 เป็นตัวยืน

พบว่าเขาต้องเผชิญหน้าระหว่าง 2 คู่แข่งจากพรรคการเมืองปีกขวาและการเมืองปีกซ้าย คือ มารีน เลอ แปน จากพรรคเนชันแนล แรลลี (National Rally) และฌอง-ลุค เมลองชอง (Jean-Luc Mélenchon) จากพรรค ลา แฟรงก์ อินซูมิส (La France Insoumise) หรือพรรค FI หรือ LFI ที่ตัวเขาเป็นผู้ก่อตั้ง

ซึ่งในส่วนของดินแดนฝรั่งเศสได้มีการเปิดให้เลือกตั้งมาตั้งแต่วันเสาร์ (9) โดยเริ่มจากดินแดนอาณานิคมฝรั่งเศสนอกชายฝั่งแคนาดาและตามมาด้วยดินแดนอาณานิคมฝรั่งเศสในทะเลแคริบเบียนด้วยเหตุผลความแตกต่างของเวลา เอเอฟพีรายงานและชี้ว่า ผลโพลสำรวจต่างๆ ก่อนหน้าเคยออกมาชี้ว่า มาครงจะนำเลอ แปน และทั้งสองจะได้สิทธิเข้าสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบ 2 ต่อในวันที่ 24 เม.ย.

รอยเตอร์กล่าวว่า เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาโพลเหล่านี้ชี้ว่า จะเป็นการชนะโดยง่ายดายสำหรับมาครง ผู้ซึ่งได้รับเสียงเพิ่มจากการทำหน้าที่ทางการทูตระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งผลทำให้มาครง แทบไม่สามารถออกมาหาเสียงเลือกตั้งบนท้องถนนได้เหมือนเช่นการเลือกตั้งปี 2017  ความนิยมให้มาครง ยังมาจากการฟื้นตัวกลับมาทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง และความอ่อนแอจากกลุ่มฝ่ายค้านฝรั่งเศส

หนึ่งในผู้มีสิทธิที่กรุงปารีส โทมัส โบสต็อก (Thomas Bostock) ที่เพิ่งได้รับสัญชาติฝรั่งเศสเมื่อไม่นานมานี้กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า การมาโหวตครั้งแรกของเขาเพื่อแสดงความยินดีต่อมาครง สำหรับในความสำเร็จของเขาท่ามกลางความเครียดการเมืองเชิงภูมิศาสตร์

แต่ทว่าการที่มาครง เพิ่งมีการปราศรัยใหญ่ต่อบรรดาผู้สนับสนุนเพียงครั้งเดียวและนโยบายหาเสียงการเพิ่มอายุการเกษียณอายุที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบส่งผลทำให้คะแนนความนิยมในผลโพลสำรวจของเขาลดลงท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจเงินเฟ้อที่ถีบตัวสูงขึ้น

และในทางตรงข้ามคู่แข่ง เลอ แปน ที่เคยเผชิญหน้ามาแล้วในการเลือกตั้งรอบ 2 ปี 2017 พบว่าได้รับความนิยมเพิ่มเป็นผลมาจากการหาเสียงอย่างหนักต่อเนื่องนานหลายเดือนในนโยบายแก้ปัญหาปากท้องประชาชนฝรั่งเศส และเธอยังได้อานิสงส์จากคะแนนความนิยมที่ลดลงอย่างมากของคู่แข่งจากการเมืองปีกขวาฝรั่งเศส  อีริค ซิมมัวร์ (Eric Zemmour)

รอยเตอร์รายงานว่า ผลโพลก่อนการเลือกตั้งยังคงชี้ว่า มาครงจะเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งรอบแรก และจะเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งรอบ 2 ต่อเลอ แปน ในวันที่ 24 เม.ย. แต่ผลการเลือกตั้งจะออกมาแบบคู่คี่สูสี เนื่องมาจากเลอ แปน ที่คาดว่าจะสามารถทำให้ช่องว่างคะแนนระหว่างเธอและมาครงลดลง และถึงขั้นมีบางส่วนระบุว่า เธออาจจะเป็นผู้ชนะในลักษณะที่ไม่ทิ้งขาด

เอเอฟพีรายงานว่า นักวิเคราะห์ทางการเมืองฝรั่งเศส ปาสคาล เปริโน (Pascal Perrineau) แสดงความเห็นว่า ไม่มีความแน่นอนในผลการเลือกตั้งเที่ยวนี้ เนื่องมาจากว่ายังมีผู้มีสิทธิเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้ตัดสินใจหรือคนที่เปลี่ยนใจระหว่างการหาเสียง รวมไปถึงผู้ที่โหวตผ่านทางไปรษณีย์

ที่ย่านชานกรุงปารีส บลันดีน เลอเฮาต์ (Blandine Lehout) นักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศสวัย 32 ปี แสดงความเห็นเบื่อหน่ายการเมืองฝรั่งเศส โดยเธอกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่มีผู้สมัครคนใดรอบนี้ที่สมควรได้รับคะแนนจากดิฉัน”

และเธอกล่าวต่อว่า “นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ดิฉันจะไม่ออกไปเลือกตั้ง” และเสริมต่อว่า “ดิฉันจะไปเลือกตั้งรัฐสภาฝรั่งเศส (ในเดือนมิถุนายน) แต่สำหรับการเลือกตั้งเที่ยวนี้ ดิฉันเกลียดพวกเขาทุกคน พวกเราอยู่ในขั้นที่ทุกคนทำให้ดิฉันรู้สึกหวาดกลัว”

เอเอฟพีชี้ว่า ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเที่ยวนี้มีผู้ออกมาลงทะเบียนเลือกตั้งจำนวนราว 48.7 ล้านคน


กำลังโหลดความคิดเห็น