ศาลอินโดนีเซียพิพากษาประหารชีวิตครูซึ่งก่อคดีข่มขืนนักเรียนหญิง 13 คนในโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม โดยเป็นไปตามการร้องขอของอัยการ หลังจากที่ศาลชั้นต้นเคยตัดสินให้ผู้ต้องหารับโทษเพียงจำคุกตลอดชีวิต
คดีนี้ถือเป็นคดีดังที่สั่นสะเทือนสังคมมุสลิมในอินโดนีเซีย และทำให้ผู้คนหันมาตื่นตัวในการปกป้องลูกหลานจากความรุนแรงทางเพศที่อาจเกิดขึ้นได้ แม้แต่ในโรงเรียนประจำสอนศาสนา
เฮอร์รี วิราวัน (Herry Wirawan) ครูผู้ก่อเหตุ ถูกศาลเมืองบันดุง พิพากษาจำคุกตลอดชีวิตเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทว่าอัยการได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อขอให้เพิ่มโทษเป็นประหารชีวิต
“ศาลตัดสินให้ลงโทษจำเลยโดยการประหารชีวิต” ผู้พิพากษาศาลสูงบันดุงระบุในคำพิพากษาที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์เมื่อวันจันทร์ (4 เม.ย.)
อีรา มัมโบ ทนายของเฮอร์รี ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์อีกหรือไม่ โดยบอกว่าขอไปอ่านคำพิพากษาฉบับเต็มเสียก่อน ขณะที่โฆษกสำนักงานอัยการท้องถิ่นระบุว่า จะรอคำตัดสินขั้นสุดท้ายของศาล ก่อนจะให้ความเห็นใดๆ
ในช่วงระหว่างปี 2016-2021 เฮอร์รี ได้กระทำชำเรานักเรียนหญิงอายุระหว่าง 12-16 ปีไปทั้งหมด 13 คน และมีเหยื่อ 8 คนที่ตั้งครรภ์
เจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงส่งเสริมสตรีและคุ้มครองเยาวชน ต่างออกมาสนับสนุนโทษประหารชีวิตครูรายนี้ ทว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติยังคงคัดค้านว่า “ไม่เหมาะสม”
อินโดนีเซียเป็นชาติที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก และมีโรงเรียนประจำสอนศาสนาอิสลาม รวมถึงโรงเรียนสอนศาสนาอื่นๆ อยู่นับหมื่นแห่ง ซึ่งสถานศึกษาเหล่านี้มักเป็นทางเลือกสำหรับเด็กๆ ที่พ่อแม่มีฐานะยากจน
ที่มา : รอยเตอร์