xs
xsm
sm
md
lg

“น้องสาวคิม จองอึน” ประณามความเห็น “พรีแอมทีฟ สไตรก์” ของ รมว.กลาโหมโซลไม่สร้างสรรค์ บั่นทอนความสัมพันธ์ ทำการทหารบนคาบสมุทรร้อนฉ่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คำบรรยายเพื่อความสร้างสรรค์ทางอารมณ์ขันเท่านั้น
เอเอฟพี/เอพี/รอยเตอร์ - คิม โยจอง น้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือวันอาทิตย์ (3 เม.ย.) ออกมาโจมตีความเห็น “พรีแอมทีฟ สไตรก์” หรือการโจมตีก่อนของรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ซูห์ วุก ว่าเป็นสิ่งไม่สร้างสรรค์ บั่นทอนความสัมพันธ์ของ 2 ชาติเกาหลี และทำให้ความตึงเครียดทางการทหารบนคาบสมุทรเพิ่มขึ้น และเตือนโซลว่าอาจจะเผชิญหน้ากับภัยคุกคามร้ายแรงจากเปียงยางเป็นเพราะการแสดงความเห็นเช่นนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางข่าวการฝึกซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ที่คาดว่าจะมียุทโธปกรณ์และกำลังพลเข้าร่วมมากขึ้นกำลังจะเปิดฉากในไม่ช้า

เอเอฟพีรายงานวันนี้ (3 เม.ย.) ว่า การออกมาแสดงความเห็นของคิม โยจอง (Kim Yo Jong) ในวันอาทิตย์ (3) เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดของ 2 ชาติเกาหลีที่เห็นตั้งแต่ต้นปีนี้เปียงยางยิงทดสอบขีปนาวุธถี่ยิบ รวมไปถึงมิสไซล์พิสัยข้ามทวีป ICBM ล่าสุดที่ทางเปียงยางยุติไปนาน 4 ปี เอพีชี้ว่า หลังแถลงการณ์ของน้องสาวประธานาธิบดีเกาหลีเหนือออกมาเป็นเสมือนสัญญาณว่าเปียงยางจะทำการทดสอบยุทโธปกรณ์ทางการทหารที่สำคัญเพิ่มมากขึ้นในไม่ช้าและจะใช้จุดยืนสายเหยี่ยวที่แข็งกร้าวต่อโซลมากขึ้น

สำนักงานข่าวทางการเกาหลีเหนือ KCNA กล่าวในรายงานว่า คิม โยจองกล่าวตอบโต้ว่า “คำพูดที่เลินเล่อและไร้เหตุผลเกี่ยวกับ “พรีแอมทีฟ สไตรก์” (การเปิดฉากโจมตีก่อน) นั้นจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ 2 ชาติเกาหลีเสื่อมทรามลงมากขึ้น และรวมไปถึงความตึงเครียดทางการทหารบนคาบสมุทรเกาหลี”

พร้อมกันนี้เธอยังกล่าวเตือนผ่านแถลงการณ์ว่า “เกาหลีใต้อาจเผชิญหน้ากับภัยคุกคามร้ายแรงเนื่องมาจากการแสดงความเห็นที่ไม่ระมัดระวังจากรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ที่สมควรต้องลงวินัยตัวเองหากว่าต้องการที่จะเลี่ยงหายนะ”

เอพีชี้ว่าในวันศุกร์ (1) ระหว่างที่รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ซูห์ วุก (Suh Wook) เยือนศูนย์บัญชาการยุทธศาสตร์มิสไซล์เขากล่าวแสดงความเห็นว่า เกาหลีใต้มีความสามารถและความพร้อมในการเปิดฉากการโจมตีที่มีความแม่นยำต่อเกาหลีเหนือหากว่าโซลตรวจจับได้ว่าฝ่ายเปียงยางตั้งใจที่จะยิงมิสไซล์เพื่อโจมตีเกาหลีใต้

ทั้งนี้ เอพีรายงานว่าโซลตลอดเวลาที่ยาวนานใช้หลักการพรีแอมทีฟ สไตรก์ทางการทหารกับเกาหลีเหนือเพื่อจัดการภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นจากภัยคุกคามทางมิสไซล์และนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ตาม เอพีชี้ว่าถือเป็นเรื่องที่แปลกที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโซลภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีมุน แจอิน ที่เสาะหาสันติภาพกับเปียงยางจะออกมาแสดงความเห็นต่อสาธารณะเช่นนี้อย่างเปิดเผย

นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์ (3) เลขาธิการกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ ปั๊ก จอง ชอน (Pak Jong Chon) ออกแถลงการณ์ออกมาหนึ่งฉบับเตือนไปยังโซลให้เลี่ยงความเคลื่อนไหวทางการทหารใดๆ ต่อเกาหลีเหนือ

“กองทัพของเราจะออกคำสั่งอย่างไร้ความเมตตากองกำลังของตัวเองต่อการทำลายเป้าหมายใหญ่ในกรุงโซล” ปั๊กกล่าวโดยที่ไม่ระบุชื่อถึงเป้าหมายที่ว่า

ด้านศาสตราจารย์ ลิฟ-เอริค อิสลีย์ (Leif-Eric Easley) ประจำมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในกรุงโซลออกมาแสดงความเห็นกับเอพีถึงแถลงการณ์น้องสาวของคิม จองอึน ว่า “ความเห็นของคิม โยจอง แสดงให้เห็นถึงลางบอกเหตุต่อการทดสอบทางการทหารที่สำคัญอีกครั้ง” และเสริมต่อว่า “คล้ายกับการที่มอสโกและปักกิ่งพยายามที่จะบอกทั่วโลกว่าการบุกยูเครนของรัสเซียว่าบางทีอาจจะเป็นความผิดของนาโต้ ซึ่งเปียงยางพยายามที่จะกล่าวโทษความคืบหน้าของโครงการมิสไซล์และนิวเคลียร์ของตัวเองไปที่ความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้”

ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) รอยเตอร์รายงานว่า การฝึกซ้อมร่วมกันทางการทหารครั้งใหญ่ระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ มีกำหนดจะเริ่มขึ้นในเดือนเมษายนซึ่งอาจถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี รวมไปถึงอาวุธยุทโธปกรณ์และกำลังพลมากขึ้น และการส่งข้อความที่แข็งกร้าวมากขึ้น

ขณะที่ ชอง ซุง-ชาง (Cheong Seong-Chang) ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ประจำสถาบันเอกชน สถาบันเซจอง (Sejong Institute) ในกรุงโซลกล่าวว่า การออกมาแสดงความเห็นแบบหลังชนหลังของเกาหลีเหนือเที่ยวนี้แสดงให้เห็นว่า เปียงยางจะใช้มาตรการสายเหยี่ยวเพิ่มขึ้นต่อเกาหลีใต้ พร้อมเสริมว่าเปียงยางรู้สึกอ่อนไหวต่อความสามารถการโจมตีก่อนของโซลเพราะเปียงยางขาดทรัพยากรทางการทหารและความสามารถในการตรวจจับการโจมตีล่วงหน้าจากเกาหลีใต้

แต่อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่าความเห็นของปั๊กเรื่องพรีแอมทีฟ สไตรก์ ส่งผลร้ายเพราะจะยิ่งส่งผลทำให้เพิ่มกำลังมากขึ้นในความเห็นจากเจ้าหน้าที่สายเหยี่ยวในเปียงยาง และเพิ่มความตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติเกาหลี


กำลังโหลดความคิดเห็น