เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แถลงต่อรัฐสภาออสเตรเลียในวันพฤหัสบดี(31 มี.ค)เรียกร้องให้ช่วยหยุดรัสเซียจากความทะเยอทะยานต่อยูเครนโดยมีชะตากรรมความมั่นคงโลกเดิมพัน ผู้นำออสเตรเลียมอบเงิน 25 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเพื่อสนับสนุนเพิ่มช่วยยูเครนทางการทหาร ด้านเพนตากอนประกาศวันอังคาร(29 มี.ค)ส่งกำลังทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯเพิ่ม 400 นายไปยุโรปตะวันออกเพื่อเสริมกำลัง
มารีนคอร์ปไทม์สของสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(30 มี.ค)ว่า ในแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯวันอังคาร(29)พบว่าหน่วยการบินของกองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ 3 หน่วยจะเดินทางไปเสริมกำลังกับทหารสหรัฐฯในยุโรปตะวันออกและเยอรมันที่มีอยู่ไม่ต่ำกว่า 10,000 นายเพื่อตอบโต้การบุกยูเครนของรัสเซีย
ทั้งนี้ทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯนั้นได้เข้าไปอยู่ในยุโรปก่อนหน้าในส่วนหนึ่งของปฎิบัติการซ้อมรบ Cold Response ของนาโต้ที่นอร์เวย์ อ้างอิงจากโฆษกเพนตากอน จอห์น เคอร์บีที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อการทหารมิลิทารีไทมส์(Military Times)
และในเวลานี้ทหาร 200 นายจากหน่วยควบคุมทางอากาศนาวิกโยธินสหรัฐฯที่ 28 (Marine Air Control Unit 28) ตั้งอยู่ที่สถานีอากาศนาวิกโยธินสหรัฐฯเชอร์รี พอยท์(Marine Corps Air Station Cherry Point)ในรัฐนอร์ท แคโรไลนาในเวลานี้ไปประจำอยู่ที่ลิทัวเนีย
นอกเหนือจากนี้พบว่าได้มีการส่งเครื่องฮอร์เนต F/A-18 จำนวน 10 ลำ และเครื่องบินลำเลียงเฮอร์คิวลิส C-130( C-130 Hercules) จากสถานีอากาศนาวิกโยธินสหรัฐฯโบฟอร์ต (Marine Corps Air Station Beaufort)ในรัฐเซาท์แคโรไลนาจะมุ่งหน้าไปยังจุดหมายในยุโรปแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยเคอร์บีเผยว่าพร้อมกับกำลังพลอีก 200 นาย
มารีนคอร์ปไทม์สชี้ว่า การส่งกำลังสมทบล่าสุดทำให้มีจำนวนกำลังทหารสหรัฐฯในการตอบโต้ต่อการรุกรานยูเครนของรัสเซียอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 12,000 นายล่าสุด ซึ่งมาถึงเวลานี้พบว่ากำลังทหารส่วนใหญ่มาจากกองทัพบกและกองทัพอากาศถึงแม้ว่ากองทัพเรือสหรัฐฯจะส่งเครื่องทำสงครามต่อต้านทางอิเล็กทรอนิกA-18G Growler จำนวน 6 ลำไปเยอรมันตามการแถลงของโฆษกเพนตากอนในวันจันทร์(28)
ขณะเดียวกันประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในวันนี้(31 มี.ค)ได้กล่าวต่อรัฐสภาออสเตรเลียทางวิดีโอลิงค์ เดอะการ์เดียนรายงาน
เขาได้เรียกร้องต่อสมาชิกรัฐสภาออสเตรเลียให้เห็นความสำคัญเนื่องมาจากเหตุผลภัยคุกคามทางความมั่นคงระดับโลกหากว่า “รัสเซีย” ยังไม่หยุดความทะเยอทะยานที่มีต่อยูเครน
“เราไม่ได้เห็นสิ่งนี้ในโลกสำหรับประเทศที่เริ่มต้นก่อสงครามต่อเพื่อนบ้าน ประกาศอย่างเปิดเผยถึงการทำให้เป็นทาสหรือการทำลาย ไม่ปล่อยให้ประเทศนั้นยังคงมีชื่อต่อ ไม่แม้แต่โอกาสสำหรับประเทศนี้ที่จะมีชีวิตอย่างเสรี”
และเขายังกล่าวเตือนโดยเฉพาะเกี่ยวกับภัยคุกคามถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์โดยกล่าวต่อสมาชิกรัฐสภาออสเตรเลียด้วยถ้อยคำอย่างจับใจว่า
"ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะมีส่วนใดของโลกที่สามารถปลอดภัยจากการปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีหากว่าอาวุธนิวเคลียร์ถูกใช้...ประเทศซึ่งใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อแบล็กเมลสมควรได้รับการคว่ำบาตรที่จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าการแบล็กเมลเช่นนั้นเป็นหายนะต่อผู้ทำแบล็กเมลเอง"
และเขากล่าวต่อโดยชี้ไปว่า จะมีอีกหลายประเทศที่อาจจะออกมาเลียนแบบการกระทำของรัสเซีย ซึ่งการกระทำที่ก้าวร้าวของรัสเซียแสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามที่แท้จริงต่อ "ออสเตรเลีย" และต่อทั้งโลก
“แต่สิ่งที่เลวร้ายมากที่สุดหากว่าพวกเราไม่หยุดรัสเซียในเวลานี้ หากว่าพวกเราทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบ จะมีประเทศเพิ่มมากขึ้นในโลกที่กำลังเฝ้ามองที่จะเริ่มสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านจะคิดว่าการกระทำเช่นนั้นมีความเป็นไปได้สำหรับประเทศเหล่านั้นเช่นกัน ชะตากรรมของความมั่นคงโลกได้ถูกตัดสินแล้วในเวลานี้”
อ้างอิงจากสื่อ news.com.au พบว่าการปรากฎตัวของผู้นำยูเครนเกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้(31) และได้รับเกียรติสูงสุดจากสมาชิกรัฐสภาออสเตรเลียด้วยการลุกขึ้นยืนปรบมือแสดงความชื่นชมอย่างสูง และก่อนหน้าที่เขาจะขึ้นกล่าวพบว่านายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอริสสัน ได้ออกมาแสดงความยกย่องต่อความกล้าหาญของประชาชนยูเครน และมอร์ริสสันประกาศว่า "พวกเรายืนเคียงข้างคุณ ท่านประธานาธิบดี" และตอบต่อข้อเรียกร้องจากเซเลนสกี ทางรัฐบาลแคนเบอร์ราจะมอบเงินจำนวน 25 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนทางการทหารต่อยูเครน
ซึ่งในส่วนความช่วยเหลือครั้งใหม่จะให้ในความเป็นพันธมิตรกับอุตสาหกรรมทางการทหารของออสเตรเลียต่อกองทัพยูเครน ส่งผลทำให้แคนเบอร์ราให้ความช่วยเหลือเคียฟทางการทหารรวมทั้งหมด 116 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งการสนับสนุนล่าสุดของออสเตรเลียเพื่อตอบสนองต่อการรุกรานที่ป่าเถื่อนและไม่ชอบธรรมของรัสเซียและพร้อมกันนี้แคนเบอร์ราให้คำมั่นสัญญาจะพยายามเสาะหาโอกาสและช่องทางเพื่อช่วยเหลือเคียฟทางการทหารเพิ่มต่อไปในอนาคต