xs
xsm
sm
md
lg

“มาครง” เริ่มแคมเปญหาเสียงเลือกตั้ง ปธน.ฝรั่งเศส ส่วนคู่แข่งหน้าเดิม “มารีน เลอ แปน” คะแนนตีตื้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - เอ็มมานุแอล มาครง วันจันทร์ (28 มี.ค.) เริ่มแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสด้วยการเดินในย่านชานกรุงปารีส และการหาเสียงครั้งใหญ่ในกรุงปารีสเพื่อรักษาตำแหน่งสำหรับสมัยถัดไปสำหรับการเลือกตั้งรอบแรกที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 10 เม.ย.ที่จะถึง ท่ามกลางเสียงผู้มีสิทธิเลือกตั้งชี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสทำคะแนนได้ดีในการจัดการวิกฤตสงครามยูเครน ขณะที่ตัวเต็งหน้าเดิมรอบที่แล้ว มารีน เลอ แปน ทำคะแนนตีตื้น แต่สุดสัปดาห์ออกมาเปรยอาจตัดใจไม่ลงชิงอีกครั้งหากแพ้

เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (29 มี.ค.) ว่า ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง วัย 44 ปี ตั้งความหวังว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่จะมีขึ้นในเดือนเมษายนจะทำให้เขากลายเป็นผู้นำแดนน้ำหอมคนแรกในรอบ 20 ปีที่ได้รับเลือกกลับเข้ามาอีกครั้ง

แต่พบว่าผลโพลที่ผ่านมาคะแนนของเขาลดลง 2 ถึง 3 จุด และคะแนนระหว่างตัวเขาและมารีน เลอ แปน ผู้นำพรรคการเมืองปีกขวาฝรั่งเศสเริ่มทิ้งห่างน้อยลง

ซึ่งในขณะที่มาครงยังเป็นที่นิยม แต่ทว่าการหาเสียงในอีก 10 วันข้างหน้านั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความเสี่ยงท่ามกลางความโกรธแค้นของชาวฝรั่งเศสต่อปัญหาค่าครองชีพ

มาครงกล่าวผ่านทางโทรทัศน์เมื่อไม่นานมานี้ว่า “ผมรู้สึกชื่นชมต่อการแรลลีแต่ขอให้ตั้งสติ ผมไม่สามารถทำอะไรได้เป็นจำนวนมาก!” ในคำอธิบายที่เขาจำเป็นต้องปรากฏตัวเข้าร่วมการประชุมซัมมิตระหว่างประเทศและร่วมในกระบวนการเกี่ยวข้องทางการทูตเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน

มาครงกล่าวอีกว่า “จะไม่มีใครเข้าใจหากว่าผมไม่อยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องประชาชนฝรั่งเศส”

หลังจากที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสปี 2017 พบว่า มาครงสัญญาที่จะเปลี่ยนแปลงฝรั่งเศสครั้งใหญ่ในรูปแบบการเมืองใหม่ที่ไม่ใช่ทั้งปีกซ้ายหรือปีกขวา โดยผลโพลการเลือกตั้งรอบแรกพบว่ามาครงได้ไป 27% ตามมาด้วยเลอ แปน จากพรรคการเมืองปีกขวา National Rally ที่ 17% ที่ทำคะแนนตีตื้นขึ้นหลังจากหาเสียงอย่างหนักในวิกฤตค่าครองชีพของประชาชนฝรั่งเศส

ซึ่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกจะเกิดขึ้นในวันที่ 10 เม.ย. และรอบ 2 จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 เม.ย.

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (30) ว่า มาครงและเลอ แปน คาดว่าจะเป็น 2 ผู้สมัครที่มีคะแนนนำในการเลือกตั้งรอบแรกและคาดว่าจะมีสิทธิที่จะทะลุผ่านเข้าไปสู่การเลือกตั้งรอบ 2 ในวันที่ 24 เม.ย. อ้างอิงจากโพล IFOP-Fiducial Poll พบว่ามาครงคาดว่าจะชนะการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบ 2 ด้วยผลคะแนน 53.5% เมื่อเทียบกับคู่แข่งเลอ แปน

เอเอฟพีรายงานว่า ตามปกติสถานีโทรทัศน์ชั้นนำฝรั่งเศสมักอุทิศเวลาช่วงเย็นให้การวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกแต่ไม่ใช่สำหรับในปีนี้ เพราะพบว่าทางสถานี TF1 เลือกที่จะตัดช่วงเวลาเพื่อเสนอโชว์ The Visitors คอมเมดียอดนิยมยุคปี 1993 แทนโดยอ้างไปถึงเหตุผลการถดถอยทางประชาธิปไตยที่มีมากขึ้น

ซึ่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสปีนี้พบว่ามีผู้สมัครลงชิงถึง 11 คนต้องการโค่นมาครงจากพรรคการเมืองสายกลางฝรั่งเศสลง รอยเตอร์รายงานว่า เลอ แปน ที่คาดว่าจะเป็นเพียงผู้เดียวที่มีสิทธิลงชิงต่อในรอบ 2 กับมาครงได้ออกมาปราศรัยในวันอาทิตย์ (27) กล่าวว่า เธออาจจะไม่ลงรับสมัครชิงตำแหน่งผู้นำฝรั่งเศสในครั้งหน้าหากว่าเธอเกิดแพ้การเลือกตั้งปีนี้

ทั้งนี้ที่ผ่านมา เลอ แปน เคยลงชิงมาแล้วถึง 2 ครั้งคือในปี 2012 และในปี 2017 ที่เธอสามารถทะลุผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเผชิญหน้ากับมาครง อดีตนายธนาคารที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อน และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจฝรั่งเศสให้อดีตประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ฟรองซัวส์ โอลองด์ ซึ่งในเสียงประกาศของเลอ แปน กล่าวมีใจความว่า “จากจุดนี้ ดิฉันไม่คิดว่าจะลงรับสมัครเลือกตั้งต่อ แต่ดิฉันจะยังคงทำในสิ่งที่ได้เคยทำไว้ในหลายปีที่ผ่านมานั่นคือการปกป้องประชาชนฝรั่งเศส ดิฉันไม่ทราบว่าจะเป็นฐานะอะไรแต่เป็นในสิ่งที่ดิฉันจะเป็นจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด”

ทั้งนี้ ตัวเก็งคนที่ 3 คือ นักการเมืองปีกซ้ายฝรั่งเศส ฌอง-ลุค เมลองชอง (Jean-Luc Mélenchon) จากพรรค ลา แฟรงก์ อินซูมิส (La France Insoumise) หรือพรรค FI หรือ LFI ที่ตัวเขาเป็นผู้ก่อตั้ง เดอะการ์เดียนชี้ว่า ดูเหมือนว่าเขาทำคะแนนดีขึ้นเรื่อยๆ และมีการคาดว่าจะมีจำนวนผู้ไม่มาใช้สิทธิเลือกตั้งรอบนี้ถึง 30% และพบว่าในจำนวนของผู้ที่กล่าวว่าจะออกไปใช้สิทธิ พบว่ามี 4 ใน 10 แสดงความเห็นว่ายังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใคร เพิ่มความไม่แน่นอนมากขึ้นในการเลือกตั้งมากขึ้น

เอเอฟพีรายงานว่าในวันอาทิตย์ (27) เมลองชอง กล่าวบนเวทีหาเสียงกับผู้สนับสนุนว่า “ผมได้ยินคนที่พูดว่า “พวกนี้เหมือนกันหมด พวกเราจะไม่ออกไปโหวต” แต่คิดถึงในสิ่งที่พวกคุณกำลังที่จะทำเพื่อเห็นแก่พระเจ้า!”

สื่ออังกฤษชี้ว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งฝรั่งเศสส่วนใหญ่เชื่อในตัวมาครงในการเป็นผู้นำจากประเด็นปัญหาสงครามยูเครนที่ดูเหมือนจะช่วยเขาให้ทำคะแนนนำในผลโพลต่างๆ และทีเวทีหาเสียงต่างๆ มักจะประกาศว่า เขาต้องออกไปเพื่อจะพูดคุยกับผู้นำต่างประเทศทางโทรศัพท์หลังจากนั้น แต่ทว่าคู่แข่งจากการเมืองทั้งปีกขวาและปีกซ้ายต่างชี้ว่า มาครงหลบการดีเบตทางการเมืองในประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น