xs
xsm
sm
md
lg

“เจ้าชายวิลเลียม” ประชุมฉุกเฉินกับ จนท.ระดับสูงใกล้ชิดทันที หลังเสด็จเยือนแคริบเบียนไม่ราบรื่นจนต้องออกแถลงการณ์ “อนาคตจะอยู่ร่วมราชวงศ์อังกฤษต่อ ประชาชนชาวแคริบเบียนต้องตัดสินใจเอง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - มีรายงานล่าสุดออกมาว่า เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ทรงจัดประชุมหารือฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงอังกฤษที่ใกล้ชิดทันทีหลังจากการเสด็จเยือน 3 ประเทศอดีตดินแดนอาณานิคมอังกฤษในทะเลแคริบเบียนไม่ราบรื่น เจอประท้วงตั้งแต่เริ่มต้น จนล่าสุดต้องออกแถลงการณ์เคารพการตัดสินใจของประชาชนชาวแคริบเบียนว่าจะอยู่ร่วมกับราชวงศ์อังกฤษต่อไปอีกหรือไม่

หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) ว่า มีรายงานออกมาว่าหลังจากการเยือนอดีตดินแดนอาณานิคมอังกฤษได้แก่ เบลิซ จาเมกา และบาฮามาส กลางทะเลแคริบเบียนนาน 8 วัน ของดยุก และดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ที่เกิดปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นจากการประท้วงถึงการใช้ทาสในยุคล่าอาณานิคมอังกฤษในอดีต พบว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงประชุมฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงอังกฤษที่ใกล้ชิดทันทีหลังการเสด็จเยือนสิ้นสุดลงในวันอาทิตย์ (27)

อ้างอิงจากเดอะพีเพิลพบว่า ในช่วงต้นของการเสด็จเยือนและตามหลังการประท้วงในจาเมกา ทำให้เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ทรงตรัสแสดงความเสียพระทัยต่อความโหดร้ายของอดีตการใช้ทาสในยุคการล่าอาณานิคมจากอังกฤษต่อดินแดนแถบทะเลแคริบเบียนที่ถือเป็นสิ่งที่น่าอัปยศต่ออังกฤษ แต่เดอะพีเพิลชี้ว่า มีบางส่วนออกมาแสดงความเห็นว่าดูเหมือนเจ้าชายวิลเลียมจะทรงยังไม่ตรัสอย่างครอบคลุมและไม่ดูเหมือนเป็นการแสดงการขอโทษเท่าที่ควร

โดยระหว่างการเยือน เดอะมิเรอร์รายงานโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อังกฤษซึ่งอยู่ร่วมในการประชุมฉุกเฉินพบว่า ทั้งสองพระองค์ทรงประสบปัญหาอย่างหนักในระหว่างการเสด็จเยือนเนื่องมาจากการตีพิมพ์เสนอข่าวในทางลบที่เกิดขึ้นใน 3 ประเทศเหล่านี้ และเป็นเหตุผลที่พระองค์ทรงได้ตรัสในที่ประชุมฉุกเฉินว่า ทำให้พระองค์ต้องตัดสินพระทัยลุกขึ้นออกแถลงการณ์ชี้แจงและเผชิญหน้าต่อปัญหาเหล่านี้ที่กำลังเกิดขึ้นด้วยพระองค์เอง

ในการเสด็จกลับทั้งเจ้าชายวิลเลียม และพระชายาเจ้าหญิญแคเธอรีน เสด็จประทับเครื่องบินพระที่นั่งของกองทัพอากาศอังกฤษ RAF ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติแนสซอ (Nassau) ในบาฮามาส ที่การเสด็จเยือนสิ้นสุดลงในวันอาทิตย์ (27) กลับคืนสู่อังกฤษ

และขณะที่ทั้ง 2 พระองค์ยังคงทรงอยู่ระหว่างการเสด็จเยือนพบว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงออกแถลงการณ์ที่น่าประหลาดใจและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเดอะการ์เดียนรายงานในวันเสาร์ (26) ว่า ต่อหน้าระหว่างที่ผู้นำบาฮามาส จาเมกา และเบลิซ ปรากฏตัวร่วมอยู่ในพระราชพิธีเลี้ยงต้อนรับถูกจัดขึ้นในกรุงแนสซอ บาฮามาส เมื่อวันศุกร์ (25) พบว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงตรัสรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงระหว่าง 3 ประเทศหมู่เกาะแคริบเบียน และราชวงศ์อังกฤษ โดยพระองค์ทรงส่งสัญญาณผ่านแถลงการณ์ที่มีเนื้อความว่า “เราเคารพการตัดสินใจของพวกท่านเกี่ยวกับอนาคตของพวกท่านเอง”

ทั้งนี้ เดอะการ์เดียนชี้ว่า ดูเหมือนดยุกแห่งเคมบริดจ์จะส่งสัญญาณไปยังประเทศเหล่านี้ที่ว่า อังกฤษจะให้การสนับสนุนต่อการตัดสินใจใดๆ ของเบลิซ จาเมกา และบาฮามาส ต่อการตัดขาดจากราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งพระองค์ทรงระบุว่า “ความสัมพันธ์มีการเปลี่ยนแปลง แต่ความเป็นมิตรยังคงอยู่”

โดยในแถลงการณ์มีถ้อยความว่า “ในปีหน้า ข้าพเจ้ารู้ว่าพวกท่านเฝ้ารอการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของการเป็นเอกราช ครบรอบปีทองของพวกท่าน” และตรัสต่อว่า “และพร้อมไปกับจาเมกาเฉลิมฉลอง 60 ปีของการเป็นเอกราชในปีนี้ และเบลิซเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของการเป็นเอกราชในปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าขอกล่าวสิ่งนี้ว่า ‘เราสนับสนุนด้วยเกียรติภูมิและความนับถือต่อการตัดสินใจของพวกท่านเกี่ยวกับอนาคตของพวกท่านเอง’ ”

ดิอินดีเพนเดนท์ชี้ว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงย้ำว่าทั้งพระองค์และพระชายานั้นทรงอยู่ในฐานะ "เป็นผู้ให้การสนับสนุนประชาชน ไม่ได้เป็นผู้ที่ออกคำสั่งต่อคนเหล่านั้น" ซึ่งมีหนังสือพิมพ์หลายบับรายงานในวันจันทร์ (28) ออกมารายงานการแสดงความเห็นจากแหล่งข่าวที่ชี้ไปว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าธรรมเนียมการปฏอบัตินี้จะคงอยู่ยาวนานเท่าใดหลังจากที่ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว

โดยในรายงานดิอินดีเพนเดนท์ระบุว่า ในการประชุมฉุกเฉินร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลังจากการเสด็จเยือนแคริบเบียนสิ้นสุด เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ทรงมีแผนการถึงการเปลี่ยนแปลงคือการลดจำนวนเจ้าหน้าที่ของพระองค์ลงกึ่งหนึ่งจากจำนวนของคณะของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์พระบิดา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นหลังที่พระองค์ทรงได้รับการสถาปณาขึ้นเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ และรวมไปถึงพระประสงค์ต้องการยุติธรรมเนียมที่ยาวนานของราชวงศ์อังกฤษที่มีจุดยืน “ไม่เคยบ่น ไม่เคยอธิบาย” (never complain, never explain) ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติให้ราชวงศ์อังกฤษมีความทันสมัยในโลกยุคที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษและเหล่าสมาชิกราชวงศ์และแขกผู้มีเกียรติจะเสด็จพระราชพิธีรำลึกพระราชสวามี เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ ที่มหาวิหารเวสต์มินเตอร์ กรุงลอนดอน ในวันนี้(29)


กำลังโหลดความคิดเห็น