ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันพฤหัสบดี (24 มี.ค.) ว่ามีภัยคุกคาม "แท้จริง" ที่มอสโกจะใช้อาวุธเคมีในยูเครน พร้อมกับกล่าวหารัสเซียได้ใช้ระเบิดฟอสฟอรัสในการโจมตีโดยไม่แยกแยะต่อพลเรือนในประเทศของเขาไปแล้ว
เซเลนสกีบอกกับที่ประชุมจี 7 ในบรัสเซลส์ ผ่านวิดีโอลิงก์ว่า "ภัยคุกคามจากการใช้อาวุธเคมีเต็มรูปแบบของรัสเซีย กับดินแดนยูเครน เป็นเรื่องจริง" พร้อมระบุว่าเคียฟได้ข้อมูลมาว่าทหารของรัสเซีย ได้ใช้ระเบิดฟอสฟอรัสกับประชาชนผู้รักสันติในยูเครน
ยูเครนเคยกล่าวหารัสเซียใช้ระเบิดฟอสฟอรัสกับพลเรือน เมื่อครั้งที่ปฏิบัติการรุกรานยูเครนผ่านไปราว 2 สัปดาห์
ผู้นำยูเครนรายนี้ยังเรียกร้องให้ห้ามโดยสิ้นเชิงในการทำธุรกิจกับรัสเซีย และขัดขวางรัสเซียจากการใช้ระบบนำทางจีพีเอสในช่วงเวลาสงคราม
เซเลนสกี ระบุว่า สถาบันการเงินต่างๆ ของรัสเซียควรถูกตัดขาดจากระบบการเงินโลกโดยสิ้นเชิง และทรัพย์สินต่างๆ ของรัสเซียที่ถูกอายัด ควรใช้เป็นค่าชดเชยสำหรับฟื้นฟูยูเครน
นอกเหนือจากกล่าวกับที่ประชุมจี 7 แล้ว ในวันเดียวกัน เซเลนสกี ยังได้ร่วมประชุมซัมมิตนาโต้ ซึ่งเขากดดันให้พันธมิตรแห่งนี้ไหลบ่าส่งมอบความช่วยเหลือทางอาวุธแก่ยูเครน ในขณะที่นาโต้ขานรับด้วยการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานรัสเซีย พร้อมสัญญาจัดหาอาวุธให้เพิ่มเติม รวมถึงหารือกันถึงความเป็นไปได้ที่จะขับรัสเซียพ้นจากจี 20
หลังจาก เซเลนสกี อ้างว่ามีโอกาสอย่างแท้จริงที่ประธานาธิบดีปูติน จะเลือกหนทางแห่งสงครามอาวุธเคมี ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า "เราจะตอบโต้ ถ้าเขาใช้มัน"
ไบเดน เน้นว่าภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา สหรัฐฯ สัญญามอบอาวุธแก่ยูเครนแล้ว 2,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมแถลงพันธสัญญาใหม่ในการมอบความช่วยเหลือด้านมนุยธรรมอีกมากกว่า 1,000 ล้านดอลาร์ เช่นเดียวกับคำสัญญาอ้าแขนต้อนรับผู้ลี้ภัย 100,000 คน จากทั้งหมดเกือบ 3.7 ล้านคนที่กำลังหลบหนีออกจากประเทศแห่งนี้
หลังจากสหรัฐฯ แถลงมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ ในนั้นรวมถึงเล็งเป้าหมายเล่นงานบรรดานักการเมืองของรัสเซีย ไบเดนกล่าวว่าตะวันตกอยู่ในเส้นทางที่ยาวไกล และมีเจตนาเพิ่มความเจ็บปวดแก่มอสโก
นอกจากนี้ ไบเดน เผยว่าได้เพิ่มความพยายามโดดเดี่ยวรัสเซียของปูตินมากยิ่งขึ้น ด้วยการเรียกร้องให้ขับมอสโกออกจากกลุ่มจี 20 "นั่นคือสิ่งที่เราหยิบยกมาพูดคุยในวันนี้" เขากล่าว พร้อมระบุว่า หากกลุ่ม 20 ประเทศไม่เห็นด้วย เขาจะเปลี่ยนแผนผลักดันให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกจี 20 แทน
ในส่วนของ เซเลนสกี ได้กล่าวปราศรัยว่า รัสเซียกำลังใช้ระเบิดฟอสฟอรัส ซึ่งก่อให้เกิดแผลไหม้รุนแรง ลงมือโจมตีพลเรือนโดยไม่เลือกหน้า และอาจเลือกใช้าวุธเคมีเต็มรูปแบบ
"ยูเครนใช้ชีวิตผ่านเดือนแห่งการต้านทานอย่างกล้าหาญ เดือนแห่งความทุกข์ทรมานมืดมิด ดังนั้น เพื่อปกป้องประชาชนและเมืองต่างๆ ของเรา ยูเครนต้องการความช่วยเหลือทางทหารโดยปราศจากข้อจำกัดใดๆ" เขากล่าว
ด้านสถานการณ์ในสมรภูมิรบ ปฏิบัติการโจมตีพิสัยไกลของรัสเซีย ถล่มเมืองคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกของยูเครน คร่าชีวิตพลเรือนอย่างน้อย 6 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน จากคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่ยูเครน
เซอร์กีย์ เกย์เดย์ ผู้ว่าการแคว้นลูกานสค์ในภาคตะวันออกของยูเครน กล่าวว่า มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 2 คน จากการโจมตีของรัสเซีย พร้อมกับกล่าวหาทหารรัสเซียว่าใช้ระเบิดฟอสฟอรัสในการโจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
สถานีไอทีวีของอังกฤษเผยแพร่ภาพข่าวของอาวุธเพลิงชนิดนี้ ซึ่งก่อให้เกิดไฟไหม้รุนแรง ถูกทิ้งลงมาในม่านหมอกสีขาวเหนือเมืองเอียร์ปิลใกล้กรุงเคียฟเมื่อคืนวันพุธ
เซเลนสกีต้องการให้นาโต้สนับสนุนยูเครนด้านอาวุธเชิงรุก เช่น เครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัย ระบบป้องกันมิสไซล์ รถถัง ยานหุ้มเกราะ และมิสไซล์ต่อต้านเรือ โดยก่อนหน้าการประชุมสุดยอดนาโต้ จี 7 และสหภาพยุโรป (อียู) ที่บรัสเซลส์จะเปิดฉาก ผู้นำยูเครนชี้ว่า "การประชุมสุดยอด 3 เวทีนี้ เราจะได้เห็นว่าใครเป็นเพื่อน ใครเป็นหุ้นส่วน และใครทรยศเราเพื่อเงิน ชีวิตสามารถปกป้องได้เมื่อเป็นเอกภาพเท่านั้น"
บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ที่เพิ่งประกาศจะส่งมิสไซล์ 6,000 ลูก และความช่วยเหลือ 25 ล้านปอนด์แก่กองทัพยูเครนเพิ่มเติม กล่าวว่า "วลาดิมีร์ ปูติน ข้ามเส้นแบ่งความโหดร้ายป่าเถื่อนแล้ว และเขาควรถูกส่งตัวขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ"
กองกำลังยูเครนอ้างว่ากำลังผลักดันทหารรัสเซียล่าถอยในบางพื้นที่รอบๆ กรุงเคียฟ พร้อมอ้างว่าด้วยว่าประสบความสำเร็จในการโจมตีเรือของกองทัพเรือรัสเซียลำหนึ่ง ซึ่งใช้ลำเลียงกำลังพลขึ้นฝั่งจากทะเลดำ
(ที่มา : เอเอฟพี)