รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอพี - ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แถลงยืนยันว่า เปียงยางยิงทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 12 ในวันพฤหัสบดี (24 มี.ค.) ที่เชื่อกันว่าน่าจะเป็นขีปนาวุธพิสัยไกล ICBM ระดับเพดานบินสูงมากกว่า 6,000 กิโลเมตร มุ่งหน้าออกจากชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือตกลงสู่เขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลของญี่ปุ่น ห่างจากฝั่งจังหวัดอาโอโมริทางทิศตะวันตกไปราว 170 กิโลเมตร
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (24 มี.ค.) ว่า หน่วยงานยามฝั่งญี่ปุ่นแถลงว่า ขีปนาวุธที่ถูกยิงออกมาจากเกาหลีเหนือในวันพฤหัสบดี (24) นั้นคาดว่าตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะในทะเลทางตะวันออกของญี่ปุ่น เมื่อเวลา 15.44 น. ตามเวลาญี่ปุ่น
โดยหน่วยงานยามฝั่งญี่ปุ่นรายงานออกมาในขณะที่ตกว่า ได้มีการออกคำเตือนแจ้งไปยังเรือประมงที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงให้ออกห่างจากพื้นที่ และชี้ต่อว่ามิสไซล์เกาหลีเหนือที่ถูกยิงออกมาเป็นแบบทิ้งตัวซึ่งคาดว่าจะตกลงไปในเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเล หลังมีรายงานการยิงเมื่อ 50 นาทีก่อนหน้า
ด้านคณะเสนาธิการร่วมกองทัพเกาหลีใต้ JCS แถลงยืนยันว่า สามารถตรวจพบการยิงแบบวิถีโค้งของเกาหลีเหนือในวันพฤหัสบดี (24) โดยในแถลงการณ์ยังชี้ต่อว่า เชื่อว่าน่าจะเป็นมิสไซล์แบบพิสัยไกล ซึ่งมีความน่าจะเป็นว่าอาจจะเป็นมิสไซล์พิสัยข้ามทวีป ICBM ซึ่งทางเปียงยางได้หยุดการทดสอบ ICBM มาตั้งแต่ปี 2017
รอยเตอร์รายงานว่า อ้างอิงจากสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ JCS เชื่อว่าเป็นการยิงออกมาแบบวิถีมุมสูง
ล่าสุด มาโกโตะ โอนิกิ (Makoto Oniki) ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นออกมาแสดงความเห็นว่า มิสไซล์ที่เพิ่งถูกยิงทดสอบล่าสุดของเกาหลีเหนืออาจจะเป็น ***มิสไซล์ ICBM ประเภทใหม่ของเกาหลีเหนือ**** โดยชี้ไปที่ระดับเพดานการบินอัลติจูดที่มากกว่า 6,000 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกล่าวว่า มิสไซล์ ICBM เดินทางเป็นระยะเวลา 71 นาทีโดยประมาณในระยะทาง 1,100 กิโลเมตรจากจุดที่ถูกปล่อยออกมา โดยตกลงไป 170 กิโลเมตรทางทิศตะวันตกของจังหวัดอาโอโมริ (Aomori) ที่อยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น
เอพีรายงานว่า ซึ่งการยิงทดสอบที่เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี (24) ถือเป็นการยิงทดสอบครั้งที่ 12 ของเกาหลีเหนือนับตั้งแต่ต้นปีนี้ หลังก่อนหน้าวันอาทิตย์ (20) เปียงยางยิงทดสอบเครื่องยิงจรวดพิสัยใกล้แบบหลายลำกล้อง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญออกมาแสดงความวิตกถึงความพยายามที่รุดหน้าของเกาหลีเหนือในการทดสอบอาวุธแบบก้าวกระโดดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเพื่อต้องการบรรลุเป้าหมาย 2 ประการไปพร้อมกัน ได้แก่ การพัฒนาความก้าวหน้าทางยุทโธปกรณ์ทางการทหาร และการกดดันวอชิงตัน
ซึ่งหลังการยิงทดสอบออกมาแล้ว รอยเตอร์กล่าวว่า สำนักงานทำเนียบสีฟ้าของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่กำลังจะลงจากตำแหน่ง มุน แจ-อิน ออกมาประณาม โดยชี้เป็นการฉีกสัญญาข้อตกลงหยุดพักการทดสอบ ICBM ชั่วคราวของฝ่ายเหนืออย่างชัดเจน
ขณะที่ โก มยยอง-ฮุน (Go Myong-hyun) นักวิจัยอาวุโสประจำสถาบันอาซานด้านการศึกษานโยบาย (Asan Institute for Policy Studies) กล่าวแสดงความเห็นแก่เอเอฟพีในเรื่องการยิงทดสอบว่า “เปียงยางพยายามที่จะยิงทดสอบขีปนาวุธ ICBM จากสนามบินซูนัน (Sunan airport) แต่ล้มเหลว” และเสริมต่อว่า “ดังนั้นจึงทำการทดสอบใหม่อีกครั้งวันนี้เพื่อแก้ตัวเพราะต้องทำให้เทคโนโลยี ICBM เสร็จสิ้นทันที”
เขากล่าวอีกว่า “หากว่าการยิงทดสอบในวันนี้เป็นขีปนาวุธ ICBM จริง มันจะเท่ากับว่าเป็นการส่งสัญญาณสิ้นสุดของการหยุดพักชั่วคราวอย่างแน่นอน” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า อย่างไรก็ตาม การหยุดพักชั่วคราวนั้นดูเหมือนถูกฉีกลงอย่างเสมือนจริงเมื่อครั้งเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบเกี่ยวกับอวกาศ และเป็นอีกครั้งในการทดสอบการยิงวันนี้ที่เปียงยางทำการยิงทดสอบอย่างเป็นทางการ
การท้าทายครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่สหรัฐฯ ได้สูญเสียหนึ่งในหญิงเหล็ก อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แมเดอลีน ออลไบรท์ (Madeleine Albright) เสียชีวิตในขณะที่มีอายุ 84 ปี ถือเป็นผู้หญิงคนแรกที่เข้ารับตำแหน่งนี้ระหว่างวันที่ 23 ม.ค.ปี 1997 ถึึงวันที่ 20 ม.ค.ปี 2001 ในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน โดยเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเธอเป็นตัวแทนระดับสูงของสหรัฐฯ มาเยือนเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการครั้งประวัติศาสตร์และได้หารือและรับประทานอาหารค่ำร่วมกับอดีตประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จ็อง-อิล ซึ่งเป็นบิดาของผู้นำเปียงยางคนปัจจุบันในวันที่ 23 ต.ค.2000 โดยมีภาพถ่ายเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏยืนยัน
นอกเหนือจากการเยือนเกาหลีเหนือแล้ว อ้างอิงจาก CNN พบว่า ออลไบรท์มีผลงานช่วยการขยายของนาโต้ ผลักดันให้พันธมิตรเข้าแทรกแซงบอลข่าน (Balkan) เพื่อหยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การลดการแพร่กระจายของอาวุธนิวเคลียร์ และยังมีบทบาทส่งเสริมด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยทั่วโลกอีกด้วย