เอเจนซีส์ - วานนี้ (22 มี.ค.) เจ้าหน้าที่เพนตากอนเปิดเผยว่า กองกำลังรัสเซียลดต่ำกว่า 90% นับตั้งแต่เกิดสงคราม ภาพถ่ายดาวเทียมมาซาร์ล่าสุด ชี้รัสเซียโจมตีมาริอูโปลด้วยมิสไซล์ร่อนจากเรือรบในทะเลอาโซฟเป็นครั้งแรก ท่ามกลางกองกำลังยังคงประสบปัญหาการขาดอาหาร เชื้อเพลิง และอาวุธ และมีทหารบางส่วนป่วยจากปัญหาหิมะกัดเพราะไม่มีอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม
ยูเอสเอทูเดย์ สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (23 มี.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่เพนตากอนเปิดเผยในวันอังคาร (22) ยืนยันว่ากองทัพรัสเซียสูญเสียกองกำลังสู้รบไปไม่ต่ำกว่า 10% นับตั้งแต่เข้าสู่สงครามบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เพนตากอนเปิดเผยในการประเมินทางข่าวกรองของสหรัฐฯ ว่า เป็นที่น่าตกใจที่เป็นครั้งแรกที่เห็นรัสเซียมีกำลังพลต่ำกว่า 90% นับตั้งแต่เกิดสงคราม และไม่ใช่ทั้งหมดของกำลังพลเกินกว่า 150,000 คนที่อยู่ในยูเครนและโดยรอบนั้นเป็น "กองกำลังสู้" เพราะพบว่ามีจำนวนมากเป็นฝ่ายสนับสนุน
กองกำลังพื้นราบรัสเซียยังคงชะงักงันอยู่ส่วนใหญ่ทั่วยูเครนโดยเฉพาะกรุงเคียฟ ซึ่งแนวหน้ารัสเซียยังคงอยู่ห่างจากกรุงเคียฟไปเพียงแค่ 10 ไมล์จากใจกลางเมืองเท่านั้น
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยชื่อได้กล่าวถึงการต้านทานจากเคียฟว่า รวดเร็วและยืดหยุ่นและยังเป็นครั้งแรกที่กองกำลังยูเครนยังสามารถพยายามที่จะยึดพื้นที่กลับคืนมาได้จากพวกรัสเซีย
เจ้าหน้าที่เพนตากอนเปิดเผยว่า ในสงครามยังเป็นครั้งแรกที่กองเรือรบรัสเซียยิงมิสไซล์เข้าโจมตีเมืองท่ามาริอูโปล (Mariupol) ซึ่งการเปิดฉากใช้กำลังทางทะเลอาโซฟ (Azov Sea) นี้แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายรัสเซียกำลังอยู่ในสถานะลำบากในการสู้รบทางพื้นราบกับฝ่ายยูเครน
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ภาพถ่ายดาวเทียมของมาซาร์ (Maxar) ในเช้าวันอังคาร (22) แสดงให้เห็นว่าเมืองมาริอูโปลเกิดไฟไหม้และถูกทำลายไปทั่วทั้งเมือง
ซึ่งถึงแม้ว่ากองกำลังฝ่ายสนับสนุนของรัสเซียจากเขตลูฮานสค์ (Luhansk) ของยูเครนจะสามารถเข้าควบคุมฝั่งซ้ายของมาริอูโปลได้แล้ว แต่พบว่าพื้นที่ของเมืองที่มีที่ตั้งสำนักงานรัฐบาลตั้งอยู่ยังคงมีภาพควันไฟพวยพุ่งอยู่ในภาพถ่ายดาวเทียม
และทางใต้ของกลุ่มควันไฟซึ่งในอดีตเคยเป็นตึกอพาร์ตเมนต์ขนาดใหญ่สีขาวในอดีต แต่กลับกลายสภาพเป็นถูกฉาบไปด้วยเขม่าควันดำ และในพื้นที่ชุมชนทางตะวันออกไกลออกไปพบว่าครึ่งหนึ่งของอาคารอพาร์ตเมนต์ถูกทำลายเกือบทั้งหมด
CNN ชี้ว่า ยังปรากฏภาพวิดีโอคลิปที่ถ่ายไว้ได้แสดงให้เห็นการยิงโจมตีด้วยมิสไซล์ร่อนออกมาจากเรือรบลำหนึ่งของรัสเซียนอกชายฝั่งแหลมไครเมีย จากทางตะวันตกของเมือง เซวาสเตโปล (Sevastopol) เข้าไปในยูเครน
โดยในเสียงพูดในคลิปเป็นชายพูดในภาษารัสเซียกล่าวว่า “มันเห็นได้ชัดว่าเรือนั้นตั้งอยู่ห่างออกไปในระยะไกล” และเสริมต่อว่า “มันดูเหมือนว่ายิงบางอย่างออกมาแต่เป็นที่ไหนคุณไม่สามารถเห็นได้”
โดยในวันจันทร์ (21) โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี ยืนยันว่า สหรัฐฯ เห็นความเคลื่อนไหวทางทะเลเพิ่มมากขึ้นในตอนเหนือของทะเลดำ
“เราคาดการณ์ว่ามีการโจมตีเกิดขึ้นทั่วทั้งโอเดซา (Odesa) ออกมาในทางทะเลจากการโจมตีโดยกองกำลังเหนือพื้นผิวน้ำ แต่ผมไม่สามารถบอกคุณได้ว่ามีการใช้กระสุนไปมากเท่าใดและจำนวนมากเท่าใดที่พวกเขาโจมตี” อ้างอิงจาก CNN
นอกจากนี้พบว่า รัสเซียมีเรือทั้งหมดอยู่ในทะเลดำราว 21 ลำ และจากจำนวนทั้งหมดมี 12 ลำเป็นเรือต่อสู้เหนือพื้นผิวน้ำ
ยูเอสเอทูเดย์รายงานว่า ฝ่ายผู้บัญชาการรบรัสเซียยังคงพึ่งพาต่อการโจมตีจากระยะไกลเพื่อที่จะยึดเมืองต่างๆ ในยูเครน แต่เป็นยุทธวิธีที่ทำให้มีการสูญเสียจากฝ่ายพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งในเวลานี้เครมลินยังมีปัญหาการส่งความช่วยเหลือและยุทธปัจจัยเข้าไป ส่งผลทำให้กองกำลังรัสเซียในยูเครนยังคงประสบปัญหาการขาดอาหาร เชื้อเพลิง และอาวุธ โดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ชี้ว่า มีทหารรัสเซียบางส่วนป่วยจากปัญหาหิมะกัดเพราะไม่มีอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม รวมไปถึงสัญญาณที่ออกมาชี้ว่าฝ่ายรัสเซียประสบปัญหาการยังทำให้เรือรบคงทำงานอยู่ในทะเล