เอเจนซีส์ - เกิดการปล้นครั้งอุกอาจเมื่อเช้าวันศุกร์ (18 มี.ค.) เมื่อโจรพร้อมอาวุธใช้ปืนยิงหลายครั้งไปที่นักท่องเที่ยวฝรั่งเศส Pierrick Jamaux วัย 33 ปี โดนเข้าที่ขาทั้งสองข้างและบริเวณขาหนีบหลายนัดระหว่างที่เขาพร้อมกับคนอื่นกำลังออกมาจากรถอูเบอร์เพื่อเข้าสู่ตัวโรงแรมในเมืองนิวยอร์ก ซิตี เพื่อต้องการปล้นนาฬิการิชาร์ด มิลล์ ราคาร่วม 200,000 ดอลลาร์โดยเฉลี่ย
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานวันเสาร์ (19 มี.ค.) ว่า เหยื่อนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสกุลเงินดิจิทัลคริปโตฯ วัย 33 ปี ที่เคยโพสต์อวดนาฬิกาสุดหรูราคาแพงริชาร์ด มิลล์ราคาร่วม 200,000 ดอลลาร์โดยเฉลี่ย และมีบางรุ่นราคาเหยียบ 1.3 ล้านดอลลาร์ ถึงกับน้ำตาซึมเมื่อเจอโจรนิวยอร์กเข้าให้
เขาให้การกับตำรวจว่า เหตุเกิดขึ้นในเช้าวันศุกร์ (18) ระหว่างที่เขาพร้อมกับภรรยานางแบบสาว ซาราห์ วัตต์ส (Sarah Watts) วัย 26 ปี และเพื่อนหญิงอีกคนกำลังที่จะออกมาจากรถแท็กซี่อูเบอร์เพื่อเข้าสู่โรงแรมที่ย่านมิดทาวน์ แมนแฮตตัน ถูกคนร้ายข่มขู่เรียกร้องให้ส่งนาฬิกาสุดหรูมาให้โดยดี และก่อนที่เขาจะทันตั้งตัวพบว่าโจรนิวยอร์กได้ยิงเขาในทันที โดยเป็นการยิงไปโดนขาทั้งสองข้างและที่ขาหนีบ อ้างอิงจากสื่อคอมเพล็กซ์
ทั้งนี้ พบว่านักท่องเที่ยวฝรั่งเศสและคนทั้งหมดเพิ่งกลับออกมาจากคลับเต้นระบำเปลื้องผ้าชื่อดัง แซฟไฟร์ 39 (Sapphire 39) และเข้ามาที่โรงแรมฟิฟตี โฮเต็ล และสวีตส์ (Fifty Hotel and Suites) ที่คนทั้งหมดพักอยู่
นิวยอร์กโพสต์ชี้ว่า คนทั้งหมดรอดมาได้อย่างหวุดหวิดเมื่อเพื่อนหญิงวัย 25 ปี ที่มาด้วยใจเด็ดได้กระโดดเข้าทำร้ายโจรจากทางด้านหลังก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็วหลังจากนั้น ทั้งนี้ พบว่าคนร้ายไม่สามารถเอาอะไรไปได้แม้แต่ชิ้นเดียว ส่วนตำรวจพบปลอกกระสุนทั้งหมด 5 ปลอกตกอยู่ในที่เกิดเหตุไว้เป็นของต่างหน้าแทน
นักท่องเที่ยวฝรั่งเศสวัย 33 ปี ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเบลวิว (Bellevue Hospital) ที่มีร่องรอยรูกระสุนเข้าและออกเต็มไปทั่วขาทั้งสองข้างก่อนได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวออกมาในสภาพอาการคงที่
ทั้งนี้ พบว่า Jamaux นั้นอาศัยอยู่ในฮ่องกงและเป็นผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม Hi ซึ่งเป็นธนาคารออนไลน์สำหรับเงินคริปโตฯ เขาขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชอบแสดงตัวถึงการใช้ชีวิตอย่างหรูหราและมักโอ้อวดนาฬิกาเรือนหรูของตัวเองบนอินสตาแกรมอยู่บ่อยครั้ง
ตำรวจนิวยอร์กยืนยันว่า สำหรับโจรที่ทำร้ายนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสรายนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถใช้ภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดตามจับคนร้ายได้ แต่ทว่าถึงเวลานี้คนร้ายยังคงล่องหนอยู่ก็ตาม