เอเจนซีส์ - บอริส โรมันเชนโก (Boris Romanchenko) วัย 96 ปี เหยื่อรอดชีวิตจากเหตุสังหารหมู่ชาวยิวในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จบชีวิตในอพาร์ตเมนต์ของตัวเองในวันศุกร์ (18 มี.ค.) ที่เมืองคาร์คิฟ ระหว่างที่เมืองกำลังถูกโจมตีอย่างหนัก ขณะที่กลายเป็นที่เปิดเผยไปทั่วเมื่อภาพวิดีโอคลิปปรากฏที่กองทัพยูเครนชี้ว่า วานนี้ (21 มี.ค.) รัสเซียใช้ระเบิดแสงและยิงกระสุนจริงรัวยิงขึ้นฟ้าดังเป็นชุดขับไล่การประท้วงอย่างสันติในเคอร์ซอน
NBC NEWS สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (22 มี.ค.) ว่า บอริส โรมันเชนโก (Boris Romanchenko) อดีตเหยื่อสังหารหมู่ชาวยิววัย 96 ปี เคยผ่านค่ายกักกันนรกพวกนาซีมาแล้วจำนวนหนึ่งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่สามารถรอดชีวิตมาได้ แต่เขาต้องเสียชีวิตในอพาร์ตเมนต์ของตัวเองในวันศุกร์ (18) หลังการโจมตีจากกองกำลังรัสเซียที่เมืองคาร์คิฟ (Kharkiv) มูลนิธิบูเคนวัลด์และมิตเตลบาว-ดอรา เมโมเรียลส์ ฟาวเดชัน (Buchenwald and Mittelbau-Dora Memorials Foundation) กล่าวผ่านแถลงการณ์
ทางกลุ่มเปิดเผยว่า โรมันเชนโกทำหน้าที่เป็นกรรมการสำหรับเหยื่อชาวยิวผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวของนาซี
โรมันเชนโก เกิดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ถูกกวาดต้อนไปเมืองดอร์ตมุนด์ (Dortmund) เยอรมัน ในปี 1942 และหลังจากที่พยายามหลบหนีไม่สำเร็จพบว่าเขาถูกส่งเข้าไปยังค่ายกักกัน 4 แห่งด้วยกันได้แก่ ค่ายกักกันบูเคนวัลด์ (Buchenwald) ค่ายกักกันเพเนอมุนเดอนเดอ (Peenemünde) ค่ายกักกันมิตเตลบาว (Mittelbau) และค่ายกักกันเบอร์เกน-เบลเซน ( Bergen-Belsen)
ซึ่งมีคนไม่ต่ำกว่า 100,000 คนรวมกันถูกสังหารในค่ายกักกันมิตเตลบาว และค่ายกักกันเบอร์เกน-เบลเซน
มูลนิธิกล่าวแสดงความไว้อาลัยการจากไปของโรมันเชนโก ว่า “พวกเราอาลัยต่อการสูญเสียของเพื่อนผู้ใกล้ชิด” และเสริมว่า “พวกเราหวังว่า “บุตรชายและหลานสาวของเขาที่ได้แจ้งข่าวน่าเศร้านี้จะมีความเข้มแข็งในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้”
ทางกลุ่มกล่าวต่อว่า การเสียชีวิตของโรมันเชนโกนี้ได้แสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามต่อเหยื่อชาวยิวที่รอดชีวิตการสังหารหมู่คนอื่นๆ ที่ยังคงมีชีวิตและอาศัยอยู่ในยูเครน
ซึ่งอ้างอิงจากกลุ่มไม่แสดงหาผลกำไร Jewish United Fund หรือ JUF เชื่อว่ามีเหยื่อชาวยิวที่รอดจากการสังหารหมู่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อาศัยในยูเครนราว 10,000 คน ทางกลุ่มชี้ต่อว่ามีชาวยิว 200,000 คนในชุมชนชาวยิวยูเครนถือเป็นกลุ่มเปราะบาง และมีหลายหมื่นคนต้องซ่อนตัวจากระเบิดที่บังเกอร์หลบภัย หรือไม่ก็ในโบสถ์ยิว
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงาน กลุ่มบรรเทาทุกข์เมอร์ซี คอร์ปส์ (Mercy Corps) ออกแถลงการณ์ในวันอังคาร (22) เตือนว่า มีหลายเมืองในยูเครนกำลังจะไม่มีอาหารไม่เกินอีก 3-4 วันข้างหน้า พร้อมกับชี้ว่า 70% ของประชาชนในคาร์คิฟและซูมี (Sumy) ต้องพึ่งพาอาหารจากกลุ่มบรรเทาทุกข์เท่านั้น โดยยกตัวอย่างว่า ประชากรร่วม 800,000 คนในเมืองซูมี ต้องพึ่งอาหารจากกลุ่มบรรเทาทุกข์ในแต่ละวัน
ขณะเดียวกัน ที่เมืองเคอร์ซอน (Kherson) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียในเวลานี้มีวิดีโอคลิปเผยแพร่ไปทั่วโลกโซเชียล อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานว่า เป็นภาพกลุ่มผู้ประท้วงชาวยูเครนหลายร้อยคนที่กำลังรวมตัวอย่างสันติกลางจัตุรัสเสรีภาพ (Freedom Square) ของเมืองเมื่อวานนี้ (21) ต้องแตกกระจายหนีเอาตัวรอด โดยกองกำลังทหารยูเครนชี้ว่า ทหารรัสเซียใช้ระเบิดแสงและยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่เพื่อเข้าสลายผู้ประท้วงที่รวมตัวอย่างสันติ
โดยในคลิปแสดงให้เห็นผู้ประท้วงพยายามวิ่งหลบลูกกระสุนที่อาจหล่นตกลงมาใส่พวกเขาหรือเธอได้ท่ามกลางหมอกควันขาวคละคลุ้งขณะที่เสียงปืนดังรัวยังคงได้ยินอย่างชัดเจน
กองกำลังทหารยูเครนกล่าวผ่านแถลงการณ์มีใจความว่า “กองกำลังความมั่นคงรัสเซียวิ่งเข้ามา และเริ่มต้นโยนระเบิดแสงใส่ฝูงชนและยิงข่มขู่” และในแถลงการณ์ยังกล่าวว่า มีอย่างน้อย 1 คนได้รับบาดเจ็บแต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าผู้บาดเจ็บนั้นได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร
รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ดมีโตร คูเลบา (Dmytro Kuleba) โพสต์วิดีโอคลิปบนทวิตเตอร์ที่แสดงให้เห็นว่า ชายคนหนึ่งซึ่งสวมปลอกแขนธงชาติยูเครนได้รับบาดเจ็บจากลูกกระสุนปืน
การยิงยังคงดำเนินต่อไปและสามารถได้ยินในวิดีโอคลิปพร้อมกับคราบเลือดปรากฏอยู่บนพื้น ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงที่กำลังถือธงวิ่งเข้าไปช่วยเหลือชายคนดังกล่าว ซึ่งผู้บันทึกคลิปดังกล่าวระบุว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนชราวัยเกษียณ
นอกจากนี้ ในคลิปยังแสดงให้เห็นว่ามีผู้ประท้วงบางส่วนกลับไปยังจตุรัสเสรีภาพอีกครั้ง มีชายคนหนึ่งสวมหมวกสีดำเดินตามมาข้ามถนนจากฝั่งกองกำลังรัสเซียและหยุดอยู่ตรงนั้นระหว่างที่มือของเขากำลังชูธงชาติยูเครนสีเหลืองฟ้าขนาดเล็กไว้เหนือศีรษะ