คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ยืนยันพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีวันนี้ (19 มี.ค.) โดยเป็นผู้ป่วย 2 รายที่เสียชีวิตลงในมณฑลจี๋หลิน (Jilin) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตัวเลขนี้ถือเป็นสัญญาณที่น่ากังวลสำหรับจีน ซึ่งยังคงยึดนโยบาย “คุมโควิดเป็นศูนย์” และกำจัดการติดเชื้อให้หมดไปโดยเร็วที่สุดด้วยการชัตดาวน์พื้นที่เสี่ยง และตรวจเชื้อให้แก่ประชาชนจำนวนมาก
จีนมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ตลอดปี 2021 เพียงแค่ 2 ราย รายล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ปีที่แล้ว
สำหรับมณฑลจี๋หลินนั้นมีพรมแดนติดทั้งรัสเซียและเกาหลีเหนือ และถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุดในจีน โดยพบผู้ติดเชื้อเกินกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งประเทศ
เหยื่อโควิด 2 รายล่าสุดทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมของจีนเพิ่มไปอยู่ที่ 4,638 คน ขณะที่ NHC รายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศ 2,228 คนในวันที่ 18 มี.ค. ลดลงเล็กน้อยจากสถิติ 2,416 คนเมื่อ 1 วันก่อนหน้า โดยเป็นผู้ติดเชื้อในชุมชน 2,157 คน และ 78% เป็นผู้ติดเชื้อในมณฑลจี๋หลิน
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ เริ่มมีเจ้าหน้าที่บางคนที่เสนอว่าจีนอาจจะต้องหาวิธี “อยู่ร่วมกับโควิด” อย่างที่ประเทศอื่นๆ ทำ พร้อมเตือนถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจหากต้องมีการล็อกดาวน์ปิดเมืองไปเรื่อยๆ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดี (17) ว่า จีนจะยังคงยึดนโยบาย “คุมโควิดเป็นศูนย์” ต่อไป แต่อาจจะมีการปรับแผนควบคุมโรคให้มีลักษณะที่ “เฉพาะเจาะจง” มากขึ้น
ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี