xs
xsm
sm
md
lg

สื่อจีนประณามสหรัฐฯว่า‘ยโสโอหัง’ หลังจนท.ระดับสูงของ 2 ปท.เจรจากันที่กรุงโรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: เจฟฟ์ เปา


หยาง เจียฉือ เจ้าหน้าที่ทางการทูตระดับสูงของจีน (ซ้าย) นำคณะผู้แทนฝ่ายจีน เจรจากับคณะผู้แทนฝ่ายสหรัฐฯ นำโดย เจค ซุลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (ขวา) ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันจันทร์ (14 มี.ค.)
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

China media slam ‘arrogant’ US after Rome meeting
By JEFF PAO
16/03/2022

สื่อภาครัฐของจีนบอกว่า ปักกิ่งจะเพิกเฉยไม่แยแสข้อเรียกร้องของฝ่ายตะวันตกที่จะให้อายัดทุนสำรองเงินตราสกุลเงินหยวนของรัสเซีย

สื่อมวลชนภาครัฐของจีนพากันวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯว่า “ยโสโอหัง” หลังจากวอชิงตันเรียกร้องปักกิ่งให้ช่วยเหลือในเรื่องยูเครน ระหว่างการพบปะเจรจากันของนักการทูตระดับสูงของประเทศทั้งสองในกรุงโรม, อิตาลี เมื่อวันจันทร์ (14 มี.ค.) ที่ผ่านมา

รายงานข่าวระบุว่า ระหว่างการเจรจาหารือที่โรม เจค ซุลลิแวน (Jake Sullivan) ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้หยิบยกข้อวิตกกังวลต่างๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จีนจะเคลื่อนไหวไปในทางสนับสนุนรัสเซียซึ่งถูกสหรัฐฯและฝ่ายตะวันตกแซงก์ชั่นคว่ำบาตรอยู่ หลังจากนั้นในวันอังคาร (15 มี.ค.) เจ้า ลี่เจียน (Zhao Lijian) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนก็ออกมาแถลงว่า จีนกับรัสเซียจะยังคงดำเนินความร่วมมือในทางเศรษฐกิจและการค้าตามปกติกันต่อไป ด้วยจิตวิญญาณของความเคารพซึ่งกันและกัน, ความเท่าเทียม, และการมีผลประโยชน์ร่วมกัน

เจ้ากล่าวว่า จีนเรียกร้องสหรัฐฯอย่างแข็งขันว่า อย่าได้บ่อนทำลายสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของจีน เมื่อจัดการกับความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับรัสเซีย

เวลาเดียวกันนั้น มีข้อเขียนชิ้นหนึ่งซึ่งเผยแพร่โดยบัญชีสื่อสังคมของ “ดีเฟนซ์ไทมส์” (Defense Times) หนังสือพิมพ์ของรัฐจีนฉบับหนึ่ง ระบุเอาไว้ในวันอังคาร (15 มี.ค.) ว่า สหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (Eurasian Economic Union หรือ EEU) กับจีน จะร่วมกันเปิดตัวร่างแรกของระบบการเงินและการเงินตราระหว่างประเทศที่เป็นอิสระ (independent international monetary and financial system) ภายในสิ้นเดือนนี้
(สหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย ซึ่งตัวย่อชื่อองค์การอย่างเป็นทางการคือ EAEU แต่สื่อจำนวนมากนิยมเรียกว่า EEU เป็นสหภาพทางเศรษฐกิจของหลายประเทศที่เคยอยู่ในสหภาพโซเวียต สนธิสัญญาก่อตั้ง EEU ลงนามกันเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2014 ปัจจุบันมีรัฐสมาชิก 5 ราย ได้แก่ รัสเซีย, คาซัคสถาน, คีร์กิซสถาน, เบลารุส, อาร์เมเนีย ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Eurasian_Economic_Union -ผู้แปล)

ข้อเขียนนี้ระบุว่า พัฒนาการในเรื่องนี้มีการรายงานข่าวกันหนแรกโดยสื่อมวลชนรัสเซีย ซึ่งอ้างอิงประกาศฉบับหนึ่งของ คณะกรรมการเศรษฐกิจยูเรเชีย (Eurasian Economic Commission)
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://24.kg/english/227491_EAEU_and_China_to_draft_independent_monetary_and_financial_system/)

ตั้งแต่ที่กองทหารรัสเซียบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สหรัฐฯได้สอบถามปักกิ่งเรื่อยมาเกี่ยวกับจุดยืนของจีนต่อสงครามคราวนี้ และพวกเจ้าหน้าที่ของปักกิ่งก็ย้ำยืนยันว่า จีนคาดหวังให้ทุกๆ ฝ่ายแก้ไขความขัดแย้งกันด้วยวิธีการสันติโดยผ่านการเจรจา แต่พร้อมกันนั้นจีนก็คัดค้านการที่ฝ่ายตะวันตกประกาศมาตรการแซงก์ชั่นตามอำเภอใจฝ่ายเดียวมาเล่นงานประเทศอื่นๆ

เวลาเดียวกัน สื่อภาครัฐของจีนได้เสนอแนะรัสเซียให้ใช้ ระบบชำระหนี้ระหว่างธนาคารของจีน (China’s Interbank Payment System หรือ CIPS) เพื่อชำระหนี้เคลียร์บัญชีการค้าภายนอกประเทศของตน หลังจากที่ธนาคารของรัสเซีย 7 แห่ง ถูกฝ่ายตะวันตกตัดออกจากระบบ SWIFT สื่อเหล่านี้ยังพูดส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้สกุลเงินเหรินหมินปี้ (เงินหยวน) ในการค้าทวิภาคีจีน-รัสเซียอีกด้วย

การเจรจาอย่างเคร่งเครียด 7 ชั่วโมงที่กรุงโรม

เมื่อวันจันทร์ (14 มี.ค.) ซุลลิแวนเจรจาเป็นเวลา 7 ชั่วโมงที่โรม กับ หยาง เจียฉือ ผู้อำนวยการของสำนักงานคณะกรรมการกิจการต่างประเทศ รวมทั้งเป็นสมาชิกกรมการเมืองคนหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน โดยสาระสำคัญของการพูดจากันเป็นเรื่องสงครามรัสเซียบุกยูเครน

นอกจากนั้นนักการทูตทั้งสองยังเจรจากันในประเด็นปัญหาฮ่องกงและประเด็นปัญหาไต้หวัน การพบปะของพวกเขาครั้งนี้มีขึ้นภายหลังการหารือกันแบบเสมือนจริงระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2021

หลังจากการเจรจาที่เมืองหลวงอิตาลี เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาว เจน ซากี (Jen Psaki) แถลงว่า ซุลลิแวนกล่าวระหว่างการเจรจาคราวนี้ว่า จีนจะต้องเผชิญกับ “ผลต่อเนื่องอย่างสำคัญ” ถ้าหากให้ความสนับสนุนทางทหารหรือทางอื่นๆ แก่รัสเซีย ที่ “ละเมิดมาตรการแซงก์ชั่น หรือเป็นการสนับสนุนความพยายามในการทำสงคราม”

การเจรจาครั้งนี้ พวกเจ้าหน้าที่คณะบริหารไบเดนบรรยายว่า เป็นการพูดจากันอย่างเข้มข้นจริงจังและตรงไปตรงมา โดยที่มีรายงานว่าการหารือได้มีการวางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่รัสเซียจะรุกรานยูเครนเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน

เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งในคณะบริหารไบเดนบอกว่า ซุลลิแวนแสดงความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรม “ยั่วยุ” ต่างๆ ของปักกิ่งในช่องแคบไต้หวัน ระหว่างการพบปะกับ หยาง

ก่อนหน้าการหารือไม่กี่วัน สื่อมวลชนในสหรัฐฯและยุโรปหลายรายเสนอข่าวโดยอ้างพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่ไม่มีการระบุชื่อ เปิดเผยว่ารัสเซียได้ขอความช่วยเหลือทางการทหารจากจีนสำหรับการทำสงครามในยูเครน เมื่อวันจันทร์ (14 มี.ค.) เจ้า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวตามปกติของกระทรวงว่า สหรัฐฯกำลังแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จที่พุ่งเป้าเล่นงานจีนด้วยความประสงค์ร้าย

โฆษกผู้นี้ยืนยันว่า จีนกำลังแสดงบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในการส่งเสริมการหารือเพื่อสันติภาพ และหวังว่าทุกๆ ฝ่ายจะแสดงความอดทนอดกลั้น และทำให้สถานการณ์เย็นลงมา แทนที่จะเติมเชื้อใส่กองเพลิง รวมทั้งทำงานเพื่อให้มีการตกลงกันในทางการทูต แทนที่จะทำให้สถานการณ์ยิ่งบานปลายขยายตัวออกไปอีก

ในวันอังคาร (15 มี.ค.) เจ้าถูกพวกผู้สื่อข่าวสอบถามความเห็นอีกครั้งหนึ่งด้วยคำถามเดิม เจ้าตอบว่า ดมิตริ เซียร์เกเยวิช เปสคอฟ (Dmitry Sergeyevich Peskov) เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ปฏิเสธแล้วเรื่องที่ว่ารัสเซียร้องขอพวกยุทโธปกรณ์จากจีน
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.fmprc.gov.cn/eng/xwfw_665399/s2510_665401/2511_665403/202203/t20220315_10651967.html)

เขาระบุว่าสหรัฐฯกำลังประพฤติตนแบบ “ไม่เป็นมืออาชีพ, ไร้ศีลธรรม, และไร้ความรับชอบ” จากการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จเช่นนี้ เขาบอกด้วยว่าจีนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขประเด็นปัญหาต่างๆ โดยใช้มาตรการแซงก์ชั่นตามอำเภอใจฝ่ายเดียวซึ่งไม่ได้อิงอยู่กับกฎหมายระหว่างประเทศใดๆ

สร้างความตื่นตกใจให้แก่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

“เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในสภาพต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักอยู่แล้ว สืบเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 มาตรการแซงก์ชั่นมีแต่เป็นการสร้างความตื่นตกใจให้แก่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และไม่ได้ทำอะไรที่ดีให้แก่ฝ่ายใดเลย” เจ้า บอก

“เราเรียกร้องสหรัฐฯอย่างแข็งขันว่า อย่าได้บ่อนทำลายสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของจีน เมื่อจัดการกับความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับรัสเซีย จีนกับรัสเซียจะยังคงดำเนินความร่วมมือในทางเศรษฐกิจและการค้าตามปกติกันต่อไป ด้วยจิตวิญญาณของความเคารพซึ่งกันและกัน, ความเท่าเทียม, และการมีผลประโยชน์ร่วมกัน”

ในคืนวันอังคาร (15 มี.ค.) เสียเค่อต่าว (Xiakedao) บัญชีสื่อสังคมซึ่งใช้โดย ฉบับตีพิมพ์เผยแพร่นอกประเทศ ของ เหรินหมินรึเป้า (พีเพิลส์เดลี่) หนังสือพิมพ์ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เผยแพร่ข้อเขียนชิ้นหนึ่งซึ่งมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯที่เที่ยวแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จในช่วงก่อนหน้าการเจรจาระหว่าง หยาง-ซุลลิแวน
(ดูเติมเติมได้ที่ https://view.inews.qq.com/a/20220315A09KCT00?tbkt=E&uid=)

“ตั้งแต่ที่รัฐบาลสหรัฐฯชุดปัจจุบันเข้ารับตำแหน่ง พวกเขาก็พยายามซ้ำแล้วซ้ำอีกในการสร้างกระแสประชามติ, การใส่ร้ายป้ายสี, และการบีบคั้นกดดันจีน ในช่วงก่อนหน้าจะมีการเจรจาสำคัญๆ ระหว่างพวกเขากับฝ่ายจีน ความประพฤติเช่นนี้เป็นเรื่องเลวร้ายมาก แล้วมันแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯนั้นภายนอกดูเหมือนเข้มแข็งแต่ว่าภายในกลับอ่อนแอ” หวัง ตง (Wang Dong) อาจารย์ของ คณะการระหว่างประเทศศึกษา (School of International Studies) แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Peking University) กล่าวให้ความเห็นเอาไว้ในข้อเขียนชิ้นนี้

“สหรัฐฯไม่เพียงแค่หาทางให้ได้รับความร่วมมือจากจีนเท่านั้น แต่ยังวาดหวังว่าจีนจะเชื่อฟังคำพูดต่างๆ ของสหรัฐฯ ซึ่งแกล้งทำเป็นว่าพูดออกมาอย่างหนักแน่น และมุ่งกล่าวหาเล่นงานจีน ทั้งนี้ฝ่ายสหรัฐฯควรที่จะทบทวนความประพฤติของตน และเปลี่ยนท่าทียโสโอหังของตนจะดีกว่า”

ทางด้าน เตียว ต้าหมิง (Diao Daming) รองศาสตราจารย์ของคณะการระหว่างประเทศศึกษา มหาวิทยาลัยเหรินหมิน (Renmin University) ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่แสดงความเห็นไว้ในข้อเขียนชิ้นนี้ กล่าวว่า “การประกาศใช้มาตรการแซงก์ชั่นแบบตามืดบอด มีแต่จะทำให้สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนยิ่งยุ่งยากซับซ้อนขึ้นไปอีก มีความจำเป็นที่จะต้องหาหนทางแก้ไขแบบรอบด้านให้แก่ประเด็นปัญหายูเครน โดยผ่านการสนทนาและการปรึกษาหารือกัน”

“สหรัฐฯตระหนักถึงความเป็นจริงแล้วว่า การแซงก์ชั่นรัสเซียไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่คาดหมายเอาได้ และเริ่มสร้างแรงบีบคั้นกดดันใส่จีนในทันที การบีบคั้นกดดันนี้ทั้งไร้ความหมายและไม่มีเหตุผล”

เตียว ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดว่าการแซงก์ชั่นรัสเซียไร้ประสิทธิภาพอย่างไร แต่เขาบอกว่าการที่เกิดผลเช่นนี้ออกมา โดยพื้นฐานแล้วสืบเนื่องจากการที่สหรัฐฯมีทิศทางซึ่งผิดพลาดในการมุ่งเดินหน้าไปด้วยความคิดจิตใจแบบยุคสงครามเย็น เขากล่าวด้วยว่า ประเทศอื่นๆ ต้องมีสิทธิที่จะยืนยันจุดยืนที่ถูกต้องของพวกเขา

เอาเงินเหรินหมินปี้แทนที่เงินดอลลาร์

ในคืนวันอังคาร (15 มี.ค.) ไพ่โถว อินเตอร์เนชั่นแนล วิชั่น (Paitou International Vision) บัญชีสื่อสังคมที่ดำเนินการโดย ดีเฟนซ์ไทมส์ เผยแพร่ข้อเขียนชิ้นหนึ่งที่ใช้ชื่อเรื่องว่า “จีน-รัสเซียจะกำหนดกฎเกณฑ์เงินตราเสียใหม่ ให้เหรินหมินปี้เข้าแทนที่ดอลลาร์ โดยไม่แยแสกับแรงกดดันของฝ่ายตะวันตก”
(ดูเพิมเติมได้ที่ https://baijiahao.baidu.com/s?id=1727380847758735567)

ข้อเขียนนี้อ้างรายงานหลายชิ้นของสื่อมวลชนรัสเซีย พร้อมกับระบุว่า EAEC เริ่มต้นจัดทำระบบชำระหนี้ทางการเงินกับจีนระบบใหม่ขึ้นมาแล้ว โดยที่ร่างแรกของระบบนี้ ซึ่งสามารถรองรับการค้าเงินตราและการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ของประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะมีการเปิดตัวกันในปลายเดือนมีนาคมนี้

“หลังจากพวกประเทศตะวันตกนำโดยสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร เปิดม่านเบิกโรง “สงครามเย็นครั้งใหม่” คราวนี้ออกมา กระบวนการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคยูเรเชียก็มีการเร่งตัวขึ้นมาในเวลาเดียวกัน” ข้อเขียนนี้บอก “มันเป็นข่าวยิ่งใหญ่สำหรับจีนและสำหรับพวกประเทศสมาชิก EAEU อย่างไรก็ตาม พวกประเทศตะวนตกนำโดยสหรัฐฯ ต่างร่วมกันต่อต้านคัดค้านเรื่องนี้”

หลังจากที่ฝ่ายตะวันตกอายัดทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ของรัสเซียเอาไว้ รัสเซียจึงจำเป็นต้องหาหนทางแก้ไขเพื่อรับประกันเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาวของตน ข้อเขียนนี้บอก โดยที่ความร่วมมือประสานงานกันระหว่างจีน-รัสเซีย สามารถที่จะแก้ไขคลี่คลายความจำเป็นเร่งด่วนต่างๆ ของรัสเซีย ในขณะที่การสถาปนาระบบชำระหนี้ทางการเงินระบบใหม่ของ EAEU-จีนขึ้นมา ก็จะให้ผลประโยชน์ร่วมกันและบังเกิดผลแบบชนะกันทุกๆ ฝ่าย ข้อเขียนชิ้นนี้อธิบายต่อ

“ระบบชำระหนี้เหรินหมินปี้-รูเบิลนี้ จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ฉลาดหลักแหลมไม่ธรรมดา ขณะที่ฐานะครอบงำของเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะกลับอ่อนแอลง” ข้อเขียนนี้ระบุ พร้อมับบอกว่าสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรต้องการหยุดยั้งไม่ให้จีนจัดหาทุนสำรองสกุลเงินหยวนให้แก่รัสเซีย

ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ (13 มี.ค.) รัฐมนตรีต่างประเทศ อันตอน ซิลูอานอฟ (Anton Siluanov) ของรัสเซีย แถลงต่อสื่อมวลชนในกรุงมอสโกว่า รัสเซียไม่สามรถใช้ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของตนเองจำนวนราวๆ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเกือบเป็นครึ่งหนึ่งของทุนสำรองของตนทีเดียว แต่ว่ายังคงสามารถภเข้าถึงทุนสำรองที่เป็นสกุลเงินหยวนของตนได้ เขากล่าวว่าเขาเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีนจะเติบโตขยายตัวต่อไป
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://interfax.com/newsroom/top-stories/76603/)
กำลังโหลดความคิดเห็น