เอเจนซีส์ - แพกเกจความช่วยเหลือทางทหารให้ยูเครนจากสหรัฐฯ ชุดใหม่มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ที่ถูกประกาศในวันพุธ (16 มี.ค.) พบรวมไปถึงโดรนกามิกาเซ่สังหารเทคโนโลยีล้ำยุคที่ทำการทดสอบเมื่อธันวาคมปีที่แล้วชื่อ “สวิตช์เบลด” (Switchblade) จำนวน 100 ตัวอยู่ในนั้น พบประสิทธิภาพเยี่ยม ใช้ง่าย คล่องตัว และสามารถทำลายรถถังรัสเซียเป้าหมายได้อย่างแม่นยำได้ไกลห่างออกไปหลายไมล์
NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ว่า ทั้งนี้แหล่งข่าวสภาผู้แทนสหรัฐฯ 2 คนที่ได้รับรายงานสรุปในเรื่องนี้เปิดเผยกับสื่อสหรัฐฯ ถึง “สวิตช์เบลด” (Switchblade) หรือโดรนสังหารเทคโนโลยีล้ำยุคที่มีความสามารถส่งมิสไซล์นำวิถีสามารถทำลายเป้าหมายที่เป็นรถถังและยานยนต์หุ้มเกราะได้อย่างแม่นยำไปให้ยูเครน ในส่วนหนึ่งของแพกเกจความช่วยเหลือทางทหารที่วอชิงตันประกาศมอบให้ในวันพุธ (16) มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นไม่นานหลังผู้นำยูเครนออกมาแถลงต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ อ้างอิงตัวเลขจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส
โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กล่าวถึงการมอบความช่วยเหลือแก่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ครั้งใหม่ว่า "ชาวอเมริกันกำลังตอบเสียงเรียกร้องจากประธานาธิบดีเซเลนสกี ในการขอความช่วยเหลือ ส่งอาวุธเพิ่มมากขึ้นให้แก่ยูเครน"
NBC News ชี้ว่าทำเนียบขาวได้ระบุในเอกสารเกี่ยวข้องกับแพกเกจความช่วยเหลือว่า “ระบบการบินแบบไร้คนบังคับเชิงยุทธวิธีจำนวน 100 ตัว” ซึ่งในรายงานพิเศษของ NBC News วันอังคาร (14) ระบุว่า การป้อนโดรนสังหารสวิตช์เบลด นี้กำลังอยู่ในการพิจารณา
ซึ่งโดรนทำลายรถถังสุดล้ำนี้ถูกพัฒนาโดยบริษัทแอโรไวรอนเมนต์ (AeroVironment) ที่มีฐานใกล้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งโดรนสวิตช์เบลดมี 2 รุ่น คือ สวิตช์เบลด 300 และสวิตช์เบลด 600 ซึ่งได้ขายให้กองบัญชาการปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ (U.S.Special Operations Command) แต่ทว่าแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สภาผู้แทนสหรัฐฯ ไม่ได้เปิดเผยว่า โดรนสังหารที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน กำลังจะมอบให้ยูเครนนั้นเป็นรุ่นใดหรืออาจจะเป็นทั้ง 2 รุ่นก็เป็นได้
ทั้งนี้ ในการสาธิตประสิทธิภาพโดรนสวิตช์เบลด 300 เมื่อธันวาคมปีที่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่บริษัทผลิตอาวุธอเมริกันชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้มีการสาธิตรุ่น 600
ซึ่งการออกมามอบแพกเกจความช่วยเหลือทางการทหารครั้งใหม่เกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ขึ้นแถลงต่อรัฐสภาคองเกรสสหรัฐฯ เรียกร้องให้ "สหรัฐฯ" เพิ่มความพยายามในการช่วยเหลือยูเครนที่มาจากทั้งแพกเกจช่วยเหลือทางการทหารอื่นๆ และมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงขึ้นต่อรัสเซียโดยมียูเครนประเทศของเขาเป็นเดิมพัน และยังได้ส่งสัญญาณพุ่งตรงไปที่ไบเดน โดยกล่าวว่า “การเป็นผู้นำโลกหมายความความถึงการเป็นผู้นำแห่งสันติภาพ” อ้างอิงจาก CNN สื่อสหรัฐฯ และเอพี
เดอะซันรายงานว่า มีรายงานว่าเคียฟกำลังร้องขอวอชิงตันให้ช่วยส่งมิสไซล์รุ่นต่างๆ เป็นต้นว่า เป็นต้นว่า ระบบมิสไซล์ต่อต้านรถถังสติงเจอร์ และระบบต่อต้านรถถังจาเวลิน ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าสหรัฐฯ ได้จัดส่งระบบมิสไซล์ต่อต้านรถถังสติงเจอร์ไม่ต่ำกว่า 600 ตัว ระบบต่อต้านยานหุ้มเกราะจาเวลิน จำนวน 2,600 ตัว ปืนลูกซอง 200 กระบอก ปืนกล 200 กระบอก และคลังกระสุนอีก 40 ล้านลูกสำหรับอาวุธขนาดเล็ก
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการจัดส่งเฮลิคอปเตอร์ เรือแล่นตรวจการณ์ และหมวกทหารไปให้เคียฟ เดอะซันชี้ว่า ในเวลานี้ยังไม่แน่ชัดว่าทางเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจะอนุมัติตามคำขอของเคียฟหรือไม่
และในการขึ้นกล่าวต่อรัฐสภาเยอรมนีในวันพฤหัสบดี (17) รอยเตอร์รายงานว่า เซเลนสกีได้ยกวาทะที่มีชื่อเสียงของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โรนัลด์ เรแกน ที่ได้เคยกล่าวไว้ต่ออดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต มิคาอิล กอร์บาชอฟ ให้ “ทำลายกำแพงเบอร์ลินนี้ทิ้ง” โดยเป็นการเรียกร้องโดยตรงไปยังนายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนปัจจุบัน โอลาฟ ชอลซ์ ให้ทำลายกำแพงกั้นระหว่างเสรีภาพและความขัดแย้งในยุโรปลง
เขากล่าวกับสมาชิกรัฐสภาเยอรมนีทั้งหลายว่า “นี่คือสิ่งที่ผมกล่าวต่อ ฯพณฯ ชอลซ์ อันเป็นที่รักว่า “ทำลายกำแพงนี้เสีย””
NBC News รายงานว่า โดรนกามิกาเซ่สังหารตัวล่าสุดของสหรัฐฯ นั้นแท้จริงแล้วเป็นระเบิดหุ่นยยนต์อัจฉริยะที่มาพร้อมกับกล้อง ระบบนำวิถี และระเบิด พบว่าสวิตช์เบลดสามารถตั้งโปรแกรมให้ให้สามารถโจมตีเป้าหมายได้โดยอัตโนมัติห่างจากเป้าหมายไปไกลหลายไมล์ และมันยังสามารถบินวนเหนือเป้าหมายจนกระทั่งถึงเวลาโจมตี บริษัทแอโรไวโรอนเมนต์เปิดเผยว่า โดรนรุ่น 600 สามารถบินได้ไกลสูงสุด 50 ไมล์ และนาน 40 นาที
เดอะซันรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับความแตกต่างของรุ่น 300 และรุ่น 600 โดยพบว่ารุ่น 300 ถูกออกแบบให้ใช้กับเป้าหมายกำลังพลส่วนรุ่น 600 ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายเป้าหมายยานยนต์หุ้มเกราะหรือรถถัง และยังสามารถออกคำสั่งล้มเลิกปฏิบัติการได้ภายในเสี้ยวนาทีก่อนเวลาโจมตี
โดรนรุ่นนี้ใช้งานได้ง่ายมากเพราะมันถูกออกแบบให้ใช้กับผู้บังคับคนเดียวและยังมีน้ำหนักเบา เคลื่อนที่ได้โดยถูกปล่อยออกมาจากท่อตั้ง 3 ขา จึงทำให้มันได้รับฉายา “โดรนกามิกาเซ่”ไปโดยปริยาย และยังมีราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับมิสไซล์เฮลไฟร์ (Hellfire missile) ที่ยิงออกมาจากโดรน Reaper ของสหรัฐฯ ที่มีรายงานว่าโปแลนด์กำลังสนใจต้องการสั่งซื้อ ทั้งนี้ โดรนสวิตช์เบลด 300 มีสนนราคาตกตัวละ 6,000 ดอลลาร์เท่านั้นหรือราว 199,329.00 บาท ในการประเมินของบางกลุ่ม
ซึ่งอาวุธทั้ง 2 ระบบสามารถเซ็ตอัปในแค่ชั่วเสี้ยวไม่กี่นาทีก่อนที่จะปล่อยออกไป พวกมันมีความสามารถบินได้ไกลกว่าโดรนตุรกี บารัคตาร์ TB2 (Bayraktar TB2 drone) ที่ยูเครนใช้ทำสงครามรบกับรัสเซียอยู่เวลานี้ ทั้งนี้พบว่าสหรัฐฯ เคยทดลองใช้โดรนสวิตช์เบลดในสงครามที่อัฟกานิสถานในสถานการณ์รบแบบจำกัดและรวมไปถึงที่อื่นแต่ไม่มีการเปิดเผย แหล่งข่าวใกล้ชิดกล่าว
อังกฤษยังคงเป็นเพียงชาติเดียวในเวลานี้ที่สั่งซื้อโดรนสวิตช์เบลดจากสหรัฐฯ