ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุวานนี้ (15 มี.ค.) ว่าการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียมีแนวโน้ม “เป็นไปได้จริง” มากยิ่งขึ้น แต่ยังคงต้องใช้เวลา ขณะที่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียคร่าชีวิตพลเรือนในกรุงเคียฟไปอีก 5 ราย ส่วนยอดผู้ลี้ภัยชาวยูเครนขณะนี้พุ่งทะลุ 3 ล้านคนแล้ว
รัสเซียเริ่มส่งทหารบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งถือเป็นการโจมตีรัฐยุโรปครั้งใหญ่ที่สุดในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถยึดเมืองใหญ่ที่สุด 10 เมืองของยูเครนได้
เจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่า พวกเขา “คาดหวัง” ว่าสงครามอาจจบลงได้ภายในเดือน พ.ค. และรัสเซียอาจยอมรับความจริงว่าไม่สามารถใช้กำลังบังคับตั้งรัฐบาลยูเครนชุดใหม่ได้ และอาจจะขาดแคลนกำลังพลชุดใหม่ๆ ที่จะส่งเข้าสู่สนามรบ
“การพบปะยังคงมีขึ้นต่อไป และผมได้รับแจ้งว่าจุดยืนในการเจรจาเริ่มเป็นไปได้จริงมากยิ่งขึ้น แต่ยังต้องใช้เวลาในการตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของยูเครน” เซเลนสกี กล่าวผ่านคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ก่อนจะมีการเจรจารอบถัดไป
ก่อนหน้านั้น ผู้นำยูเครนยังได้ส่งสัญญาณประนีประนอมอีกครั้ง โดยบอกว่ายูเครนพร้อมที่จะยอมรับการรับรองความมั่นคงจากตะวันตกที่ไม่รวมถึงการเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ เซเลนสกี กล่าวเช่นนี้ในที่สาธารณะ
รัสเซียมองว่ายูเครนที่เป็นสมาชิกนาโตจะก่อ “ภัยคุกคาม” ใหญ่หลวง และเรียกร้องมาโดยตลอดให้นาโต “การันตี” ว่าจะไม่มีวันรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก
ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ชี้ว่า “ยังเร็วไป” ที่จะคาดเดาความคืบหน้าในการเจรจายุติสงคราม
“มันเป็นงานที่ยากลำบาก และข้อเท็จจริงที่ว่าการเจรจายังคงดำเนินอยู่นั้นถือเป็นเรื่องดี” โฆษกรัฐบาลหมีขาว ระบุ
รัสเซียเรียกสิ่งที่ตนเองทำอยู่ว่าเป็น “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” เพื่อ “ทำลายความเป็นนาซี” และทำให้ยูเครนกลายเป็นรัฐปลอดทหาร ขณะที่เคียฟและชาติตะวันตกชี้ว่ามอสโกยกข้ออ้างที่ “ไม่มีมูล” เพื่อรุกรานเพื่อนบ้าน ซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลายไปทั่วยุโรป
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เตรียมเดินทางเยือนยุโรปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเพื่อหารือวิกฤตการณ์ดังกล่าวกับชาติพันธมิตรนาโตในสัปดาห์หน้า โดยจะประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำชาติพันธมิตรที่สำนักงานใหญ่นาโตในกรุงบรัสเซลส์ในวันที่ 24 มี.ค. ขณะที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ไบเดน เตรียมประกาศมอบการสนับสนุนด้านความมั่นคงให้แก่ยูเครนอีก 800 ล้านดอลลาร์ในวันนี้ (16)
ขณะเดียวกัน นาโตก็เตรียมแจ้งไปยังเหล่าผู้บัญชาการทหารในวันนี้ (16) ให้จัดทำแผนยับยั้งปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในอนาคต ซึ่งจะรวมถึงเสริมกำลังพลและระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปตะวันออก
“เราจำเป็นต้องรีเซ็ตจุดยืนทางทหาร เพื่อให้สอดรับกับความจริงใหม่ๆ” เยน สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันอังคาร (15) “บรรดารัฐมนตรีจะเริ่มการหารือที่สำคัญเพื่อกำหนดมาตรการเสริมความมั่นคงอย่างเป็นรูปธรรมในระยะยาว และในทุกๆ ด้าน”
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า มีชาวยูเครนหนีภัยสงครามออกนอกประเทศแล้วมากกว่า 3 ล้านคน โดยกว่า 1.8 ล้านคนเข้าไปอาศัยอยู่ในโปแลนด์ ขณะที่โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เตือนว่าประชากรยูเครน 9 ใน 10 คนเสี่ยงที่จะเผชิญความยากจนและความเปราะบางทางเศรษฐกิจแบบสุดขั้ว หากสงครามยืดเยื้อไปจนถึงปีหน้า ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจยูเครนก้าวถอยหลังไปถึง 20 ปี
ที่มา : รอยเตอร์