เอพี - ฝรั่งเศสวันนี้ (14 มี.ค.) สั่งยกเลิกมาตรการป้องกันโควิด-19 เกือบทั้งหมดรวมคำสั่งสวมหน้ากาก ไม่ห้ามคนไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 เข้าไปในภัตตาคาร สนามกีฬาอีกต่อไป
เอพีรายงานวันนี้ (14 มี.ค.) ว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดถูกประกาศก่อนหน้าเมื่อต้นเดือนนี้โดยรัฐบาลปารีสบนพื้นฐานการประเมินว่าสถานการณ์โควิด-19 ของฝรั่งเศสตามโรงพยาบาลนั้นดีขึ้น บวกกับการลดลงอย่างต่อเนื่องของการติดเชื้อในหลายสัปดาห์ที่ตามมา และเป็นการประกาศที่เกิดขึ้นไม่ถึงเดือนก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกจะเกิดขึ้น ซึ่งกำหนดการเลือกตั้งตรงกับวันที่ 10 เม.ย.นี้
ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ (14) ประชาชนชาวฝรั่งเศสไม่ถูกกำหนดต้องแสดงหลักฐานการรับวัคซีนโควิด-19 เพื่อเข้าใช้บริการในภัตตาคาร บาร์ โรงภาพยนตร์ งานจัดแสดงต่างๆ และการใช้ระบบการขนส่งข้ามภูมิภาค ซึ่งพาสปอร์ตโควิด-19 นั้นมีผลการบังคับใช้ทันทีเมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ที่โรงพยาบาลและสถานดูแลคนชราในฝรั่งเศสพบว่าผู้ที่จะผ่านเข้าไปด้านในแต่ไม่เคยฉีดวัคซีนโควิด-19 จำเป็นต้องแสดงผลการตรวจเป็นลบล่าสุด หรือการแสดงหลักฐานว่าเพิ่งหายป่วยจากโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ข้อกำหนดการสวมหน้ากากในที่สาธารณะไม่ต้องถูกบังคับใช้อีกต่อไปทั้งในโรงเรียน สำนักงาน และที่ทำการทางธุรกิจ แต่พบว่าคำสั่งสวมหน้ากากยังคงบังคับใช้ต่อไปภายในระบบขนส่งมวลชนฝรั่งเศส
โจเซลิน มุลเลอร์ (Jocelyne Muller) ซึ่งอาศัยใกล้กรุงปารีสยังคงสวมหน้ากากของเธอเองในวันนี้ (14) ไปตามถนนหนทางต่างๆ ในเมืองหลวงขณะที่เธอกำลังจะออกไปจากรถไฟสายชานเมือง
“มันเป็นที่น่าโล่งอกที่สามารถถอดมันออกไปได้ถึงแม้ว่าหน้ากากจะไม่รบกวนดิฉันเลย” เธอกล่าวและเสริมต่อว่า “ในเวลานี้ผู้คนต่างคาดหวังว่ามันจะสามารถนำคนกลับเข้าไปในโรงภาพยนตร์ โรงละคร และสถานบันเทิงต่างๆ”
การออกมาแสดงความเห็นของมุลเลอร์ไม่ต่างจากของเจ้าของภัตตาคารในกรุงปารีสที่ยินดีต่อมาตรการยกเลิกข้อจำกัดทางโควิด-19 เกือบทั้งหมดนี้ โดยเขาคาดหวังว่าฝรั่งเศสจะสามารถกลับมาใช้วิถีชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง โดยกล่าวว่า
“พวกเราเคยชินกับมาตรการจำกัดและกระบวนการซับซ้อนเหล่านี้ ดังนั้น พวกเราจะมีความสุขกับงานเพิ่มมากขึ้น และถือว่าเป็นข่าวดี”