xs
xsm
sm
md
lg

In Clips : ผู้นำนาโต้ชี้ “ปูติน” อาจใช้ “อาวุธเคมี” ในเคียฟ ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม น้ำตาร่วง! คุณย่ายูเครนวัย 98 ผ่านค่ายแรงงานหนักเบอร์ลิน-คุกไซบีเรียเปิดใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์/เอเอฟพี - เลขาธิการองค์การนาโต้ เยนส์ สโตลเตนแบร์ก แถลงวันนี้ (13 มี.ค.) ชี้รัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีในยูเครนหลังบุก สื่อเยอรมนีรายงานอดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนีชื่อดัง แกร์ฮาร์ท ชเรอเดอร์ หารือประธานาธิบดีรัสเซีย พยายามยุติสงครามยูเครนที่กรุงมอสโกนานหลายชั่วโมง วันพฤหัสบดีก่อนบินออกไปตุรกี ด้านคุณย่ายูเครนใจเด็ด วัย 98 ปี ผ่านทั้งค่ายใช้แรงงานหนักเบอร์ลินตะวันออก และคุกในไซบีเรียเรียกร้องปูตินจากบ้านยูเครนให้เลิกก่อสงคราม

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (13 มี.ค.) ว่า หนังสือพิมพ์เวลต์ อัม ซอนน์ทาก (Welt am Sonntag) รายงานว่า เลขาธิการองค์การนาโต้ เยนส์ สโตลเตนแบร์ก ให้สัมภาษณ์ในวันอาทิตย์ (13) ชี้ไปว่า รัสเซียอาจจะใช้อาวุธเคมีหลังการเข้ารุกรานยูเครน และหากเกิดขึ้นจะถือเป็นอาชญากรรมสงคราม

“ไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเราได้ยินข้ออ้างสุดแปลกประหลาดเกี่ยวกับห้องแล็บอาวุธชีวภาพและอาวุธเคมี” พร้อมกับชี้ไปว่า เครมลินกำลังสร้างเฟกนิวส์ขึ้นมาเพื่อแสดงความชอบธรรมให้สิ่งที่ไม่มีความชอบธรรม

นอกจากนี้ สโตลเตนแบร์กยังเสริมต่อว่า “ปัจจุบันนี้การอ้างสิ่งที่เป็นเท็จได้เกิดขึ้น พวกเราจึงต้องระแวดระวังเป็นเพราะมีความเป็นไปได้ว่ารัสเซียเองอาจกำลังวางแผนการใช้อาวุธเคมีภายใต้การสร้างข่าวที่เป็นเท็จเหล่านี้ นั่นจะถือเป็นอาชญากรรมสงคราม”

เขาเสริมต่อว่า ถึงแม้ว่าประชาชนยูเครนจะกำลังทำการต่อต้านการบุกยึดของรัสเซียด้วยความกล้าหาญ แต่อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีความยากลำบากมากขึ้น

รอยเตอร์รายงานว่า ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์เยอรมนีอีกฉบับ บิลด์ อัม ซอนน์ทาก (Bild am Sonntag) รายงานวันนี้ (13) ว่า มีการเปิดเผยว่า อดีตผู้นำเยอรมนี แกร์ฮาร์ท ชเรอเดอร์ พบหารือกับปูตินในวันพฤหัสบดีนานหลายชั่วโมงเพื่อต้องการยุติสงครามยูเครน แต่ในรายงานไม่เป็นที่แน่ชัดว่า มีความสำเร็จอย่างไรบ้าง ซึ่งชเรอเดอร์จากพรรคโซเชียล เดโมแครต SPD ถูกกล่าวว่ามีความใกล้ชิดกับผู้นำรัสเซียเป็นอย่างมาก และยังเกี่ยวข้องกับบริษัทรัสเซียหลายแห่ง

แหล่งข่าวอ้างกับหนังสือพิมพ์เยอรมนีว่า ชเรอเดอร์ในเวลานี้ถือเป็นเพียงแค่บุคคลเดียวที่มีการติดต่อโดยตรงกับทั้งประธานาธิบดีรัสเซียและเจ้าหน้าที่ระดับสูงยูเครน

ทั้งนี้ พบว่าเขาเดินทางออกจากกรุงมอสโกไปตั้งแต่เช้าวันเสาร์พร้อมภรรยา และบินเข้าไปยังอิสตันบูล ตุรกี โดยโพลิติโกซึ่งเป็นสื่อแรกที่ออกมารายงานการเดินทางเยือนกรุงมอสโกของชเรอเดอร์ แต่แหล่งข่าวรัฐบาลเยอรมนีชี้ว่า ทางเบอร์ลินไม่มีการตกลงใดๆ ในการพบปะและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น

หนังสือพิมพ์บิลด์ อัม ซอนน์ทาก ชี้ว่า แกร์ฮาร์ท ชเรอเดอร์ยังได้พบกับตัวแทนยูเครนที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียในตุรกีค่ำวันจันทร์

ด้านโรซาเลีย โชบา (Rozalia Choba) คุณย่าชาวยูเครนวัย 98 ปี ชาวเมืองลวิฟ ที่กำลังเผชิญหน้าการโจมตีจากรัสเซียขณะนี้กล่าวเปิดใจกับเอเอฟพีในวันศุกร์ (11) ผ่านไปยังผู้นำรัสเซียให้ช่วยเลิกทำสงคราม

ทั้งนี้ โชบาให้สัมภาษณ์จากที่บ้านของตัวเองในยูเครน เธออายุมากแล้วถึง 98 ปี สวมชุดพื้นเมืองยูเครน และคลุมศีรษะแบบหญิงยูเครน สัมภาษณ์กับเอเอฟพีเป็นภาษายูเครนแสดงภาพถ่ายของตัวเองในสมัยยังสาวที่ต้องผจญทั้งค่ายแรงงานหนักในเยอรมันตะวันออกภายใต้อดีตสหภาพโซเวียต และต้องอยู่ภายในคุกไซบีเรียร่วม 10 ปี ในฐานะนักโทษทางการเมือง

เอเอฟพีกล่าวว่า ถึงแม้โชบา จะผ่านความทุกข์ยากมาอย่างสาหัส แต่หญิงชราที่แสนอ่อนหวานไม่แสดงความโกรธเคืองออกมาให้เห็นและไม่มีความเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ใด เว้นแต่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน

โชบาสูญเสียการมองเห็นข้างหนึ่งไปกล่าวต่อหน้ากล้องโทรทัศน์เรียกร้องปูตินให้คืนมีสติสัมปชัญญะกลับมา

“ผู้คนขอให้กลับคืนสติของตัวเองกลับมา โดยเฉพาะมากที่สุดคือคุณ “ปูติน”” และเสริมว่า “คุณได้เริ่มต้นสงครามต่อยูเครน” เธอชี้ว่า “ยูเครนได้ป้อนทั้งขนมปังและไขมันสัตว์แก่คุณ และในเวลานี้คุณโจมตียูเครน คุณต้องการอะไรหรือ เลือด? เลือดมนุษย์?” หญิงชราตั้งคำถาม

ซึ่งเธอเฝ้าดูสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างมอสโกและเคียฟมาตั้งแต่ตุลาคมปี 2021 และรู้ว่าสงครามกำลังจะเริ่มเกิดในไม่ช้า

โชบา กล่าวต่อว่า เธอไม่มีจิตใจคิดร้ายกับทหารรัสเซียที่ขับรถถังเข้ามา แต่เธอจะกล่าวกับทหารเหล่านั้นให้กลับไปประเทศบ้านเกิดรัสเซียของพวกเขา

“ในจิตใจของดิฉัน ดิฉันไม่เคยคิดมุ่งร้ายต่อทหารรถถัง ขอให้พวกเขาเดินทางกลับไปอย่างมีสุขภาพแข็งแรง ขอให้พวกเขากลับไปรัสเซีย ดิฉันไม่ต้องการสังหารพวกเขา ไม่เลย”

เธอกล่าวต่อว่า “มันไม่จำเป็นต้องสังหารผู้ใด ผู้คนไม่สมควรที่ต้องถูกโบยตี คนเหล่านั้นเสียชีวิตเอง และหากเหล่ารถถังรัสเซียเดินทางมา ดิฉันจะบอกว่า “ขอให้ไปให้พ้น ซาตาน กลับไปยังประเทศเกิดของพวกท่าน ดิฉันจะให้ขนมปังแก่พวกคุณสำหรับระหว่างทาง ขอให้กลับไป”

ในการให้สัมภาษณ์พบว่าเธอได้แสดงหลักฐานภาพถ่ายในอดีตมากมาย รวมไปถึงเอกสารต่างๆ ซึ่งใครที่ได้ฟังคำกล่าวของคุณย่ายูเครนรายนี้คงต้องอดเสียน้ำตาให้ไม่ได้




กำลังโหลดความคิดเห็น