เอเจนซีส์ - ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนีในวันเสาร์ (12 มี.ค.) พบว่าปูตินยังคงเสียงแข็งไม่มีความต้องการยุติสงคราม ด้านประธานาธิบดียูเครนยันหากรัสเซียจะยึดกรุงเคียฟได้ต้องสังหารพลเมืองทั้งหมด รัสเซียตั้งนายกเทศมนตรีคนใหม่ให้เมืองเมลิโตโปล เสียงระเบิดดังหลายครั้งก่อน 6 โมงเช้าของวันนี้ (13 มี.ค.) ที่เมืองลวิฟ ติดโปแลนด์
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (12 มี.ค.) ว่า ในการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำรัสเซียร่วมกับประธานาธิบดีเยอรมนี โอลาฟ ชอลซ์ และประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง วันเสาร์ (12) เป็นระยะเวลา 75 นาที พบว่า ทั้งโชลซ์ และมาครงเรียกร้องให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ทำการหยุดยิงชั่วคราวในยูเครน โฆษกเยอรมนีกล่าว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ในการสนทนาพบว่าปูตินไม่มีความตั้งใจที่จะยุติสงครามยูเครนที่รัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อเคียฟเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
การเรียกร้องของทั้งชอลซ์ และมาครง สะท้อนต่อการเรียกร้องของประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่ก่อนหน้าในวันเดียวกัน (12) ระบุว่า การเจรจาจะเดินหน้าได้ก็ต่อเมื่อมีการหยุดยิงเกิดขึ้น
ซึ่ง CNN รายงานวันนี้ (13) ถึงสถานการณ์ในยูเครนพบว่า ฝ่ายรัสเซียได้จัดการแต่งตั้งนายกเทศมนตรีคนใหม่ขึ้นปกครองเมืองเมลิโตโปล (Melitopol) ที่ฝ่ายรัสเซียยึดครองหลังจาก อีวาน เฟโดรอฟ (Ivan Fedorov) นายกเทศมนตรีคนปัจจุบันถูกจับตัวไปเมื่อวันศุกร์ (11) โดยในวิดีโอคลิปที่เปิดเผยพบว่า เขาถูกนำตัวออกไปจากที่ทำการโดยกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำติดอาวุธ
ขณะที่เครมลินได้อ้างแถลงการณ์ถึงการสนทนาทางโทรศัพท์ของผู้นำรัสเซียที่มีต่อผู้นำชาติทั้งสองซึ่งพบว่า ปูตินได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์การเจรจาระหว่างเคียฟและมอสโก และได้แสดงการรับรู้ต่อความวิตกของคนเหล่านั้นเกี่ยวกับทางสถานการณ์ทางมนุษยธรรมในยูเครน แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายเครมลินในแถลงการณ์ไม่ได้กล่าวถึงการหยุดยิงชั่วคราว และอีกทั้งยังอ้างว่าฝ่ายยูเครนใช้พลเมืองเป็นโล่มนุษย์
อ้างอิงจากโฆษกฝ่ายเยอรมนีที่ระบุว่า “ทุกฝ่ายที่เข้าร่วมตกลงที่จะไม่เปิดเผยเนื้อความในการสนทนา” และย้ำว่า “การสนทนาทางโทรศัพท์เป็นส่วนหนึ่งของพยายามระดับนานาชาติเพื่อที่จะยุติสงครามในยูเครน”
ทั้งนี้ สำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานการแถลงของโฆษกเครมลิน ดมิตรี เพสคอฟ ที่เปิดเผยในวันเสาร์ (12) ว่า การเจรจาฉุกเฉินในระดับตัวแทนระหว่างมอสโกและเคียฟอย่างเป็นการพบหน้าเกิดขึ้นที่เบลารุส และต่อมาผ่านทางวิดีโอลิงก์ พร้อมกับอ้างว่าตั้งแต่สงครามเริ่มต้นฝ่ายยูเครนเสียทหารไปแล้ว 1,300 นาย พร้อมกับยืนยันต่อว่า ความขัดแย้งที่กำลังเกิดนี้หมายความว่ารัสเซียได้ลบเมืองเล็กๆ บางเมืองของยูเครนออกไปจากแผนที่
ขณะที่เซเลนสกี ยังคงยืนกรานว่าฝ่ายยูเครนไม่สามารถหยุดการสู้รบกับรัสเซียเพื่อปกป้องอธิปไตยตัวเอง แต่จะบังคับใช้กข้อตกลงการหยุดยิงเพื่อเปิดเส้นทางอพยพด้านมนุษยธรรมออกจากเมืองมาริอูโปล (Mariupol) ทางใต้และขอให้ฝ่ายรัสเซียทำเช่นเดียวกัน
ในรายงานของ เอบีซีนิวส์ สื่อสหรัฐฯ พบว่า ผู้นำยูเครนในวันเสาร์ (12) กล่าวกับนักข่าวว่า รัสเซียจำเป็นต้องปูพรมทิ้งระเบิดและสังหารพลเมืองทั้งหมดจึงจะสามารถยึดกรุงเคียฟได้
“พวกเขามาที่นี่เพื่อฆ่าพวกเราให้หมดเท่านั้น” เซเลนสกี กล่าวและเสริมต่อว่า “หากว่านี่เป็นเป้าหมายของพวกเขาแล้ว ขอให้พวกเขามา”
ผู้นำยูเครนกล่าวยืนยันตัวเลขของการสูญเสียฝ่ายตัวเองว่าอยู่ที่ 1,300 นาย เหมือนเช่นที่โฆษกเครมลินแถลง แต่เซเลนสกี อ้างว่าฝ่ายรัสเซียสูญเสียทหารไปถึง 12,000 นาย
CNN รายงานว่า ทั้งนี้มีการระเบิดหลายครั้งเกิดขึ้นก่อนเวลา 6 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่นวันอาทิตย์ (12) นอกเมืองลวิฟ (Lviv) ใกล้พรมแดนโปแลนด์