xs
xsm
sm
md
lg

ขู่ไว้ก่อน! ไทเปยกตัวอย่างยูเครน เตือนสงครามไต้หวัน-จีนจะเป็นชัยชนะที่น่าเวทนา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวันเตือนในวันพฤหัสบดี (10 มี.ค.) ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะสงครามในอนาคตระหว่างไต้หวันกับจีน มันจะเป็นชัยชนะที่น่าเวทนา

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวก่อนเข้าประชุมรัฐสภา ในเรื่องนัยสำคัญด้านความมั่นคงจากกรณีรัสเซียรุกรานยูเครน เชียว กั๋วเจิ้ง รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวัน ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายจะชดใช้ราคาแพงในกรณีที่ความขัดแย้งปะทุขึ้นระหว่างจีนกับไต้หวัน ซึ่งปักกิ่งประกาศรวมชาติและอาจใช้กำลังถ้ามีความจำเป็น

"ถ้ามีสงคราม ขอพูดตรงๆ เลย ทุกคนจะทุกข์ยากน่าสังเวช แม้กระทั่งสำหรับผู้ชนะ" เขากล่าว "เรื่องนี้คือหนึ่งสิ่งที่จำเป็นต้องคิดไตร่ตรองอย่างละเอียดรอบคอบ ทุกคนควรหลีกเลี่ยงสงคราม"

แม้ไต้หวันยกระดับเตือนภัยนับตั้งแต่สงครมในยูเครนปะทุขึ้น ทว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติของกองทัพจีน ยกเว้นแต่กรณีที่กองทัพอากาศปักกิ่งยังคงปฏิบัติภารกิจบินล่วงล้ำเข้าเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันเพิ่มมากขึ้น

"เราเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นอย่างสงบและเราเตรียมพร้อมให้สอดคล้องกับสถานการณ์" เชียว กล่าว

ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (9 มี.ค.) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักวางแผนกลยุทธ์ของกองทัพไต้หวันกำลังศึกษาสถานการณ์การรุกรานยูเครนของรัสเซียและการต้านทานรัสเซียของยูเครน เพื่อนำมาปรับใช้กับแผนการรบของไต้หวัน ในกรณีที่จีนบุกไต้หวัน แม้ฐบาลไต้หวันรายงานว่า ยังไม่มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่ผิดปกติจากจีน

ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน สนับสนุนแนวคิดการทำสงครามอสมมาตร เพื่อทำให้กองกำลังเคลื่อนที่ได้ดีขึ้น และโจมตีได้ยากขึ้น เช่น การใช้ขีปนาวุธติดยานพาหนะ

ส่วน หม่า เฉิง คุน ผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตกิจการทหารจีนศึกษา ที่มหาวิทยาลัยป้องกันไต้หวันแห่งชาติ กล่าวว่า ยูเครนใช้แนวคิดนี้ร่วมกับอาวุธเคลื่อนที่เพื่อต้านกองกำลังรัสเซีย

ด้านนักวิชาการและนักวิเคราะห์มองปัญหาจีน-ไต้หวัน เปรียบเทียบกับวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ระบุว่า จีนไม่ได้ใช้กำลังทหารโจมตีไต้หวันโดยตรง แต่อาจใช้ปฏิบัติการประเภทอื่นๆ เช่น การก่อกวนภายใน สงครามไซเบอร์ หรือการกดดันทางทหารเพื่อหวังผลทางการทูต ด้านหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน ที่ระบุว่าประเด็นจีน-ไต้หวัน "เป็นกิจการภายใน ไม่ใช่เรื่องระหว่างสองประเทศ"

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเจนซี)


กำลังโหลดความคิดเห็น