กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศวันนี้ (7 มี.ค.) ว่า กองทัพเตรียมที่จะ “หยุดยิง” และเปิดเส้นทางมนุษยธรรมในหลายเมืองของยูเครน รวมถึงที่กรุงเคียฟ หลังจากที่การสู้รบตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้การอพยพพลเรือนล้มเหลว และยอดผู้เสียชีวิตจากสงครามยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า เส้นทางมนุษยธรรมจากกรุงเคียฟ เมืองคาร์คีฟ และเมืองซูมี (Sumy) จะถูกเปิดในเวลา 10.00 น. ตามเวลากรุงมอสโก (14.00 น. ตามเวลาในไทย) โดยเป็นไปตามคำร้องขอของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ซึ่งได้ต่อโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เมื่อวานนี้ (6)
ตามแผนที่ซึ่งเผยแพร่โดยสำนักข่าว RIA ของรัสเซีย เส้นทางอพยพจากกรุงเคียฟจะพาผู้คนออกไปสู่เบลารุสซึ่งเป็นชาติพันธมิตรของมอสโก ส่วนชาวคาร์คีฟ (Kharkiv) นั้นจะต้องอพยพข้ามไปยังฝั่งรัสเซียเท่านั้น ขณะที่เส้นทางอพยพจากมารียูปอล (Mariupol) และซูมี (Sumy) มีทั้งที่เชื่อมไปยังเมืองอื่นๆ ของยูเครน และข้ามไปยังรัสเซีย
ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์จะอพยพออกจากกรุงเคียฟยังสามารถเลือกที่จะขึ้นเครื่องบินไปยังรัสเซียได้ด้วย และกองทัพรัสเซียจะมีการใช้ “โดรน” เฝ้าจับตาดูการเคลื่อนย้ายพลเรือนอย่างใกล้ชิด
“ความพยายามจากฝั่งยูเครนที่จะตบตารัสเซีย และผู้คนทั่วโลกจะไร้ผลในคราวนี้” กระทรวงกลาโหมหมีขาว ระบุ
ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของ ปูติน เรียกเสียงประณามจากทั่วโลก และทำให้พลเมืองยูเครนกว่า 1.5 ล้านคนต้องอพยพหนีตายไปต่างประเทศ ขณะที่ชาติตะวันตกพร้อมใจกันประกาศบทลงโทษที่รุนแรงและครอบคลุมเพื่อที่จะทุบเศรษฐกิจของรัสเซีย
ราคาน้ำมันดิบในตลาดเอเชียวันนี้ (7) พุ่งสูงแตะระดับเกือบสูงสุดตั้งแต่ปี 2008 หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศพิจารณาคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งคิดเป็นราวๆ 7% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก ขณะที่ญี่ปุ่นซึ่งมีรัสเซียเป็นแหล่งนำเข้าน้ำมันอันดับ 5 ของประเทศ ยอมรับว่ามีการพูดคุยกับทั้งสหรัฐฯ และยุโรปเรื่องการงดนำเข้าน้ำมันจากแดนหมีขาว
ที่มา : รอยเตอร์