ชายคนหนึ่งจากรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐฯ ได้กลับบ้านของตนเองเสียที หลังจากต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานมากกว่า 500 วัน นับตั้งแต่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
นายดอนเนลล์ ฮันเตอร์ ซึ่งไม่เปิดเผยอายุ ท้ายที่สุดก็ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล Kindred Hospital Albuquerque ในเมืองอัลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของสำนักข่าวเคโอบี เครือข่ายของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี
ระหว่างทางที่เดินทางกลับบ้าน เพื่อนบ้านได้พากันยืนเรียงแถวบนท้องถนน ร้องเพลงให้กำลังใจ และการเดินทางกลับบ้านของเขาในครั้งนี้ถึงขั้นที่ว่าต้องมีตำรวจคอยอารักขาด้วย
"ผมพูดอะไรไม่ออกเลย" ฮันเตอร์กล่าวถึงการกลับสู่อ้อมกอดของบ้านอีกครั้ง
รายงานข่าวระบุว่า ในช่วงเวลาที่เขารักษาตัวในโรงพยาบาล เขากลายเป็นปู่คน ระหว่างนั้นลูกชายยังเคยอุ้มหลานเยี่ยมคุณปู่แล้วด้วย
"ตอนนี้เขาอายุ 1 ขวบแล้ว และเขาทำเหมือนว่ารู้จักผมมาตั้งแต่เกิด ทันทีที่ผมตื่นตอนในตอนเช้า เขาเป็นสิ่งแรกที่อยู่ในใจของผม" ฮันเตอร์ พูดถึงหลานคนโปรด
แม้ตอนนี้เขาได้กลับบ้านแล้ว แต่ ฮันเตอร์ ยังคงอยู่บนเส้นทางอีกยาวไกลในการพักฟื้นร่างกายให้กลับมาใกล้เคียงหรือเป็นดังเดิม
หลังจากเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในเดือนกันยายน 2020 เขาแน่นิ่งและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ "มือของผมใช้งานไม่ได้ แขนของผม ขา ทุกอย่างๆ ดังนั้น ผมจำเป็นต้องรอให้ทุกอย่างกลับมา และต้องอรรถบำบัดมากมายก่ายกอง เรียนรู้การรับประทาน เรียนรู้การกลืน ผมจำเป็นต้องเรียนรู้ทุกอย่างทั้งหมดอีกครั้ง" ฮันเตอร์ กล่าว
แอชลีย์ ฮันเตอร์ ภรรยาของฮันเตอร์ ให้คำจำกัดความการดูแลสามี ว่าเหมือนกับการดูแลทารกแรกคลอด ซึ่งกำลังเรียนรู้สิ่งต่างๆ เป็นครั้งแรก และบอกว่าสามีของเธอยังอยู่บนเส้นทางอีกยาวไกลว่าจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์"
"ฉันต้องการให้เขากลับมาและรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ไม่ต้องการให้เขารู้สึกเหมือนว่าเราอยู่ในโรงพยาบาล ดังนั้นฉันจึงทำสิ่งต่างๆ ให้เหมือนกับการดูแลในโรงพยาบาลให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" เธอกล่าว
ส่วน ฮันเตอร์ เล่าว่าตอนที่เขาอยู่ในโรงพยาบาล บ่อยครั้งที่ฝันว่าตนเองได้กลับมาบ้านแล้ว แต่พอตื่นมาก็รู้ความจริงว่าเขายังคงอยู่ในโรงพยาบาล "ตอนที่ผมอยู่ในโรงพยาบาล ผมฝันหลายครั้งว่าผมอยู่บ้าน และพอตื่นขึ้น ผมได้แต่พูดว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความฝัน"
(ที่มา : เอ็นบีซีนิวส์)