ในท่ามกลางวิกฤตที่ประชาชนต้องเผชิญสงครามอันเกิดจากอภิมหาอำนาจทางพรมแดนตะวันออก ยกทัพยาตราเข้าไปถล่มทำลายด้วยอาวุธหนัก และต้องหวาดผวาว่าจะเกิดการต่อสู้ดุเดือดตามท้องถนนระหว่างทหารรัสเซียผู้รุกรานกับบรรดาบุรุษผู้กล้าหาญแห่งยูเครน เด็กเล็กและเยาวชน อีกทั้งคุณแม่ตลอดจนคุณยายคุณย่ากับผู้ชรามากมาย ไม่สามารถอบอุ่นปลอดภัยในบ้านได้ ต้องหลบลงไปพักพิงในชั้นใต้ดินของอาคารต่างๆ รวมทั้งสถานีรถไฟใต้ดิน
สงครามและการต่อสู้เหล่านั้น ทำให้เด็กเล็กจำนวนหนึ่งถูกลูกหลง ได้รับบาดเจ็บ และบางคนถึงกับเสียชีวิต เด็กหญิงตัวน้อยวัยเพียง 6 ขวบถูกลูกหลงจากปืนใหญ่ที่ยิงเข้าทำลายย่านที่พักอาศัยในเมืองมาริวโปล ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ 27 กุมภาพันธ์ 2022 รถฉุกเฉินรีบพาน้องเข้ารับความช่วยเหลือในโรงพยาบาล แต่คุณหมอสุดความสามารถที่จะยื้อชีวิตน้องไว้ได้ น้องจากไปในท่ามกลางเสียงร้องไห้ระงมของคุณพ่อคุณแม่
ท่ามกลางความตายอันกลาดเกลื่อน การเกิดของทารกบริสุทธิ์ได้ดำเนินคู่ขนานกันอย่างทุลักทุเล ทารกตัวจิ๋วฝาแฝดถือกำเนิดในโรงพยาบาลเด็ก โอคมาเดต ใจกลางกรุงเคียฟ ทั้งคู่นอนเคียงกันมีผืนผ้าห่มห่อหุ้มให้ความอบอุ่น แต่เจ้าตัวน้อยของคุณแม่ไม่ได้อยู่ในเตียงในวอร์ดเด็ก หากเป็นบนพื้นของห้องใต้ดินโรงพยาบาลซึ่งดัดแปลงมาเป็นหลุมหลบภัย
สภาพการณ์แบบนี้อุบัติขึ้นในหลายๆ เมืองทางภาคใต้และภาคตะวันออกของยูเครน รวมถึงโรงพยาบาลแม่และเด็กในเมืองมาริวโปลซึ่งก็ได้ดัดแปลงชั้นใต้ดินให้เป็นหอผู้ป่วยและแหล่งหลบภัยระเบิด โดยคุณแม่คาเทรีนา ซูฮาโรโควา ต้องให้กำเนิดแก่บุตรชายหน้าตาน่ารักน่าชังที่มุมหนึ่งของชั้นใต้ดินโรงพยาบาล
ตามเมืองใหญ่จำนวนมากของยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบรรดาแหล่งหลบภัยสงคราม คุณแม่คุณยายคุณย่าช่วยกับโอบอุ้มปลอบโยนเด็กๆ ตัวน้อยทั้งหลายให้คลายความเครียดและหวาดหวั่น หลายครอบครัวเห่กล่อมเจ้าตัวน้อยบนพื้นกระด้างของสถานีรถไฟใต้ดิน หลายครอบครัวอุ้มลูกจูงหลานเดินฝ่าความหนาวยะเยือกกันเป็นหลายกิโลเมตรเพื่อจะไปให้ถึงชายแดนและลี้ภัยสงครามในประเทศเพื่อนบ้านที่ปลอดภัยกว่า
ไม่ว่าจะลำบากยากเข็ญเพียงใด ผู้คนก็ยอมดั้นด้นขวนขวายเคลื่อนย้ายด้วยรถไฟ รถยนต์ หรืออาศัยกำลังของสองขาพาไปในท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ
ที่ผ่านมา ชาวยูเครนมากกว่าหนึ่งล้านสองแสนรายกลายเป็นผู้ลี้ภัยสงคราม ละทิ้งบ้านเรือนอบอุ่นไปเสาะหาที่พักพิงให้พ้นออกจากลูกหลงที่พร้อมจะพุ่งเข้าคร่าชีวิตพวกเขาและลูกหลานได้ทุกวินาที พวกเขาบ่ายหน้าไปยังบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น โปแลนด์ โรมาเนีย มอลโดวา สโลวาเกีย หรือประเทศอื่นๆ ที่ห่างออกไป
กว่าล้านชีวิตหิ้วข้าวของออกจากบ้าน เพื่อหนีอันตรายไปยังประเทศอื่นที่ปลอดภัย โดยมีบรรดาคุณพ่อคุณลุงคุณตาคุณปู่และพี่ๆ ปักหลักอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนเพื่อเข้าร่วมขบวนการต่อสู้ขับไล่ทหารรัสเซียผู้รุกราน พวกเขาเดินทางด้วยรถไฟ รถบัส และรถยนต์ ตลอดจนเดินเท้าหลายสิบไมล์ไปยังจุดข้ามแดนต่างๆ
ที่ชายแดนโปแลนด์-ยูเครน ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทมิตรสหายของผู้ลี้ภัยยูเครนที่อาศัยอยู่ในโปแลนด์ มารอต้อนรับและช่วยเหลือพาไปยังศูนย์แรกรับผู้อพยพ ทั้งนี้ ในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา โปแลนด์มีชาวยูเครนราว 2 ล้านรายอพยพย้ายถิ่นเข้าไปทำงานและสร้างครอบครัว นับจากวิกฤตการณ์ไครเมียที่รัสเซียบุกยูเครนครั้งแรกในปี 2014 และส่งผลเป็นการผนวกดินแดนไครเมีย โดยยังไม่ต้องพูดถึงปัญหามากมายภายในยูเครนเอง โดยเฉพาะการทุจริตคอร์รัปชั่น
บนเส้นทางสู่ชายแดนยูเครน-มอลโดวา ภาพที่ได้เห็นกันก็ละม้ายชายแดนยูเครนกับประเทศต่างๆ คือรถยนต์จำนวนมหาศาลต่อแถวแนวยาวเหยียด รอเวลาที่จะเคลื่อนผ่านจุดข้ามแดนมายากี-อูด็อบเน หลายๆ คนเลือกที่จะเดินลากกระเป๋าไปตามทาง โดยมีเครื่องกันหนาวพะรุงพะรัง ทั้งเสื้อโค้ตตัวหนา ถุงมือและหมวกให้ความอบอุ่น บางคนจูงน้องหมาร่วมเดินไปด้วยกัน และบางคนลากรถเข็นเด็กที่ใช้วางบรรดาถุงบรรจุข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ นานา
ประธานาธิบดีมอลโดวาออกไปเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้อพยพ พร้อมกับกล่าวขอบคุณอาสาสมัครที่ทุ่มเททำงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จากประเทศเพื่อนบ้าน โดยบอกว่าตนรู้สึกขอบคุณและภูมิใจในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประชาชนชาวมอลโดวา ที่ได้แสดงมนุษยธรรมช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก
สถานการณ์ความช่วยเหลือในโรมาเนียน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง เมื่อนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ใจบุญเจ้าของโรงแรมและเครือข่ายฟาสต์ฟู้ดในโรมาเนีย นามสเตฟาน มานดาชี ปรับเปลี่ยนห้องโถงจัดงานเลี้ยงของโรงแรม มาเป็นที่พักของผู้ลี้ภัยยูเครน โดยนำที่นอนหลายสิบหลังมาจัดวางให้อย่างพรักพร้อม อีกทั้งยังให้ผู้อพยพเข้าอยู่อาศัยในห้องพักแขกได้ฟรีด้วย ยิ่งกว่านั้น มีการมอบอาหารจากเครือฟาสต์ฟู้ดให้ทุกคนยังชีพวันละหนึ่งมื้อ
ในเวลาเดียวกัน ชาวโรมาเนียทั่วประเทศทั้งบุคคลทั่วไปและภาคธุรกิจได้ร่วมใจบริจาคข้าวของเครื่องใช้ ไปให้หน่วยงานของรัฐทำการจัดสรรแก่ผู้อพยพจากยูเครน
ณ สถานีรถไฟทั้งปวง จะเต็มไปด้วยภาพน่าสะเทือนใจแห่งการจากลา และการได้กลับมาพบกัน ระหว่างผู้ซึ่งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านกับสมาชิกครอบครัวที่ดิ้นรนจนพ้นออกจากยูเครนได้สำเร็จ น้ำตาแห่งความเป็นห่วงและโล่งใจเจิ่งนองใบหน้า
ที่ชายแดนเมืองซิเรตระหว่างยูเครนกับโรมาเนีย มีการจัดเต้นท์จุดนัดพบให้แก่ประชาชน ยิ่งกว่านั้น คนใจดีมากมายนำบรรดากล่องบริจาคของเล่นมาตั้งวางให้เด็กๆ เลือกหยิบเป็นของรับขวัญ
ผู้คนที่ต้องการลี้ภัยสงครามหนีออกจากความเสี่ยงที่จะถูกลูกหลงให้บาดเจ็บหรือล้มตาย ไปออกันที่สถานีรถไฟในเมืองลวิว ผู้ที่โชคดีคือผู้ที่สามารถขึ้นโดยสารรถไฟ ซึ่งจะพาไปสู่เมืองโชปบนชายแดนติดต่อกับประเทศฮังการี ส่วนคนอื่นๆ ต้องรอลุ้นกันไปว่ารถไฟขบวนใหม่จะเข้ามารับอีกทีเมื่อใด
เอพีได้บันทึกภาพชีวิตวิกฤตของเด็กๆ ตัวเล็กตัวน้อยที่ต้องทรหดอยู่ในความเสี่ยงของสงคราม ตลอดจนชะตากรรมของผู้คนมากกว่า 1,200,000 ที่รีบเร่งโกลาหลเพื่อจะวิ่งไปสู่เสรีภาพ ในวันเวลาที่ถูกสถานการณ์บีบเค้นเพราะประเทศบ้านเกิดเมืองนอนถูกรัสเซียรุกราน
นำเสนอให้ชมพร้อมคำบรรยายรวม 25 ภาพ
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เอพี)