ยูเครนในวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) ตกลงเจรจากับรัสเซีย หลังความขัดแย้งล่วงเลยมา 4 วัน ในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย สั่งบรรดาผู้บัญชาการด้านกลาโหมให้กองกำลังป้องปรามทางนิวเคลียร์ของรัสเซียเตรียมพร้อมในระดับสูง ส่วนหลายชาติยุโรปสัญญาจะจัดหาอาวุธให้เคียฟเพิ่มเติม พร้อมกับแบนสายการบินต่างๆ ของรัสเซีย แต่เน้นย้ำจุดยืนว่าจะไม่แทรกแซงทางทหาร
ความขัดแย้งนี้คร่าชีวิตพลเรือนไปแล้วหลายสิบคน บีบให้อีกแสนคนต้องอพยพหลบหนีและเปลี่ยนมอสโกเป็นคนนอกคอกของโลก รายงานของเอเอฟพีระบุ
ทำเนียบประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ระบุว่า คณะผู้แทนของยูเครนจะพบปะกับคณะผู้แทนของรัสเซีย ตามแนวชายแดนติดกับเบลารุส ประเทศที่เปิดทางให้ทหารรัสเซียใช้เป็นทางผ่านโจมตียูเครน โดยการพบปะกันครั้งนี้กำหนดจัดขึ้นใกล้กับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิล ที่ตั้งของหายนะทางนิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก
"พวกนักการเมืองเห็นพ้องว่าคณะผู้แทนของยูเครนจะพบปะรัสเซียโดยไม่มีการวางเงื่อนไขล่วงหน้า" ทำเนียบประธานาบดีเซเลนสกี กล่าวในถ้อยแถลง หลังผู้นำรายนี้พูดคุยกับอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส
ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวก่อนหน้าการติดต่อประสานกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างสองฝ่ายนับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้น ยืนยันว่ามันเป็นการเจรจาที่ไม่มีการวางข้อแม้ล่วงหน้า "เราจะไม่ยอมจำนน เราจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว" ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกี แสดงความเคลือบแคลงต่อผลลัพธ์การประชุมดังกล่าว "อย่างที่ผมพูดมาตลอด ผมไม่เชื่อจริงจังในผลลัพธ์การประชุมนี้ แต่ปล่อยให้พวกเขาลองพยายามดู"
กองกำลังยูเครนเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาสู้รบปัดเป่าการรุกรานจากรัสเซีย ที่พยายามรุกเข้าสู่คาร์คิฟ เมืองใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของยูเครน ในวันที่ 4 ของปฏิบัติการรุกรานของรัสเซีย
ในขณะที่บรรดาชาติตะวันตกเรียงแถวกันส่งอาวุธเข้าไปยังยูเครน และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงยิ่งขึ้น ปูตินมีคำสั่งให้กองกำลังป้องปรามทางนิวเคลีย์ของรัสเซียเตรียมพร้อมในระดับสูง อ้างอิงถึงมาตรการที่ไม่เป็นมิตรของตะวันตกต่อประเทศของเขา
นับตั้งแต่การรุกรานเริ่มต้นขึ้น ยูเครน รายงานมีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 198 ราย ในนั้นรวมถึงเด็ก 3 คน นับตั้งแต่การรุกรานเริ่มต้นขึ้น ส่วนสหประชาชาติระบุตัวเลขพลเรือนเสียชีวิตอยู่ที่ 64 ราย
"เมื่อคืนที่ผ่านมาในยูเครนมันโหดร้ายมาก" เซเลนสกีกล่าว "พวกเขาสู้กับทุกคน พวกเขาสู้กับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด จัดการกับโรงเรียนอนุบาล กับอาคารที่พักอาศัยและแม้กระทั่งกับรถฉุกเฉิน"
ขณะเดียวกัน หลายประเทศในยุโรปในวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) ได้แบนสายการบินต่างๆ ของรัสเซียไม่ให้ใช้น่านฟ้าของพวกเขา และหลายชาติสัญญาจะมอบอาวุธให้ยูเครน แต่แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าจะไม่แทรกแซงทางทหาร
หนึ่งวันหลังจากเบอร์ลินเผยว่าจะส่งอาวุธต่อต้านรถถังและขีปนาวุธสตริงเกอร์ให้แก่ยูเครน นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี ระบุโลกกำลังอยู่ใน "ยุคใหม่" และเตือนจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม
เสียงปืนกลและระเบิดดังกึกก้องในเมืองคาร์คิฟก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) และต่อมาสำนักข่าวเอเอฟพีพบเห็นควันพวยพุ่งขึ้นจากยานยนต์หุ้มเกราะของรัสเซียคันหนึ่งและอีกหลายคันถูกทิ้งไว้ "คาร์คิฟยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเราโดยสมบูรณ์" โอเลก ไชนีกูบอฟ หัวหน้าองค์การบริหารเขตระบุ พร้อมกล่าวว่ากองทัพกำลังขับไล่กองกำลังรัสเซียระหว่างปฏิบัติการกวาดล้าง
มอสโกอ้างว่าพวกเขากำลังยึดเมืองเคอร์ซอน ทางใต้ของยูเครน และเมืองเบอร์เดียนสค์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทั้ง 2 เมืองอยู่ใกล้กับแหลมไครเมีย ที่ทางรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014
เจ้าหน้าที่ยูเครนบอกด้วยว่าท่อลำเลียงก๊าซแห่งหนึ่งในเมืองคาร์คิฟ ทางภาคตะวันอก และคลังน้ำมันใกล้กรุงเคียฟ ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของรัสเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา
ยูเครนอ้างว่าพวกเขากำลังสู้รบขับไล่กองกำลังรัสเซียในจุดอื่นๆ อีกหลายจุด และบอกว่ามีทหารรัสเซียเสียชีวิตแล้วถึง 4,300 นาย แต่ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง
ในกรุงเคียฟ ชาวบ้านจำนวนมากต้องพักค้างคืนที่สถานหลบภัยหรือไม่ก็ห้องใต้ดินต่ออีกคืน ในขณะที่กองกำลังยูเครนบอกว่าพวกเขากำลังสู้รบกับกลุ่มก่อวินาศกรรมรัสเซีย แต่ในวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) สถานการณ์ค่อนข้างสงบหากเทียบกับช่วงหลายวันที่ผ่านมา
วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ประกาศขยายระยะเวลาการบังคับใช้คำสั่งเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 17.00 น. จนถึง 08.00 น.ของอีกวัน โดยให้มีผลตั้งแต่ช่วงค่ำของวันเสาร์ (26 ก.พ.) จนถึงช่วงเช้าของวันจันทร์ (28 ก.พ.) จากเดิมที่เคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 22.00-07.00 น. โดยระบุว่าบุคคลใดก็ตามที่พบอยู่นอกเคหสถานจะถือว่าเป็นสมาชิกกลุ่มก่อวินาศกรรมของรัสเซีย
รัสเซียสั่งให้กองกำลังของพวกเขารุกคืบเข้าสู่ยูเครนจาก "ทุกทิศทาง" แต่ทหารต้องเจอกับการต่อต้านอย่างดุเดือดจากทหารยูเครน และแหล่งข่าวตะวันตกระบุว่าการต้านทานอย่างดุเดือดนี้ ดูเหมือนจะสร้างความประหลาดใจแก่มอสโกเป็นอย่างมาก
กองทัพยูเครนบอกว่าพวกเขายึดหยัดต่อต้านการจู่โจมกรุงเคียฟได้ แต่ที่ต้องประกาศเคอร์ฟิวก็เพื่อสู้รบกับกลุ่มก่อวินาศกรรมของรัสเซียที่แทรกซึมเข้ามา
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ เปิดเผยว่า ได้ส่งกองกำลังตอบโต้ของนาโต้ หรือเอ็นอาร์เอฟ (NRF) กองกำลังเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งประกอบด้วย กองกำลังภาคพื้นดิน อากาศและทะเล เข้าไปในยุโรปตะวันออก เพื่อให้การสนับสนุนและสร้างความอุ่นใจแก่ชาติพันธมิตรทางตะวันออก
(ที่มา : เอเอฟพี)