xs
xsm
sm
md
lg

จีนหนุนมอสโกชัดขึ้น ออกมาค้านการแซงก์ชัน แถมบอกสหรัฐฯคือตัวปั่นป่วนวิกฤต ด้าน‘ปูติน’ห้าว ระบุ‘ผลประโยชน์รัสเซีย’ต่อรองไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หัว ชุนอิง ขณะยกมือให้ผู้สื่อข่าวถามคำถาม ระหว่างการแถลงข่าวที่กระทรวงในกรุงปักกิ่งวันพุธ (23 ก.พ.)  ทั้งนี้ในวันดังกล่าว จีนกล่าวหาสหรัฐฯว่า กำลังสร้างความหวาดกลัวและความตื่นตระหนกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครน
จีนเปิดหน้าหนุนมอสโกอย่างเปิดเผยมากขึ้น โดยโต้แย้งว่าการลงโทษคว่ำบาตรไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา พร้อมกล่าวหาอเมริกากระตุ้นให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้นด้วยการส่งอาวุธให้เคียฟ อีกทั้งทำให้ผู้คนแตกตื่นกับวิกฤตยูเครน ขณะ“ปูติน” มาดห้าว ลั่นผลประโยชน์ของรัสเซียไม่ใช่สิ่งที่จะมาต่อรองกันได้ หลังสภาสูงแดนหมีขาวให้อำนาจประธานาธิบดีใช้กำลังทหารในต่างแดน เพื่อสนับสนุนพวกแบ่งแยกดินแดนในยูเครน แม้ฝ่ายตะวันตกทยอยออกมาตรการแซงก์ชันแบบยังไม่เต็มพิกัดชุดใหม่

ในวิดีโอปราศรัยที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (23 ก.พ.) เนื่องในวันพิทักษ์ปิตุภูมิของรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แสดงความยินดีและยกย่องความพร้อมรบของกองทัพรัสเซีย หลังจากส่งสัญญาณว่า มีแผนส่งกำลังทหารเข้ายูเครน

ประมุขเครมลินกล่าวว่า รัสเซียพร้อมเสมอสำหรับการเจรจาอย่างตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ การหาทางออกทางการทูตสำหรับปัญหาที่ซับซ้อนที่สุด กระนั้น ผลประโยชน์ของรัสเซียคือความปลอดภัยของประชาชนไม่ใช่สิ่งที่เจรจาต่อรองได้

การปราศรัยนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคาร (22) สภาสูงรัสเซียอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ปูตินส่ง “กองกำลังรักษาสันติภาพ” เข้าสู่เขตโดเนตสก์และเขตลูฮันสก์ในยูเครนตะวันออกที่ประกาศแยกตัวจากเคียฟ และมอสโกให้การยอมรับในฐานะรัฐเอกราช และอาจรวมถึงการส่งกำลังเข้าสู่ส่วนอื่นๆ ของยูเครนในอนาคต

สภาสูงรัสเซียยังอนุมัติรับรองการที่ ปูติน ประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต รวมทั้งการทำสนธิสัญญามิตรภาพกับทั้งสองเขตดังกล่าว ซึ่งควบคุมโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียที่แยกตัวจากยูเครนมาตั้งแต่ปี 2014 ท่ามกลางความขัดแย้งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 14,000 คนแล้ว

มอสโกยังประกาศเตรียมอพยพเจ้าหน้าที่การทูตของตนออกจากยูเครนโดยเร็ว เพื่อปกป้องชีวิตของเจ้าหน้าที่เหล่านั้น

ในคืนวันอังคาร ปูตินได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว โดยเขาระบุเงื่อนไขที่จะต้องมีการปฏิบัติเพื่อการลดอุณหภูมิความตึงเครียด เป็นต้นว่า ยูเครนที่ปัจจุบันครองอำนาจโดยรัฐบาลโปรตะวันตกสุดตัว ต้องยกเลิกความตั้งใจเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) และต้องรักษาความเป็นกลาง

ผู้นำรัสเซียสำทับว่า ข้อตกลงสันติภาพเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว และย้ำว่า การประจำการของทหารรัสเซียจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภาคพื้นดินที่เฉพาะเจาะจง

สมาชิกกองกำลังอาวุธของยูเครน เดินไปตามสนามเพลาะ บริเวณที่มั่นตรงแนวหน้าใกล้ๆ กับเมืองโนโวลูฮันสเก ในเขตโดเน็ตสก์ ส่วนที่ยังอยู่ในการควบคุมของรัฐบาลยูเครน เมื่อวันอังคาร (22 ก.พ.)
สำหรับทางฝ่ายตะวันตก ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร ประกาศมาตรการแซงก์ชัน “ระลอกแรก” ของสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมขั้นตอนต่างๆ เพื่อปิดกั้นการระดมทุนของรัสเซียในตลาดการเงินของอเมริกา อีกทั้งพุ่งเป้าเล่นงานสถาบันการเงินรายสำคัญและชนชั้นนำของแดนหมีขาว โดยระบุว่านี่เป็นการตอบโต้ที่รัสเซีย “เริ่ม” บุกรุกรานยูเครน แต่สำทับว่า ยังมีเวลาสำหรับความพยายามทางการทูตครั้งสุดท้ายเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม

ด้านญี่ปุ่นและออสเตรเลียก็ประกาศตอนเช้าวันพุธ แซงก์ชันรัสเซียเช่นเดียวกัน โดยพุ่งเป้าที่บุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับการบุกยูเครน

การประกาศของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากอังกฤษและสหภาพยุโรป ออกมาตรการแซงก์ชันภายหลังปูตินยอมรับโดเนตสก์และลูฮันสก์เป็นรัฐอิสระเมื่อวันจันทร์ (21)

ความเคลื่อนไหวที่ถูกจับตามาก ได้แก่การเข้าร่วมวงของเยอรมนี โดยมีการประกาศระงับการพิจารณารับรองโครงการสายท่อส่งแก๊ส “นอร์ดสตรีม 2” ซึ่งสร้างเสร็จแล้ว และหากสามารถเดินหน้าได้ก็จะทำให้มีการส่งแก๊สรัสเซียมายังเยอรมนีเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

อนาโตลี แอนโทนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน ออกมาแถลงตอบโต้ว่า การแซงก์ชันที่นำโดยสหรัฐฯเหล่านี้ จะทำร้ายตลาดการเงินและตลาดพลังงานโลก รวมทั้งคนอเมริกันจะรับรู้ผลลัพธ์จากราคาสินค้าที่แพงขึ้น

ปฏิกิริยาของชาติใหญ่อีกรายหนึ่ง ซึ่งเป็นที่จับตามองกันมากเช่นกัน ได้แก่จีน โดยปรากฏว่า ระหว่างการแถลงข่าวตามปกติเมื่อวันพุธ หัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน พูดแบบแก้ต่างให้มอสโก โดยกล่าวว่ามาตรการแซงก์ชันไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายพยายามแก้ไขวิกฤตด้วยการเจรจา ให้ความสำคัญกับความกังวลด้านความมั่นคงโดยชอบธรรมของกันและกัน และร่วมกันรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

หัวยังกล่าวหาว่า อเมริกากระตุ้นให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้นด้วยการส่งอาวุธให้เคียฟแต่กลับโยนบาปให้ประเทศอื่น ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไร้ศีลธรรมและไร้ความรับผิดชอบ อีกทั้งทำให้ผู้คนแตกตื่นกับวิกฤตยูเครน


เวลานี้ถึงแม้แผนการขั้นต่อไปของปูตินจะเป็นอย่างไร ยังคงไม่ชัดเจน ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่ตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐฯกับอังกฤษ โหมกระพือคำเตือนมาหลายสัปดาห์แล้วว่า ผู้นำรัสเซียกำลังเตรียมบุกยูเครนเต็มรูปแบบ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดสงครามทำลายล้างในยุโรป ขณะที่บางฝ่ายวิเคราะห์ว่า มอสโกคงบุกตีพื้นที่ส่วนที่ยังเหลืออยู่ของดินแดนดอนบาสส์ รวมทั้งอาจรุกคืบต่อไปจนถึงแม่น้ำดนีเปอร์ ซึ่งเป็นแม่น้ำใหญ่ที่ไหลผ่ากลางประเทศยูเครน

คณะบริหารของไบเดนนั้นส่งสัญญาณว่า ไม่เชื่ออีกต่อไปว่า รัสเซียจริงจังกับการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง โดยแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา ประกาศยกเลิกการพบกับเซียร์เก ราฟลอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียที่กำหนดไว้ในวันพฤหัสฯ (24)

ด้านเจนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวว่า นาโตมีข้อบ่งชี้ทุกอย่างว่า มอสโกยังคงเดินหน้าแผนการโจมตียูเครนเต็มรูปแบบ

ขณะที่ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน เข้าพบไบเดนเพื่อขอความช่วยเหลือด้านการทหารเพิ่ม นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวว่า วอชิงตันจะยังคงจัดหาอาวุธ “ป้องกัน” ให้ยูเครน ตลอดจนส่งทหารไปเพิ่มในชาติพันธมิตรนาโต้ทางยุโรปตะวันออก

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี, เอเจนซีส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น