ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เปิดการแถลงข่าวทางโทรทัศน์เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (22 ก.พ.) โดยประณามรัสเซียว่าบ่อนทำลายกระบวนการสร้างสันติภาพ พร้อมประกาศกร้าวว่ายูเครนจะไม่ยอมอ่อนข้อยกดินแดนส่วนไหนให้แก่มอสโกอีก
ถ้อยแถลงของผู้นำยูเครนมีขึ้น หลังจากที่รัสเซียประกาศรับรองเอกราชของ 2 แคว้นกบฏในยูเครนตะวันออก และส่งทหารเข้าไปปฏิบัติภารกิจในฐานะ “กองกำลังรักษาสันติภาพ” ซึ่งถือเป็นตัวเร่งวิกฤตที่โลกตะวันตกเกรงว่าจะนำไปสู่สงครามเต็มขั้น
เซเลนสกี กล่าวหารัสเซียว่าละเมิดอธิปไตยของยูเครน และความเคลื่อนไหวล่าสุดอาจหมายความว่ามอสโกต้องการฉีก “ข้อตกลงกรุงมินสก์” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยุติการสู้รบระหว่างกองทัพยูเครนกับกบฏโปรรัสเซียในภาคตะวันออก
เซเลนสกี ยืนยันว่า ประเทศของเขาต้องการคลี่คลายวิกฤตการณ์ครั้งนี้ด้วยการทูต แต่หากจำเป็นก็พร้อมที่จะสู้อย่างยืดเยื้อ
“เรามุ่งมั่นที่จะใช้แนวทางการทูตและการเจรจาอย่างสันติ เราจะยังคงยึดมั่นแนวทางนี้ต่อไป” ผู้นำยูเครนกล่าว “แต่นี่คือแผ่นดินของเรา เราไม่กลัวใครหรืออะไรทั้งนั้น เราไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณใคร และเราจะไม่ยอมยกสิ่งใดให้ใครเด็ดขาด”
เซเลนสกี ยังเรียกร้องให้มีการจัดประชุมซัมมิตฉุกเฉินระหว่างผู้นำยูเครน รัสเซีย เยอรมนี และฝรั่งเศส ขณะเดียวกัน ขอให้บรรดาชาติพันธมิตรทั้งหลายมีบทลงโทษต่อรัสเซีย
แหล่งข่าวในพื้นที่บอกกับรอยเตอร์ว่า เห็นกองกำลังรัสเซียขนอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปยังโดเนตสค์ (Donetsk) หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน มีคำสั่งให้กระทรวงกลาโหมรัสเซียส่งทหารเข้าไปยัง 2 แคว้นกบฏในยูเครนตะวันออกเพื่อรักษาสันติภาพ
การกระทำของรัสเซียคราวนี้เรียกเสียงประณามจากทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งประสานเสียงขู่ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรตอบโต้ แต่ยังไม่ชัดเจนเสียทีเดียวว่า ฝ่ายตะวันตกจะถือว่าปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย ณ ขณะนี้เป็น “การรุกราน” ยูเครนอย่างเต็มรูปแบบแล้วหรือยัง? เนื่องจากในทางปฏิบัติแคว้นทั้งสองอยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏแบ่งแย่งดินแดนและมอสโกอยู่แล้ว
รัฐบาลยูเครนแสดงความไม่พอใจที่ชาติตะวันตกทำเป็นลังเลไม่ยอมสั่งคว่ำบาตรรัสเซียแต่เนิ่นๆ หลังจากที่ ปูติน ส่งทหารกว่า 100,000 นายมาประชิดพรมแดนยูเครนนานหลายสัปดาห์แล้ว
“เราคาดหวังมาตรการสนับสนุนที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพจากหุ้นส่วนทั้งหลาย” เซเลนสกี กล่าว
“มันสำคัญมากที่จะได้เห็นว่า ใครคือมิตรแท้และหุ้นส่วน และใครที่เอาแต่ข่มขู่รัสเซียด้วยวาจาเท่านั้น”
ที่มา : รอยเตอร์