เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสัน วันนี้ (20 ก.พ.) ออกแถลงโจมตีเหตุเรือพิฆาตติดมิสไซล์นำวิถีของจีน ล่าสุด เล็งแสงเลเซอร์ไปที่เครื่องบิน RAAF ของกองทัพอากาศออสเตรเลีย ระหว่างเรือพิฆาตกำลังแล่นผ่านเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลออสเตรเลีย โดยผู้นำออสซีชี้เป็นพฤติกรรมคุกคาม
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (20 ก.พ.) ว่า นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสัน ในวันอาทิตย์ (20) ประณามสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา อ้างอิงวันที่จากเดลีเมล สื่ออังกฤษว่า เป็นพฤติกรรมการคุกคาม โดยเรือพิฆาตติดมิสไซล์นำวิถีของจีนกำลังแล่นผ่านเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลออสเตรเลียในทะเลอาราฟูรา (Arafura) ได้เล็งเป้าด้วยแสงเลเซอร์ไปที่เครื่องบิน RAAF รุ่น P8 โพไซดอน (P8 Poseidon) ซึ่งเป็นเครื่องบินสอดแนมและต่อต้านเรือดำน้ำของกองทัพอากาศออสเตรเลีย
ผู้นำออสเตรเลียกล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการกระทำที่ไม่รอบคอบ และไร้ความรับผิดชอบที่ไม่สมควรที่จะเกิดขึ้น และเขายังกล่าวต่อว่า ออสเตรเลียจะแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของตัวเองต่อรัฐบาลปักกิ่งผ่านช่องทางการทหารและการทูต และมอร์ริสันกล่าวอีกว่า
"จีนจำเป็นต้องให้คำอธิบายว่าเหตุใดเรือกองทัพจีนที่อยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลจึงแสดงพฤติกรรมเช่นนั้นที่เป็นอันตราย"
และกล่าวต่อไปว่า "ผมไม่เห็นสิ่งอื่นนอกไปจากเป็นการกระทำคุกคาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมีเหตุอื่นขึ้นมาก่อน ไม่ต้องมีหลักประกัน"
หนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮอรัลด์รายงานในวันเสาร์ (19) ว่า กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียชี้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลางทะเลอาราฟูราเมื่อวันพฤหัสบดี (17) นี้คุกคามต่อชีวิตเจ้าหน้าที่กองทัพออสเตรเลีย 10 นาย ซึ่งเหตุเกิดขึ้นในเวลาราวเที่ยงคืนสามสิบห้าของวันนั้น (17) มีเรือรบกองทัพจีนจำนวน 2 ลำ โดยหนึ่งในนั้นเป็นเรือพิฆาตจีนชั้นลู่หยาง (Luyang) ที่ติดมิสไซล์นำวิถีแบบภาคพื้นสู่อากาศ ปืน และตอร์ปิโดต่อต้านเรือดำน้ำได้ล็อกเป้ายิงแสงเลเซอร์ไปที่เครื่องบิน RAAF ระหว่างที่เรือกำลังวิ่งผ่านทะเลอาราฟูรา ซึ่งเป็นทะเลตั้งระหว่างเขตนอร์ทเทิร์นเทอร์ริทอรีย์ของออสเตรเลีย (New Guinea) และหมู่เกาะนิวกินี (New Guinea) ของออสเตรเลียที่ด้านเหนือของทวีปออสเตรเลีย
ขณะที่เรือกองทัพจีนอีกลำที่แล่นคู่เป็นเรือลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบก สื่อออสเตรเลียกล่าวว่า เรือทั้ง 2 ลำมีสมรรถนะการสอดแนมหาข่าวระดับสูง ซึ่งแสงเลเซอร์ระดับการทหารนั้นสามารถทำให้นักบินตาบอดเพื่อต้องการขัดขวาง หรือทำลายอุปกรณ์เครื่องมือบนเครื่องบินได้
ภาพช่วงเวลาที่มีการล็อกเป้าเครื่องบินด้วยแสงเลเซอร์ไปที่เครื่องบิน RAAF ถูกถ่ายไว้ได้โดยเรือกองทัพออสเตรเลีย HMAS Arunta ซึ่งเป็นเรือฟริเกตชั้นอันซัค (Anzac) ของออสเตรเลีย ถือเป็นเรือระยะไกลที่มีความสามารถในการต่อต้านทางอากาศ เหนือผิวน้ำ และใต้น้ำ และสอดแนมไปในตัวได้ดีเยี่ยม
กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียออกแถลงการณ์ประณามจีนในค่ำวันเสาร์ (19) ระบุว่า "ทางกระทรวงตรวจพบว่ามีแสงเลเซอร์ฉายไปที่เครื่องบินระหว่างกำลังบินมุ่งหน้าทางเหนือของออสเตรเลีย"
และเสริมต่อว่า "เลเซอร์ที่ถูกตรวจพบนั้นมีต้นกำเนิดมาจากเรือกองทัพจีน ซึ่งการฉายไปที่เครื่องบินจากการกระทำของเรือกองทัพจีนนั้นถือเป็นเหตุความปลอดภัยขั้นร้ายแรง การกระทำเช่นนี้ส่งผลทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต"
และในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า "เราขอประณามถึงการกระทำที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ และไม่ปลอดภัยทางทหาร (เพราะ) สิ่งเหล่านี้สามารถทำอันตรายต่อความปลอดภัยและชีวิตของเจ้าหน้าที่ ADF"
และกล่าวต่อว่า "การกระทำเช่นนี้ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่เราคาดหวังตามมาตรฐานทางการทหาร เรืออีกลำที่มาพร้อมกับเรือรบกองทัพเรือจีนได้แล่นไปทางทิศตะวันออกผ่านทะเลอาราฟูราในช่วงที่เกิดเหตุ"
ซิดนีย์มอร์นิงเฮอรัลด์รายงานต่อว่า แต่อย่างไรในท้ายที่สุดพบว่าเรือกองทัพจีน 2 ลำถูกเรือกองทัพออสเตรเลีย HMAS Launceston แล่นประกบระหว่างที่เรือกองทัพจีนกำลังแล่นผ่านช่องแคบตอร์เรส (Torres Strait) เข้าสู่ทะเลคอเรล (Coral Sea)
สื่อออสเตรเลียรายงานว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กองทัพจีนใช้อาวุธแสงเลเซอร์ของตัวเองส่องไปที่เป้าหมายซึ่งเป็นเครื่องบินรบของชาติอื่น
