เอเอฟพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุฝนตกหนักในรอบ 90 ปีจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ขึ้นในเมืองเปโตรโปลิส รัฐรีโอเดจาเนโร บราซิล เพิ่มเป็น 104 คนในวันนี้ (17 ก.พ.) และยังคงสูญหาย 35 ราย เร่งระดมทั้งรถตัก เฮลิคอปเตอร์ และสุนัขดมกลิ่นตามหาเหยื่อ สุดดีใจช่วยออกมาได้ในสภาพมีชีวิต 24 คน ผู้คนต่างกล่าวขวัญสภาพเมืองเก่าแก่ตากอากาศตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 มีสภาพไม่ต่างจากเขตสงคราม
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (17 ก.พ.) ว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างพยายามทำงานแข่งเวลาเพื่อค้นหาผู้อาจจะรอดชีวิตท่ามกลางกองทัพโคลนและซากปรักหักพังหลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มขึ้นในเมืองเปโตรโปลิส (Petropolis) ที่อยู่บนเนินเขาทางเหนือใกล้กับเมืองรีโอเดจาเนโรของบราซิล
ถนนสายต่างๆ เปลี่ยนเป็นแม่น้ำที่เชี่ยวกรากพัดพาบ้านเรือนไประหว่างเกิดฝนตกหนักราว 25.8 เซนติเมตร เป็นเวลาร่วม 3 ชั่วโมงในวันอังคาร (15) เกือบมากเท่ากับจำนวนฝนตกลงมาตลอดทั้งเดือนมกราคมทีเดียว และไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นชาวเมืองต่างพากันขุดค้นหาบุคคลอันเป็นที่รัก ยูโรนิวส์รายงาน
เปโตรโปลิสเป็นชื่อที่ถูกตั้งตามจักรพรรดิแห่งบราซิล โดยชื่อเมืองถูกตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดิเปดรูที่ 2 แห่งบราซิล ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจักรวรรดิบราซิลซึ่งถูกฝังไว้ที่นั่น ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งอัลกันตารา และเมืองนี้เป็นที่ประทับฤดูร้อนของจักรพรรดิและขุนนางบราซิลในศตวรรษที่ 19 และเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการของรัฐรีโอเดจาเนโรในช่วงสาธารณรัฐบราซิลที่หนึ่ง ระหว่างปี พ.ศ.2437 ถึง พ.ศ.2445
เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต่างพยายามเร่งมือค้นหาในบ้านเรือนประชาชนที่พังเสียหายเนื่องมาจากบางส่วนถูกพัดพาไปกับกระแสน้ำโคลนที่มีเป็นจำนวนมากตั้งอยู่ในย่านชุมชนแออัดบนเนินเขา
ซึ่งรัฐบาลประจำรัฐออกมาแถลงว่ามีเหยื่อภัยพิบัติที่ถูกช่วยออกมาได้ล่าสุด 24 คน
เจ้าหน้าที่บราซิลระดมทรัพยากรทั้งหมดได้แก่ สุนัขดมกลิ่น รถตัก เฮลิคอปเตอร์ และทีมกู้ภัยเพื่อระดมค้นหาผู้สูญหายโดยสำนักงานอัยการรีโอเดจาเนโรแถลงว่ายังคงมีตัวเลขผู้สูญหายอยู่อีก 35 คน
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีผู้ประสบภัย 300 คนอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในโรงเรียน และเจ้าหน้าที่ยังประกาศต่อสาธารณะเพื่อขอบริจาคฟูกที่นอน อาหาร น้ำ เสื้อผ้า และหน้ากากอนามัยสำหรับผู้ประสบภัยเหล่านี้
ด้านผู้ว่าการรัฐรีโอเดจาเนโร คลอดิโอ คาสโตร (Claudio Castro) ที่มาเยือนจุดที่เกิดเหตุกล่าวว่า "มันดูเหมือนฉากในสงคราม มันดูน่าเหลือเชื่้อ" และเขากล่าวว่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักนี้มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1932 ทีเดียว
ยูโรนิวส์ชี้ว่า คาสโตรยืนยันว่าไม่มีใครสามารถทำนายได้ว่าจะเกิดฝนตกหนักเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางสภาพอากาศบราซิลชี้ว่า จะมีฝนตกลงมาเพิ่มขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์นี้
ภาพที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่ากระแสน้ำท่วมได้พัดพาบ้านเรือนและรถยนต์ผ่านไปตามถนนในเมือง มีวิดีโอคลิปชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นรถบัส 2 คันกำลังจมอยู่ในแม่น้ำที่เอ่อล้น ขณะที่ผู้โดยสารด้านในพยายามที่จะหนีออกมาทางหน้าต่างรถ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ามีบางส่วนไม่สามารถว่ายไปจนถึงฝั่งได้แต่ถูกกระแสน้ำพัดหายไปต่อหน้าต่อตา
