แม็กนุส ฮูนิเก รัฐมนตรีสาธารณสุขเดนมาร์ก เปิดเผยเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ว่าสายพันธุ์ย่อยของตัวกลายพันธุ์โอมิครอนในเดนมาร์ก ที่เรียกว่า BA.2 แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม BA.1 ราว 1.5 เท่า แม้ปัจจุบัน BA.1 ยังเป็นสายพันธุ์หลักของโลก คิดเป็นสัดส่วน 98% ของเคสผู้ติดเชื้อ
"ไม่พบหลักฐานว่าตัวกลายพันธุ์ BA.2 ก่อโรครุนแรงกว่า แต่มันต้องแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าแน่ๆ" ฮูนิเก กล่าวระหว่างแถลงข่าว
สถาบันสเตเทนส์ เซรุ่ม (Statens Serum Institut: SSI) หน่วยงานด้านโรคติดเชื้อระดับต้นๆ ของเดนมาร์ก คาดคะเนว่าสายพันธุ์ย่อยโควิด BA.2 น่าจะแพร่เชื้อได้ง่ายกว่า BA.1 ราวๆ 1.5 เท่า
"มีข้อบ่งชี้บางอย่างว่ามันแพร่เชื้อได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะสำหรับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน แต่มันสามารถแพร่เชื้อคนที่ฉีดวัคซีนในขอบเขตที่กว้างขวางกว่าเดิม" ไทรา โกรฟ เคราส์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ SSI ระบุ
เธอเน้นว่าผลลัพธ์กรณีนี้คือ ระลอกการแพร่ระบาดในปัจจุบันน่าจะขยายออกไปถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ นานกว่าที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากเดนมาร์กแล้ว สายพันธุ์ย่อย BA.2 ยังถูกพบในสหราชอาณาจักร สวีเดน และนอร์เวย์ แต่มีอัตราความชุกของโรคน้อยกว่ามากในประเทศเหล่านี้
สำนักงานความมั่นคงทางสุขภาพสหราชอาณาจักร ขึ้นบัญชีตัวกลายพันธุ์ BA.2 ในฐานะสายพันธุ์ที่อยู่ภายใต้การสืบสวน แม้ผลการวิเคราะห์ในเบื้องต้นบ่งชี้ว่ามันไม่น่าจะก่ออาการเจ็บป่วยรุนแรงถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลมากไปกว่า BA.1
(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)
