แทนที่จะขโมยสินค้าตามห้างร้านต่างๆ แต่คนร้ายบางส่วนในสหรัฐฯ ได้เล็งเป้าหมายอื่นๆ นั่นก็คือ ขบวนรถไฟและรถบรรทุกสินค้าที่เต็มไปด้วยพัสดุ ซึ่งกำลังนำส่งมอบไปยังลูกค้าทั้งหลายทั่วประเทศ
คาโรล ทอม ซีอีโอของยูพีเอส บริษัทขนส่งและโลจิสติกส์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (14 ม.ค.) ว่า รถบรรทุก 18 ล้อคันหนึ่งของทางบริษัทถูกชิงไปในแอตแลนตาในช่วงเช้าตรู่ และบอกว่าพวกหัวขโมยปล้นรถบรรทุกคันดังกล่าว หลังจากมันเดินทางออกจากศูนย์กระจายสินค้าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของบริษัท
"คนขับหยุดรถหลังถูกเอาปืนจี้ เขาถูกมัดและโยนขึ้นไปบริเวณท้ายรถบรรทุกสินค้าของเขา และพวกคนร้ายก็ฉวยพัสดุมากมายไป" เธอให้สัมภาณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี ขณะที่สำนักข่าวเอ็นบีซีรายงานว่า เหตุการณ์ปล้นชิงสินค้าและพัสดุครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนธันวาคม
ในย่านกลางเมืองแอตแลนตา วิดีโอหนึ่งซึ่งเผยแพร่โดยสถานีโทรทศน์ท้องถิ่นเครือข่ายของซีบีเอส เป็นภาพที่กล่องพัสดุที่ถูกปล้นสะดม โดนฉีกแกะกระจัดกระจายทั่วรางรถไฟ หลังจากพวกหัวขโมยจู่โจมตู้สินค้าและทิ้งไว้เพียงลังกระดาษที่บรรจุสินค้าที่สั่งซื้อผ่านแอมะซอน และ REI ในนั้นบางส่วนมีตราประทับของยูพีเอสและหมายเลขติดตามพัสดุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล่องพัสดุเหล่านี้บรรจุสินค้าต่างๆ ไล่ตั้งแต่ชุดตรวจโควิดที่ยังไม่ได้ใช้และเหยื่อตกปลา ไปจนถึงเข็มฉีดยาแบบสปริง
รายงานข่าวจากเอ็นบีซีแอลเอ ระบุว่าเหตุขโมยสินค้าตามขบวนรถไฟและรถบรรทุกขนส่งสินค้ากำลังกลายเป็นปัญหาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ปฏิบัติการขโมยและปล้นสะดมอย่างเป็นระบบนี้ได้รับความสนใจจากบรรดาบริษัทค้าปลีกหลักๆ และกลุ่มการค้าต่างๆ มากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้มักเกิดกรณีเดินเข้าไปหยิบฉวยสินค้าอย่างหน้าด้านๆ ตามห้างร้านต่างๆ อย่างเช่นนอร์ดสตรอม และมีความกังวลว่าพวกคนร้ายสามารถขโมยแล้วนำไปเร่ขายสินค้าทางออนไลน์โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนแต่อย่างใด
ซีอีโอของบริษัทต่างๆ อย่างเช่น ทาร์เก็ต, นีแมน มาร์คัส, ลีวาย สเตราส์ แอนด์ โค และวอลกรีนส์ ได้ส่งหนังสือถึงสภาคองเกรสเมื่อเดือนที่แล้ว เรียกร้องให้ออกกฎหมายที่ทำให้พวกอาชญากรเจองานยากขึ้นที่จะหลบซ่อนอยู่เบื้องหลังชื่อปลอม และให้ข้อมูลเท็จทางธุรกิจกับตลาดกลางออนไลน์ระหว่างคนขายกับคนซื้อ
ยูเนียน แปซิฟิก ระบุในถ้อยแถลงที่ส่งถึงสำนักข่าวซีบีเอสแอลเอ ว่า การขนส่งสินค้าทางรถไฟมีความกังวลต่อเหตุการณ์ขโมยสินค้าในแคลิฟอร์เนียที่เพิ่มมากขึ้น
"เราได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่พิเศษของยูเนียน แปซิฟิก ในการออกตรวจตรา และเราใช้และกำลังสำรวจหาเทคโนโลยีเพิ่มเติม สำหรับช่วยให้เราต่อสู้กับอาชญากรรมนี้ นอกจากนี้เรายังจะเดินหน้าทำงานร่วมกับพันธมิตรเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของเขาและพวกผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อจัดการกับประเด็นปัญหาดังกล่าว"
แอมะซอนมอบหมายการสืบสวนให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนยูพีเอสปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสืบสวนเหตุขโมยสินค้า เพียงแต่บอกว่าพวกเขากำลังให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ "ความปลอดภัยของสินค้าของลูกค้าของเราและพนักงานของเราคือความสำคัญลำดับสูงสุด" ถ้อยแถลงระบุ
(ที่มา : ซีเอ็นบีซี/เอพี)