เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) FBI แถลงชื่อระบุมือปืนบุกยึดโบสถ์ยิวในรัฐเทกซัส มาลิค ไฟซาล อากราม (Malik Faisal Akram) เป็นชาวอังกฤษนับถือศาสนาอิสลาม วัย 44 ปี จากเมืองแบล็กเบิร์น ด้านครอบครัวชี้มีประวัติอาชญากรรมและประสบปัญหาป่วยทางจิต พบบินเข้าสหรัฐฯ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเหตุบุกยึดโบสถ์รัฐเทกซัสเป็น “ก่อการร้าย”
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (16 ม.ค.) ว่า คนร้ายมือยึดโบสถ์ยิว “ที่ประชุมแห่งเบธ อิสราเอล” (Synagogue of Congregation Beth Israel) ซึ่งเกิดขึ้นนานร่วม 10 ชั่วโมงในวันเสาร์ (15) ล่าสุดในวันอาทิตย์ (16) ถูก FBI สหรัฐฯ เปิดเผยชื่อของผู้ก่อเหตุคือ มาลิค ไฟซาล อากราม (Malik Faisal Akram) ชาวอังกฤษมุสลิม วัย 44 ปี จากเมืองแบล็กเบิร์น (Blackburn) และเขาเสียชีวิตหลังจากถูกตำรวจสหรัฐฯ ทำวิสามัญในที่เกิดเหตุ
ขณะเดียวกัน ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดบุกรวบตัววัยรุ่น 2 คน ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จากเมืองแมนเชสเตอร์ และเค้นสอบปากคำเพื่อสืบหาความจริงในความเกี่ยวข้องกับคดีบุกยึดโบสถ์ยิวในสหรัฐฯ แต่ก่อนหน้า FBI ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส เชื่อว่าผู้ก่อเหตุลงมือตามลำพัง
สื่ออังกฤษรายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ระหว่างอยู่ที่คลังอาหารฟูดแบงก์ในเมืองฟิลาเดลเฟียในวันอาทิตย์ (16) แสดงความเห็นถึงเหตุบุกยึดที่ใช้เวลานานถึง 10 ชั่วโมงก่อนที่จะคลี่คาย และตัวประกันทั้งหมด 4 คนถูกช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัยว่าเป็นการกระทำ “ก่อการร้าย”
ผู้นำสหรัฐฯ ยังเปิดเผยว่า อากรามเดินทางเข้าสหรัฐฯ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า อาศัยอยู่ภายในศูนย์พักพิงคนไร้บ้านและซื้อปืนเถื่อนจากข้างถนน
ขณะเดียวกัน ครอบครัวของอากรามในอังกฤษออกมาเรียกร้องต้องการทราบเหตุผลว่าเหตุใดเขาจึงสามารถบินเข้าสหรัฐฯ ได้ทั้งๆ ที่เขามีประวัติทางอาญาติดตัว
โดยกูลบาร์ (Gulbar) พี่ชายให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ว่า “เขาเป็นที่รู้จักในหมู่ตำรวจ มีประวัติอาชญากร แต่เหตุใดเขาจึงได้วีซ่าและได้รับอนุญาตให้ซื้อปืนได้”
กูลบาร์ ยังออกแถลงการณ์ในนามของครอบครัวเมื่อคืนก่อนหน้า เปิดเผยว่า ทั้งครอบครัวหัวใจแทบแตกสลายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเปิดเผยว่ามีคนในครอบครัวติดต่อกับน้องชายระหว่างเหตุกำลังดำเนินในเวลานั้นตามคำขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ แต่การเกลี้ยกล่อมกลับไร้ผล
“ผมต้องการที่จะบอกว่าครอบครัวของพวกเราไม่เห็นด้วยต่อการกระทำใดๆ ของเขาและต้องการขออภัยอย่างจริงใจและสุดซึ้งไปยังเหยื่อทุกคนในเหตุการณ์ที่ช่างเคราะห์ร้ายนี้” กูลบาร์กล่าวผ่านแถลงการณ์
และเสริมต่อว่า “นั่งตลอดทั้งคืนภายในห้องประเมินสถานการณ์ในกรีนแบงก์ (สถานีตำรวจในเมืองแบล็กเบิร์น) จนกระทั่งรุ่งเช้าเพื่อติดต่อกับไฟซาล ทีมนักเจรจา FBI และคนอื่นๆ”
เขาเปิดเผยต่อว่า น้องชายประสบปัญหาทางจิตแต่ไม่มีหนทางที่จะหว่านล้อมมือก่อเหตุได้ แต่ผู้เป็นพี่ยังคงเชื่อมั่นว่าอากรามจะไม่มีวันทำร้ายตัวประกัน
พี่ชายมือบุกยึดโบสถ์ยิวยังได้ใช้แถลงการณ์ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อชนทุกศาสนาว่าเป็นสิ่งผิด “พวกเราต้องการขอเสริมว่า การโจมตีใดๆ ก็ตามต่อมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นในฐานะชาวยิว ชาวคริสต์ ชาวมุสลิม หรืออื่นๆ นั้นล้วนเป็นสิ่งผิดและสมควรที่ต้องได้รับการประณาม”
เดลีเมลรายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ (Liz Truss) ออกแถลงการณ์ประณามเหตุโจมตีโบสถ์ยิวรัฐเทกซัสว่า “เป็นการกระทำก่อการร้ายและการต่อต้านชาวยิวในรัฐเทกซัสที่น่ารังเกียจ” และเสริมต่อว่า “เราขอยืนเคียงข้างสหรัฐฯ ในการปกป้องสิทธิและเสรีภาพพลเมืองของพวกเราต่อใครก็ตามที่เผยแพร่ความเกลียดชัง”
ทั้งนี้ ยังเป็นสิ่งที่น่าฉงนว่าเหตุใดมือบุกยึดซึ่งมีบ้านอยู่ในแลงคาสเชอร์ (Lancashire) อังกฤษบินเข้ารัฐเทกซัส สหรัฐฯ ที่ห่างไกลออกไปถึง 4,700 ไมล์เพื่อทำตามแผนโจมตี
อากราม ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษช่วยตัวประกันของ FBI ยิงเสียชีวิตในเวลา 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันเสาร์ (15) หลังได้ประกาศข้อเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ปล่อยตัวผู้ก่อการร้ายชาวปากีสถาน “เลดี้แห่งอัลกออิดะห์” หรือ “อาเฟีย ซิดดิกี” (Aafia Siddiqui) ที่ถูกจำคุกในเรือนจำในรัฐเทกซัส