รอยเตอร์/เอพี/เอเจนซีส์ - เกาหลีเหนือยิงมิสไซล์ไม่ต่ำพิสัยใกล้จำนวนไม่ต่ำกว่า 2 ลูกในวันศุกร์ (14 ม.ค.) พบบินไกล 430 กิโลเมตรเป็นรอบที่ 3 ภายใน 2 สัปดาห์ และไม่กี่ชั่วโมงหลังส่งโฆษกกระทรวงต่างประเทศออกมาตอบโต้สหรัฐฯ เรื่องคว่ำบาตร
รอยเตอรรายงานวันนี้ (14 ม.ค.) ว่า คณะเสนาธิการร่วมกองทัพเกาหลีใต้กล่าวผ่านแถลงการณ์ในวันศุกร์ (14) ตรวจพบมิสไซล์แบบทิ้งตัวพิสัยใกล้ จำนวน 2 ลูก ถูกยิงออกมาจากจังหวัดพย็องอันเหนือ (North Pyongan) บนฝั่งตะวันตกของเกาหลีเหนือ
ด้านญี่ปุ่นรายงานเช่นกันว่าตรวจพบสิ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นจรวดมิสไซล์แบบทิ้งตัวซึ่งตกลงไปนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลของญี่ปุ่น NHK สื่อญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กลาโหมญี่ปุ่นที่ไม่เปิดเผย
ขณะที่กองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของกองทัพสหรัฐฯ แถลงว่า ได้มีการประเมินการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือของวันศุกร์ (14) นั้นไม่เป็นอันตรายต่อทั้งสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ พร้อมกันนี้ มันยังแสดงถึงผลกระทบที่สร้างความไม่สงบจากโครงการมิสไซล์ขีปนาวุธผิดกฎหมายของเกาเหลีเหนือ
ซึ่งการยิงทดสอบล่าสุดนี้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 2 สัปดาห์นับตั้งแต่วันขึ้นปีใหม่ รอยเตอร์ชี้ว่าเป็นการยิงทดสอบที่ถี่อย่างผิดปกติ โดยขีปนาวุธที่ถูกยิง 2 ครั้งก่อนหน้าเป็น "ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก" หรือขีปนาวุธเหนือเสียง อ้างอิงจากสำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือ
และต่างจากขีปนาวุธที่ยิงในวันนี้ (14) โดยขีปนาวุธ 2 ครั้งแรกก่อนหน้าถูกยิงทดสอบทีละลูกออกมาจากจังหวัดชากัง (Jagang Province) ซึ่งมีเขตติดกับจังหวัดพย็องอันเหนือ
รอยเตอร์ชี้ว่า กองทัพเกาหลีใต้รายงานว่าขีปนาวุธที่ถูกยิงในวันศุกร์เป็นมิสไซล์ทิ้งตัวแบบพิสัยใกล้บินไกล 430 กิโลเมตร และมีระดับเพดานบินสูงสุดที่ 43 กิโลเมตร
เอเอฟพี และเอพีรายงานเพิ่มเติมว่า หน่วยงานยามฝั่งญี่ปุ่นแถลงว่า สามารถตรวจจับมิสไซล์เกาหลีเหนือเมื่อเวลาราว 14.55 น.ตามเวลาท้องถิ่น และยังออกคำเตือนความปลอดภัยให้บรรดาเรือต่างๆ ที่อยู่ระหว่างคาบสมุทรเกาหลีและญี่ปุ่น รวมไปถึงทะเลจีนตะวันออกและมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือให้ติดตามฟังคำแนะนำอย่างใกล้ชิดและออกให้ห่างวัตถุที่ตกลงมาจากท้องฟ้า
การยิงมิสไซล์พิสัยใกล้ถึง 2 ลูกของเกาหลีล่าสุดเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ตอบโต้คำสั่งการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในวันพุธ (12)
เอพีชี้ว่าโฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าวผ่านแถลงการณ์ที่รายงานจากสำนักข่าวทางการ KCNA ปกป้องการทดสอบยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกว่า "เป็นความชอบธรรมในการป้องกันตัวเอง"
และโฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือยังกล่าวตอบโต้ถึงการประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือล่าสุดจากรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ว่า แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่มุ่งร้ายของวอชิงตันเพื่อต้องการให้เกาหลีเหนือถูกโดดเดี่ยวและถูกกดขี่ ถึงแม้ว่าวอชิงตันยังคงเรียกร้องนับครั้งไม่ถ้วนต้องการให้เกาหลีเหนือกลับมาคืนสู่การทูตที่ยังคงหยุดนิ่งหลังจากมีความไม่เห็นลงรอยเกี่ยวกับการผ่อนคลายการคว่ำบาตรและมาตรการปลดอาวุธนิวเคลียร์
นอกจากนี้ โฆษกเปียงยางยังกล่าวหาสหรัฐฯ ว่ายังคงจุดยืนในลักษณะเป็นแก๊งอันธพาลต่อไป พร้อมยังแก้ตัวว่าการพัฒนาอาวุธมิสไซล์ใหม่ของเกาหลีเหนือนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเปียงยางในการปรับปรุงกองทัพของตัวเองให้มีความทันสมัย และไม่มีเป้าหมายไปที่ประเทศใดเป็นการเฉพาะ หรือคุกคามความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้าน
เอเอฟพีรายงานว่า ในวันพฤหัสบดี (13) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ยังคงเรียกร้องให้เปียงยางกลับมาเจรจากับสหรัฐฯ พร้อมกับรับรองว่าสหรัฐฯ ไม่มีความตั้งใจที่จะคุกคามต่อรัฐบาลของประธานาธิบดี คิม จองอึน
ด้าน คิม ดอง-ยัพ (Kim Dong-yup) อดีตเจ้าหน้าที่กองทัพเรือเกาหลีใต้ซึ่งปัจจุบันสอนอยู่ในมหาวิทยาลัยคยุงนัม (Kyungnam University) ในกรุงโซล ประเมินว่า อาวุธมิสไซล์พิสัยสั้นของเปียงยางที่ทดสอบนั้นน่าจะเป็นรุ่น KN-23 หรือ KN-24 โดยเขากล่าวว่า
“มันเหมาะสมสำหรับการฝึกในฤดูหนาว ขณะเดียวกัน ยังเป็นการส่งข้อความไปให้สหรัฐฯ ผ่านการกระทำตามหลังแถลงการณ์ที่ออกมาจากสื่อของรัฐ”