เอเจนซีส์ - ตำรวจอินเดียอย่างน้อย 2 รัฐรับแจ้งความเอาผิดหลังถูกแอปชื่อดังแดนภารตะ Bulli Bai ขึ้นทั้งภาพส่วนตัวและชื่อของหญิงมุสลิมกว่าร้อยคน รวมไปถึงนักเคลื่อนไหวคนดัง มาลาลา ยูซาฟไซ นักแสดงหญิงชื่อดังบอลลีวูด และนักข่าวลงประมูลขายสดทางออนไลน์หวังให้เสื่อมเสียเชื่อเสียงกีดกันทางศาสนา ล่าสุด โดนปิด เกิดในประเทศอินเดียที่มีศาสนาฮินดูเป็นศาสนาหลักของประเทศ
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) ว่า นักข่าวหญิงอินเดียมุสลิม อิสมัต อารา (Ismat Ara) ได้เข้าแจ้งความทางกฎหมายต่อตำรวจในกรุงนิวเดลีวันเสาร์ (1) เพื่อเอาผิดหลังถูกแอปชื่อดังแดนภารตะ Bulli Bai อ้างชื่อเธอและภาพถ่ายเพื่อประมูลตัวเธอขายทางออนไลน์ โดยแจ้งในข้อหารังควานและดูหมิ่นหญิงมุสลิมบนโซเชียลมีเดียด้วยการใช้รูปภาพตัดต่อในทางที่ไม่เหมาะสม และมีข้อความล่อแหลม
อ้างอิงจากอัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์พบว่า เธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันปีใหม่แต่ต้องตกตะลึงที่เห็นภาพของตัวเองถูกโพสต์ขึ้นเป็นหนึ่งในรายชื่อเพื่อการประมูลทางออนไลน์
เอบีซีนิวส์ของสหรัฐฯ ชี้ว่า Bulli Bai เป็นแอปโอเพ่นซอร์ซบนเว็บไซต์ GitHub ที่มีฐานอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก สื่อแดนภารตะชื่อดัง อินเดียทูเดย์ รายงานเพิ่มเติมว่า ตำรวจกรุงนิวเดลีใช้ทวิตเตอร์เพื่อตามหาข้อมูลเกี่ยวกับคนที่โพสต์ครั้งแรกถึง Bulli Bai เพื่อล่าตัวคนที่อยู่เบื้องหลัง
แหล่งข่าวใกล้ชิดตำรวจกรุงนิวเดลีเปิดเผยว่า ในเวลานี้ทางเจ้าหน้าที่ติดต่อกับเว็บไซต์ GitHub ถึงผู้พัฒนาแอปฉาวประมูลหญิงมุสลิมทางออนไลน์
ขณะเดียวกัน ตำรวจเมืองมุมไบ รัฐมหาราษฏระ ได้ดำเนินคดีทางกฎหมายคดีที่ 2 ต่อแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ไม่กี่บัญชีและผู้พัฒนาแอป Bulli Bai หลัง สิดราห์ (Sidrah) เจ้าทุกข์รายที่ 2 ซึ่งเป็นสตรีที่เข้าแจ้งความเอาผิดหลังพบชื่อตัวเองถูกแอป Bulli Bai ประมูลขาย
รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลและเทคโนโลยีอินเดีย อัชวินี ไวชเนาว์ (Ashwini Vaishnaw) แสดงความเห็นในเรื่องนี้วันเสาร์ (1) ว่า เว็บไซต์ GitHub ได้สั่งปิดแล้วและในเวลานี้ตำรวจกำลังประสานงานกับหน่วยงานอาชญากรรมทางไซเบอร์เพื่อดำเนินการต่อไป
บีบีซีชี้ว่า มีเจ้าทุกข์อย่างน้อย 2 รายที่ดำเนินคดีเอาผิดต่อ Bulli Bai ที่ไม่ได้ต้องการถูกประมูล แต่ถูกนำชื่อขึ้นประมูลเพื่อต้องการให้เกิดความอับอายไปทั่วเนื่องมาจากพวกเธอเป็นหญิงมุสลิม
อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานเพิ่มเติมว่า แอปสุดฉาวนี้ยังได้นำรูปของคนดังต่างๆ ที่นอกเหนือจากนักข่าวจำนวนหนึ่งแล้ว ยังมีนักเคลื่อนไหวคนดังระดับโลก มาลาลา ยูซาฟไซ นักแสดงหญิงชื่อดังชนะรางวัลบอลลีวูดอินเดีย ชาบานา อัซมี (Shabana Azmi) และแม้กระทั่งเคสดัง ฟาติมะ นาฟีซ (Fatima Nafees) แม่วัย 65 ปี ของนักศึกษามหาวิทยาลัยที่หายตัวไปเมื่อปี 2016
ทั้งนี้ พบว่าแอป Bulli Bai ถูกปิดลงในวันเสาร์ (1) โดยภายในค่ำวันเดียวกันนั้นเหยื่อเจ้าทุกข์หญิงมุสลิมหลายสิบรายได้เริ่มต้นโพสต์ถึงความตกใจและโกรธแค้นของตัวเองผ่านทางโซเชียลมีเดียที่ได้เห็นทั้งรูปและรายละเอียดส่วนตัวของพวกเธอเหล่านั้นบนแอป Bulli Bai
หลังเหตุเกิดขึ้นพบว่ามีสมาชิกรัฐสภาอินเดียจำนวนหนึ่งออกมากดดันรัฐบาลนิวเดลีเพื่อเดินหน้าในเรื่องนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ปรียานกา ชาตูร์เวดี (Priyanka Chaturvedi) จากพรรคศิวเสนา (Shiv Sena) รัฐมหาราษฏระ เรียกร้องให้รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลและเทคโนโลยีอินเดียจัดการนำตัวคนที่อยู่เบื้องหลังแอปฉาวมาลงโทษ
“นอกเหนือจากปิดกั้นจากเว็บไซต์แล้วจำเป็นต้องลงโทษผู้ต้องหาเหล่านั้นที่สร้างแอปเหล่านั้นขึ้นมา” ชาตูร์เวดี กล่าวทางทวิตเตอร์โดยชี้ว่าแอปเหล่านี้มีเป้าหมายไปที่กลุ่มหญิงมุสลิมเป็นหลัก
โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ANI ของอินเดียโดยชี้ว่า แอปใหม่เกิดขึ้นมาเนื่องมาจากคนที่อยู่เบื้องหลังยังไม่ได้ถูกลงโทษ
อินเดียทูเดย์รายงานว่า ขณะที่อดีตหัวหน้าพรคฝ่ายค้านอินเดีย ราหุล คานธี ทวีตว่า “การเหยียดหยามและความเกลียดชังต่อสตรีเหล่านี้จะหยุดลงได้ก็ต่อเมื่อพวกเราร่วมกันต่อต้านเป็นเสียงเดียวกัน ปีได้เปลี่ยนแล้วในเวลานี้พวกเราต้องลุกขึ้นพูด!”
ข่าวแอป Bulli Bai ลงประมูลหญิงมุสลิมหลายร้อยคนเกิดขึ้นเมื่อเกือบ 6 เดือนโดยคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังจะรวบรวมรูปภาพเหยื่อจากโซเชียลมีเดียและเรียกร้องให้คนเข้าร่วมการประมูล
บีบีซีชี้ว่า นี่ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่มีความพยายามในการที่จะแสดงการกีดกันและหมิ่นหญิงมุสลิม เพราะเมื่อกรกฎาคมปีที่ผ่านมามีแอปและเว็บไซต์ชื่อ Sulli Deals เกิดขึ้นในลักษณะที่คล้ายกันและถูกสั่งปิดไป โดยเหมือนกันทั้งคู่ที่ไม่มีการซื้อขายจริงเกิดขึ้น ซึ่ง Sulli เป็นคำที่เรียกหญิงมุสลิมในทางเหยียดหยามโดยกลุ่มชาวฮินดูหัวรุนแรงในอินเดีย