xs
xsm
sm
md
lg

สหภาพยุโรปไฟเขียว “วัคซีนโนวาแวกซ์” ท่ามกลางโอมิครอนแผลงฤทธิ์ทำหลายประเทศกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี - สำนักงานยายุโรปวันนี้ (20 ธ.ค.) ได้แนะนำไฟเขียวแบบมีเงื่อนไขแก่บริษัทโนวาแวกซ์ผู้ผลิตวัคซีนสัญชาติสหรัฐฯ สำหรับวัคซีนโควิด-19 ตัวที่ 5 ของ EU แก่กลุ่มอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปสำหรับ 27 ประเทศสมาชิก โดยในเวลานี้บริษัทกำลังทดสอบกับไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาดไปทั่ว

เอพีรายงานวันนี้ (20 ธ.ค.) ว่า สำนักงานยายุโรป EMA (European Medicines Agency) ผู้กำกับด้านยาของสหภาพยุโรปในวันจันทร์ (20) ได้เสนอไฟเขียวแก่วัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปของบริษัทยาฟาซูมิคอลสหรัฐฯ "โนวาแวกซ์" (NOVAVAX) ซึ่งเป็นการให้คำแนะนำให้อำนาจอย่างมีเงื่อนไขทางการตลาดแก่บริษัท แต่การได้รับอนุญาตขั้นสุดท้ายต้องออกมาจากคณะกรรมาธิการยุโรปเกิดขึ้นท่ามกลางหลายชาติในยุโรปกำลังต่อสู้กับจำนวนเคสที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางความวิตกในการแพร่ระบาดไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน และมีหลายชาติรวมเนเธอร์แลนด์ที่ล่าสุดสั่งล็อกดาวน์เพื่อป้องกัน

ซึ่งในเวลานี้บริษัทโนวาแวกซ์กล่าวว่า กำลังอยู่ในขั้นทดลองว่าวัคซีนโควิด-19 ของตัวเองนั้นสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้ดีมากเพียงใด และเหมือนอย่างเช่นเดียวกันกับบริษัทยาฟาซูมิคอลอื่นๆ ที่กำลังปรับปรุงสูตรยาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

และหากว่าคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปอนุมัติวัคซีนโควิด-19 ของโนวาแวกซ์แล้วจะทำให้ยุโรปเพิ่มวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวใหม่เข้าคลังหลังจากมีก่อนหน้ามีมาจาก 4 บริษัท คือ ไฟเซอร์-ไบออนเทค โมเดอร์นา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซนเนก้า

EMA แถลงว่า คณะกรรมการยาสำหรับมนุษย์ของสำนักงานได้สรุปจากการลงประชามติว่า ข้อมูลจากวัคซีนโนวาแวกซ์นั้นแข็งแกร่งและเป็นไปตามข้อกำหนดที่วางไว้ของ EU ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และคุณภาพ

ด้านประธานบริษัทยาโนวาแวกซ์ สแตนลีย์ ซี.เอิร์ค (Stanley C.Erck) แสดงความเห็นว่าหากว่าคณะกรรมาธิการยุโรปในท้ายที่สุดยืนยันการตัดสินใจของ EMA ที่ให้ไฟเขียวแก่วัคซีนโนวาแวกซ์แล้ว "บริษัทจะทำการส่งมอบวัคซีนที่มีต้นกำเนิดจากโปรตีนล็อตแรกให้ได้กับทางยุโรปได้ในช่วงเวลาที่สำคัญที่พวกเราเชื่อมั่นว่าการมีทางเลือกสำหรับวัคซีนจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นทางภูมิคุ้มกัน"

ทั้งนี้ ในหน้าร้อนปีที่ผ่านมามีรายงานว่า โนวาแวกซ์ทำการศึกษากลุ่มอาสาสมัคร จำนวน 30,000 คน ทั้งในสหรัฐฯ และเม็กซิโกและพบว่าวัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพราว 90% ต่อการป่วยที่แสดงอาการในสายพันธุ์ก่อนหน้าซึ่งคล้ายคลึงกับผลการศึกษาในอังกฤษของกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 15,000 คน

นอกจากนี้ ในการศึกษาที่ตามมาหลังจากนั้น เข็มกระตุ้นที่ได้รับหลังการฉีดห่างจากเข็มสุดท้ายไปราว 6 เดือนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ให้กับแอนติบอดี้ได้อย่างเพียงพอสำหรับสายพันธุ์เดลตาซึ่งในช่วงเวลาที่ศึกษาเป็นสายพันธุ์ที่กำลังมีความร้ายแรงสูงสุด

ทั้งนี้ บริษัทโนวาแวกซ์กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า สำหรับการส่งมอบวัคซีนในล็อตแรกๆ ให้ EU จะมาจากสถาบันเซรุ่มวิทยาของอินเดีย (Serum Institute of India) แต่หลังจากนั้นทางบริษัทจะทำการส่งมอบจากซัปพลายเชนของบริษัทที่อื่นๆ ทั่วโลกต่อไป

โดยในอดีตที่ผ่านมา โนวาแวกซ์มีปัญหาในการผลิตโดยหัวหน้าการวิจัยและพัฒนาของโนวาแวกซ์ ดร.เกร็กกอรี เกลนน์ (Dr.Gregory Glenn) กล่าวว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การผลิตโปรตีนตรงส่วนหนาม (spike protein) แต่เป็นความสามารถในการทำและการบรรจุในปริมาณมาก

ทั้งนี้ โนวาแวกซ์เป็นพันธมิตรกับสถาบันเซรุ่มวิทยาอินเดีย และพบว่ามี 2 บริษัทล่าสุดได้รับอนุญาตฉุกเฉินสำหรับวัคซีนโนวาแวกซ์ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์

นอกเหนือจากนี้พบว่าโนวาแวกซ์มีซัปพลายเชนผลิตทั้งในสาธารณรัฐเช็ก เกาหลีใต้ และที่อื่นๆ ซึ่งปัจจุบันวัคซีนโนวาแวกซ์ของบริษัทได้รับอนุญาตใช้ฉุกเฉินในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และคำขออนุญาตที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาจากองค์การอนามัยโลก WHO และอังกฤษ รวมไปถึงมีแผนที่จะยื่นขออนุญาตจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ FDA ภายในสิ้นปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น