(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Omicron knocking on China’s ‘zero Covid’ door
By JEFF PAO
18/12/2021
ตัวกลายพันธุ์ใหม่ของโควิด-19 ที่ติดต่อแพร่เชื้อได้ง่ายดายรวดเร็ว กำลังค่อยๆ แทรกตัวเข้าไปในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ ถึงแม้จะมีการใช้มาตรการป้องกันสกัดกั้นชนิดที่บางอย่างเรียกได้ว่าเข้มงวดกวดขันมากที่สุดในโลกก็ตามที
ฮ่องกง - เคสผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ “โอมิครอน” กำลังค่อยๆ แทรกตัวผ่านแนวกำแพงป้องกันแบบยุทธศาสตร์ “โควิดต้องเป็นศูนย์” ของฮ่องกง จนสร้างความกังวลให้แก่ชาวบ้านชาวเมืองว่าจะเกิดโรคโควิด-19 ระบาดอีกระลอกหนึ่ง และก่ออันตรายแก่แผนการที่ได้รับการคาดหวังเอาไว้อย่างสูงในเรื่องที่เขตบริหารพิเศษแห่งนี้จะเปิดพรมแดนกับจีนแผ่นดินใหญ่ขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งตอนปลายเดือนธันวาคมนี้ ทั้งนี้จนถึงวันเสาร์ (18 ธ.ค.) นครแห่งนี้ระบุยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้ง่ายดายยิ่งตัวนี้ 14 รายแล้ว
เวลาเดียวกันนั้นเอง จีนก็รายงานพบผู้ติดโควิด-19 รายใหม่รวม 125 คนในวันศุกร์ (17 ธ.ค.) โดยที่ 89 คนเป็นการติดต่อแพร่เชื้อภายในท้องถิ่น ทั้งนี้ตามรายงานของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ รายงานชี้ด้วยว่าตัวเลขใหม่นี้ถือเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่เกิดจากภายในท้องถิ่นเองซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน อันเป็นวันซึ่งจีนพบเคสภายในประเทศ 91 ราย อย่างไรก็ดี ในเฉพาะหน้านี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าผู้ติดเชื้อสูงลิ่วเมื่อวันศุกร์ (17 ธ.ค.) มีหรือไม่และมีกี่รายที่ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอน
ตามรายงานข่าวบอกว่า การระบาดนี้บังคับให้โรงงานสิบกว่าแห่งในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นศูนย์โรงงานอุตสาหกรรมการผลิตทางภาคตะวันออกของจีน ต้องปิดชั่วคราว
รอยร้าวในยุทธศาสตร์ “โควิดต้องเป็นศูนย์” ที่ใช้กันในจีนและฮ่องกงเจริญรอยตามนี้ บังเกิดขึ้นขณะที่ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนซึ่งพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้กำลังระบาดพรวดพราดในโลกตะวันตก โดยที่พบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อขึ้นสูงอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา เป็นต้นว่ารัฐนิวยอร์กรายงานว่าจำนวนเคสผู้ติดเชื้อรายวันทะยานขึ้นไปทำสถิติใหม่เมื่อวันศุกร์ (17 ธ.ค.) ด้วยตัวเลข 21,027 ราย
รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่เป็นรัฐซึ่งมีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย ก็รายงานว่าพบผู้ติดโควิด-19 สูงสุดเป็นสถิติใหม่ที่ 2,482 รายเมื่อวันเสาร์ (18 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันถัดจากที่มีการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ควบคุมผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศสำหรับพวกที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว อันเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าโอมิครอนน่าที่จะสามารถบุกเข้าสู่แดนจิงโจ้อย่างขนานใหญ่
ฮ่องกงทำท่าว่าจะกลายเป็นปากทางสำหรับให้โอมิครอนรุกเข้าสู่แผ่นดินใหญ่จีน ถ้าหากพรมแดนเปิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ธ.ค.) นักบินในเที่ยวบินบรรทุกสินค้าของคาเธย์แปซิฟิกวัย 36 ปีผู้หนึ่ง ถูกระบุว่าติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ที่ติดต่อได้ง่ายดายนี้ในฮ่องกง เขาเดินทางถึงนครแห่งนี้จากสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์ (13 ธ.ค.) และมีผลทดสอบเชื้อออกมาเป็นลบเมื่อตรวจ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.info.gov.hk/gia/general/202112/16/P2021121600619.htm?fontSize=2)
เขาได้รับการยกเว้นไม่ต้องถูกกักกันโรคเป็นเวลา 21 วันหลังเดินทางเข้าสู่ฮ่องกง สืบเนื่องจากลักษณะงานอาชีพของเขา ระหว่างช่วง 3 วันของการสอดส่องดูแลทางการแพทย์อย่างเข้มข้นยิ่งขึ้นนั้น เขาพำนักอยู่ที่อาคารชวงฮิง (Cheung Hing Building) เลขที่ 44-48 ถนนพิตต์ (Pitt Street) ย่าน เหยา หม่า เท (Yau Ma Tei) แต่ในวันพุธ (15 ธ.ค.) เขาออกจากที่พักไปยังศูนย์ทดสอบเคลื่อนที่ในย่านที่อาศัยของเขาเพื่อตรวจโควิด-19 รวมทั้งยังเดินทางไปยังที่อื่นๆ อีกหลายแห่งเพื่อซื้อหาอาหาร
ณ ศูนย์ทดสอบ ปรากฏว่าเขาแสดงอาการติดเชื้อโดยที่ผลค่า cycle threshold (ct) ออกมาที่ประมาณ 25 ถึง 29 รอบ เขาจึงถูกส่งตัวไปกักกันโรคในทันที นักบินผู้นี้ซึ่งฉีดวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค 2 เข็มแล้วเมื่อวันที่ 22 มีนาคม และวันที่ 5 เมษายนที่ฮ่องกง มีผลการตรวจออกมาว่ามีเชื้อตัวกลายพันธุ์ N501Y ทว่ามีผลออกมาเป็นลบสำหรับสายพันธุ์ L452R และ E484K
เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขฮ่องกงสงสัยว่า ชายผู้นี้อาจติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอน จึงูออกคำสั่งให้บังคับตรวจโควิดในสถานที่ต่างๆ รวม 6 แห่ง เป็นต้นว่า ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต “เวลคัม” ณ เลขที่ 40 ถนนวอเตอร์ลู, ร้านซูเปอร์สโตร์แห่งหนึ่งที่ เกตเวย์ อาร์เคด ของฮาร์เบอร์ซิตี้, ร้านเซอร์เคิล เค ถนนพิตต์, ร้านแมนนิงส์ เลขที่ 494-496 ถนนนาธาน, และร้านซูเปอร์มาร์เก็ต “เวลคัม” อีกแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ที่ เลขที่ 1 ถนนกว่องหวา
ก่อนหน้านี้ ก็มีการออกคำสั่งบังคับตรวจโควิดผู้คนที่พักอาศัยอยู่ในอาคารชวงฮิง ซึ่งนักบินที่ติดเชื้อพำนักอยู่ จนกระทั่งถึงวันศุกร์ (17 ธ.ค.) ยังไม่มีใครในจำนวนผู้คน 160 คนในอาคารหลังนี้มีผลตรวจออกมาเป็นบวก ด้านคาเธย์แปซิฟิกแถลงว่า เครื่องบินที่นักบินผู้นี้ขับมายังฮ่องกง ถูกส่งไปทำความสะอาดอย่างเข้มข้นแล้ว พร้อมกับระบุว่าพวกลูกเรือในเที่ยวบินบรรทุกสินค้าดังกล่าวต่างฉีดวัคซีนกันแล้วครบถ้วน
ในวันศุกร์ (17 ธ.ค.) ฮ่องกงยังพบเคสติดเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย โดยทั้งคู่ต่างเป็นลูกเรือบรรทุกสินค้าในเที่ยวบิน ACP502 ซึ่งมาถึงฮ่องกงโดยบินจากเคนยา, อินเดีย, และยูกันดา ผ่านซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันพุธ (15 ธ.ค.)
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.info.gov.hk/gia/general/202112/16/P2021121600619.htm?fontSize=2)
ลูกเรือทั้ง 2 ซึ่งอายุ 41 ปีคนหนึ่ง และอยู่ในวัย 27 ปีอีกคนหนึ่ง ต่างผ่านการฉีดวัคซีนแอสตร้า เซนเนก้า และ วัคซีนโมเดอนนา ครบโดสแล้ว ที่ประเทศเคนยา
ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลฮ่องกงออกประกาศว่า ผู้เดินทางกลับมาจากสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร จะต้องถูกกักกันโรคเป็นเวลา 1 สัปดาห์ในค่ายพักแบบแยกจากคนอื่น รวมทั้งใช้ชีวิตความเป็นอยู่แบบสมถะ จากนั้นก็ต้องใช้เวลาอีก 14 วันในห้องพักของโรงแรม ซึ่งพวกเขาจะต้องเป็นผู้จ่ายเงินเอง
การนำเอามาตรการเช่นนี้มาบังคับใช้กับผู้เดินทางจากสหรัฐฯนั้น เกิดขึ้นภายหลังพวกเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้เดินทางรายหนึ่งที่เดินทางมาคนเดียว มีเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ตอนที่เขาบินเข้าสู่ฮ่องกงจากเมืองลองแองเจลิสในวันที่ 7 ธันวาคม
กว่างโจว (กวางเจา) เมืองท่าใหญ่โตบนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของฮ่องกง รายงานพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนภายในท้องถิ่นเป็นรายแรกเมื่อวันศุกร์ (17 ธ.ค.) เป็นเครื่องบ่งชี้อีกประการหนึ่งว่าตัวกลายพันธุ์นี้กำลังเริ่มต้นแพร่กระจายไปภายในจีน เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้งแห่งนี้ยังประกาศล็อกดาวน์พื้นที่หนึ่งของเมืองในวันอังคาร (14 ธ.ค.) หลังจากชายวัย 67 ปีผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศเมื่อปลายเดือนที่แล้ว มีผลตรวจออกมาว่าติดเชื้อ
ในจีนแผ่นดินใหญ่นั้น ผู้เดินทางเข้ามาทุกๆ รายต้องถูกแยกตัวไปอยู่ตามโรงแรมที่กำหนดเอาไว้เป็นระยะเวลา 14 วัน แล้วจากนั้นจะต้องกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลาอีก 7 วัน
ขณะที่คนไข้ที่เป็นชายวัย 67 ปี แรกทีเดียวเขาเข้าจีนโดยผ่านทางเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ผลตรวจโควิด-19 ของเขาออกมาเป็นลบครั้งแล้วครั้งเล่าในระหว่างการกักตัว ในวันที่ 11 ธันวาคม เขาจึงได้เดินทางด้วยเที่ยวบินภายในปรเทศกลับไปยังภูมิลำเนาของเขาในเมืองกว่างโจว แต่แล้วตอนเช้าวันจันทร์ (13 ธ.ค.) เขามีผลตรวจออกมาเป็นบวกสำหรับเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอน
สิ่งที่ติดตามมาก็คือ บริเวณที่ชายผู้นี้พำนักอาศักถูกสั่งล็อกดาวน์ และชาวบ้านชาวเมืองถูกบังคับให้ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อเป็นครั้งที่ 2 ภายในระยะเวลา 3 วัน ในวันพฤหัสบดี (16 ธ.ค.) หญิงวัย 70 ปีผู้หนึ่งที่เป็นเพื่อนบ้านกัน ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโอมิครอนอีกรายหนึ่ง
ตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา รัฐบาลฮ่องกงได้เพิ่มความเข้มงวดในกฎระเบียบต่อสู้โรคระบาดใหญ่ของพวกเขา ในความพยายามที่จะเพิ่มเงื่อนไขในทางบวกเพื่อสนับสนุนการเปิดพรมแดนที่ติดต่อกับจีนแผ่นดินใหญอีกคำรบหนึ่ง ก่อนการย่างกรายเข้ามาของโอมิครอนนั้น เป็นที่คาดหมายกันว่าปักกิ่งจะประกาศเปิดพรมแดนติดต่อกับฮ่องกงขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังจากการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติของฮ่องกง เสร็จสิ้นสมบูรณ์ในวันอาทิตย์ (19 ธ.ค.)
กระทั่งในวันเสาร์ (18 ธ.ค.) ผู้ทำหน้าที่โฆษกให้รัฐบาลฮ่องกงรายหนึ่ง แถลงว่า การตระเตรียมสำหรับแผนการเปิดพรมแดนอีกครั้งนั้นได้มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ขณะที่ ไมเคิล เถียน (Michael Tien) สมาชิกสภานิติบัญญัติที่เป็นพวกโปรปักกิ่ง ก็พูดเช่นกันว่าแผนการเรื่องนี้จะถูกประกาศออกมาในเร็วๆ นี้แล้ว โดยตอนนี้ก็ต้องรอการตัดสินในขั้นสุดท้ายของปักกิ่ง