ฟิลิปปินส์พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 รายจากอิทธิพลของซูเปอร์ไต้ฝุ่นราอี (Rai) ซึ่งถือเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดของปีนี้ และมีรายงานว่า หมู่เกาะซึ่งพายุเคลื่อนผ่านโดยตรงได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ชาวฟิลิปปินส์กว่า 300,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนตามชุมชนชายฝั่ง ในขณะที่ไต้ฝุ่นราอีพัดเข้าถล่มภาคใต้และตอนกลางของฟิลิปปินส์ โดยความแรงของพายุทำให้บ้านเรือนพังเสียหาย เสาไฟฟ้าหักโค่น ระบบสื่อสารถูกตัดขาด และมีไฟฟ้าดับหลายพื้นที่
พายุราอีได้ทวีความแรงถึงระดับ “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ด้วยความเร็วลม 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่พัดเข้าสู่เกาะซีอาร์เกา (Siargao) ซึ่งเป็นสถานตากอากาศชื่อดังเมื่อวันพฤหัสบดี (16 ธ.ค.) และค่อยๆ อ่อนกำลังเหลือ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขณะที่มันเคลื่อนตัวผ่านหมู่เกาะฟิลิปปินส์
“มันคือไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดลูกหนึ่งในรอบ 10 ปีที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในช่วงเดือน ธ.ค.” อัลเบอร์โต โบคาเนกรา หัวหน้าสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงประจำฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“จากข้อมูลและภาพถ่ายที่เราได้รับมา ถือว่าสถานการณ์น่ากังวลมาก”
มารก ทิมบัล โฆษกสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์ ระบุว่า ตำรวจ ทหาร หน่วยยามฝั่ง และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 18,000 นาย ได้สนธิกำลังร่วมค้นหาและช่วยชีวิตประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายหนักที่สุด โดยเฉพาะที่เกาะซีอาร์เกา และทางตอนเหนือสุดของเกาะมินดาเนาซึ่งเป็นจุดที่พายุพัดขึ้นฝั่ง
หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ได้โพสต์ภาพความเสียหายของเมืองซูรีเกา (Surigao) บนเกาะมินดาเนาลงในสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่ภาพถ่ายทางอากาศเผยให้เห็นสภาพไร่นาของชาวบ้านจมอยู่ใต้น้ำ
นายกเทศมนตรีเมืองซูรีเกาให้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ABS-CBN ว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคนที่เมืองแห่งนี้ ส่วนที่เกาะดินากัต (Dinagat) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กันก็พบผู้เสียชีวิตอีก 6 คน ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นราอีในฟิลิปปินส์เพิ่มเป็นอย่างน้อย 21 คน
สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์รายงานว่า ไต้ฝุ่นราอีได้เคลื่อนตัวผ่านเกาะปาลาวันของฟิลิปปินส์ออกสู่ทะเลจีนใต้แล้วในวันนี้ (18) และคาดว่าจะมุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศเวียดนาม
ฟิลิปปินส์เผชิญกับพายุไต้ฝุ่นปีละประมาณ 20 ลูก ซึ่งส่วนใหญ่มีอานุภาพรุนแรงและสร้างความเสียหายไม่น้อยต่อเรือกสวนไร่นาและบ้านเรือนในชนบท
หมู่เกาะฟิลิปปินส์ยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากปัญหาความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยนักวิทยาศาสตร์เตือนว่า ภาวะโลกร้อนอันเกิดจากฝีมือของมนุษย์มีส่วนทำให้พายุทวีความรุนแรงขึ้น
ที่มา : เอเอฟพี