นักท่องเที่ยวอังกฤษแห่ไปหา “ซานตาคลอส” ที่ขั้วโลกเหนือช่วงคริสต์มาส ทำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟินแลนด์กลับมาบูมอีกครั้ง

รอยเตอร์ - ซานตาคลอส และหิมะตกหนักกลายเป็นสิ่งดึงดูดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษให้มาเยือนหมู่บ้านซานตาคลอสที่เขตแลป์แลนด์ เหนือสุดของฟินแลนด์อย่างคึกคัก ปลุกการท่องเที่ยวของฟินแลนด์ที่ซบเซาจากสถานการณ์โควิด-19 ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (15 ธ.ค.) ว่า ซานนา คาร์กไคเนน (Sanna Karkkainen) ผู้อำนวยการบริหารองค์การท่องเที่ยวโรวานีมีและการตลาด (Rovaniemi Tourism and Marketing) เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาที่แลปแลนด์ช่วงคริสต์มาสมาจากอังกฤษ

“เครื่องบินเช่าเหมาลำอังกฤษเที่ยวแรกเกิดขึ้นระหว่างกลางเดือนพฤศจิกายน และสำหรับคนเหล่านี้เป้าหมายการเดินทางเพื่อที่จะได้พบกับซานตาคลอส” คาร์กไคเนน กล่าว

เมืองโรวานีมีในเขตแลปแลนด์ของฟินแลนด์ถูกขนานนามว่าเป็นบ้านของซานตาคลอสอย่างเป็นทางการ โดยเว็บไซต์การท่องเที่ยวของเมืองระบุว่า ภายในเมืองมีทั้งหมู่บ้านซานตาคลอสและการท่องเที่ยวต่างๆ ภายในเขตวงแหวนอาร์กติก (Arctic Circle)

อย่างไรก็ตาม คาร์กไคเนนเปิดเผยว่า การค้นพบไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนไม่ส่งผลทำให้เกิดการยกเลิกที่มีเคสติดเชื่อเพิ่มขึ้นและการจำกัดทางการเดินทางของฟินแลนด์เหมือนเช่นในปีที่ผ่านมา

ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ อังกฤษได้เพิ่มความเข้มงวดสำหรับคนที่ต้องการเดินทางกลับเข้าประเทศด้วยการกำหนดให้ต้องทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนการเดินทางและตรวจซ้ำอีกครั้งหลังจากเดินทางมาถึงแล้วโดยที่ไม่สนใจต่อสถานะการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของคนเหล่านั้น

บริษัทบริหารท่าอากาศยานฟินแลนด์ ฟินาเวีย (Finavia) และสำนักงานการท่องเที่ยวเมืองโรวานีมี “เยี่ยมโรวานีมี” (Visit Rovaniemi) ต่างเปิดเผยว่าไม่มีการยกเลิกการเดินทางแต่อย่างใด

โดยทางฟินาเวียเปิดเผยว่า จำนวนเครื่องบินเช่าเหมาลำสำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีนี้เกือบถึง 90% ของจำนวนในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19

ปัจจุบันนี้รัฐบาลเฮลซิงกิกำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องแสดงหลักฐานการได้รับภูมิคุ้มกันจากวัคซีน ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบ หรือหลักฐานการหายป่วยจากโรคโควิด-19 ภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการองค์การท่องเที่ยวโรวานีมีเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะที่นักท่องเที่ยวเยือนแลปแลนด์ในปีนี้ส่วนใหญ่จะมาจากอังกฤษแต่ทว่ามีสัญญาณแสดงให้เห็นว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนเพิ่มขึ้นที่มาจากอิตาลีและฝรั่งเศส

ซึ่งก่อนที่โควิด-19 จะกลายเป็นโรคระบาดไปทั่วโลก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแลปแลนด์เห็นเครื่องบินเช่าเหมาลำราว 724 เที่ยวลงจอดที่สนามบินทั้ง 4 แห่งของเขตเหนือสุดของฟินแลนด์ โดยที่คิตทิลลา (Kittila) และโรวานีมีเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมมากที่สุด

รอยเตอร์รายงานว่า ในเดือนธันวาคมปี 2019 เขตแลปแลนด์ต้อนรับนักท่องเที่ยว 152,000 คน และยอดขายโรงแรมที่พักราว 39.3 ล้านยูโร อ้างอิงจากบริษัทวิจัย TAK

อ้างอิงจากรายงานจากกระทรวงเศรษฐกิจของฟินแลนด์ประจำปี 2020 พบว่า ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 การส่งออกทางการท่องเที่ยวฟินแลนด์เติบโตขึ้น 12% ต่อปี และรายได้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคิดเป็น 2.7% ของตัวเลข GDP ของฟินแลนด์