พล.อ.บิปิน ราวัต ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพอินเดีย เป็นหนึ่งใน 13 คนที่เสียชีวิตเมื่อวันพุธ (8 ธ.ค.) เมื่อเฮลิคอปเตอร์ทหารที่พวกเขาโดยสารเกิดประสบอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ตามคำแถลงของกองทัพอากาศ
ทั้งหมดอยู่ระหว่างเดินทางจากฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งไปยังวิทยาลัยการทหารแห่งหนึ่งในแถบเนินเขา ในรัฐทมิฬนาดู แต่ระหว่างนั้นเฮลิคอปเตอร์ Mi-17V5 ที่ผลิตโดยรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกใกล้กับเมืองคูนูร์
รายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยให้เห็นภาพหน่วยกู้ภัยและบุคลากรทาทหารกำลังช่วยกันแบกศพจากซากแหลกสลายของเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปบนเนินเขา พร้อมระบุว่า ในบรรดา 14 คนที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์นั้น มีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว และถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
"ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ตอนนี้แน่ใจแล้วว่า พล.อ.บิปิน ราวัต และนางมาธูลิกา ราวัต ภรรยาของเขา และคนอื่นๆ อีก 11 คนที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์เสียชีวิต" ถ้อยแถลงของกองทัพอากาศระบุ
พล.อ.ราวัต วัย 63 ปี ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะเสนาธิการทหาร หรือซีดีเอส (Chief of Defence Staff : CDS) เป็นคนแรกของประเทศ โดยรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เมื่อปลายปี 2019 ตำแหน่งซีดีเอส ซึ่งเทียบเท่ากับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อบูรณาการ 3 เหล่าทัพของอินเดีย คือ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ
แหล่งข่าว 2 คนของรัฐบาลเปิดเผยว่า หลายศพอยู่ในสภาพไหม้เกรียม และ "บางศพดำเป็นตอตะโก จนไม่สามารถระบุตัวตนได้ทันที"
โมดี ระบุว่า เขาเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสียชีวิตกะทันหันของ พล.อ.ราวัต พร้อมยกย่องเขาในฐานะ "เป็นผู้รักชาติที่แท้จริง และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการปรับปรุงเหล่าทัพของเราและยุทโธปกรณ์ด้านความมั่นคงให้มีความทันสมัย" นายกรัฐมนตรีระบุ
กองทัพอากาศอินเดียได้สั่งให้มีการไต่สวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว
อินเดียมีเฮลิคอปเตอร์ Mi-17 ในประจำการหลายสิบลำ โดยเฮลิคอปเตอร์เหล่านี้ถูกใช้อย่างกว้างขวางสำหรับขนส่งบุคลากรระดับสูงของกองทัพและบรรดาคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล "มันมีความปลอดภัย เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ผมเคยโดยสารมันผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากมานักต่อนัก" เจ.เจ.ซิงห์ อดีตผู้บัญชาการทหารระบุ
(ที่มา : รอยเตอร์)